Obara เมืองซากุระบานยามใบไม้เปลี่ยนสี (แนะนำการเดินทาง)


ช่วงนี้เห็นหลายๆ คนกำลังวางแผนการเดินทางเพื่อไปชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่นกัน และหนึ่งในจุดหมายคือการไปชมซากุระบานในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่เมือง Obara  นี่ก็เป็นรีวิวแรกของตัวเองหลังจากที่เคยได้รับข้อมูลดีๆจากเพื่อนชาว BP จึงอยากจะแชร์ประสบการณ์ในการเดินทางบ้าง และในการเดินทางไปยัง Obara ที่ผ่านมานั้นได้ใช้เส้นทางที่ต่างจากเพื่อนๆที่ได้เคยทำรีวิวเอาไว้ ก็ถือว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการเดินทางนะคะ แต่ส่วนตัวคิดว่าค่อนข้างสะดวกเลยทีเดียว
การเดินทางวิธีนี้จะใช้ได้เฉพาะในช่วงที่มีการจัดงานซากุระบานของเมือง Obara ซึ่งในปีที่แล้วจัดถึงวันที่ 30 พย. โดยทางผู้จัดจะมีรถบริการรับส่งถึงจุดจัดงาน  ส่วนท่านที่จะเดินทางด้วยวิธีนี้สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Tourist information center สถานีรถไฟ Nagoya

ไหนๆก็อยู่ที่เมือง Nagoya แล้ว ก่อนเดินทางไป Obara ขอแวะถ่ายรูปใบไม้เปลี่ยนสีที่ปราสาท Nagoya ก่อนนะคะ


เริ่มเดินทางสู่เมือง Obara กันเลยค่ะ

การเดินทางใช้ Subway สาย Higashiyama นั่งจนสุดสายที่สถานี Fujigaoka แล้วไปต่อรถไฟลอยฟ้าสาย Linimo นั่งสุดสายที่สถานี Yakusa

ออกจากสถานี Yakusa เดินลงมาชั้นล่างและเดินไปที่ป้ายจอดรถประจำทางจะเห็นรถ Shutter bus นั่งได้ประมาณไม่เกิน 15 คน จอดอยู่ ซึ่งน่าจะเป็นรถเฉพาะกิจที่ใช้รับส่งสำหรับงานเทศกาล

ค่าโดยสารอยู่ที่ 500 เยนต่อเที่ยว โดยจะมีจุดจอดรถ 3 จุด ตารางเวลาไป-กลับ สามารถหยิบได้บนรถ


การเดินทางไปยังเมืองเล็กที่ห่างไกลออกไปนั้นการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษก็ยิ่งน้อยตามไปด้วย ในวันที่ไปนั้นทั้งรถมีแต่คนแก่สูงวัยสอบถามอะไรไปก็คุยกันไม่รู้เรื่อง แต่ด้วยการเป็นเจ้าบ้านที่ดีเยี่ยมแกก็พยายามใช้ภาษาใบ้ผสมภาษามืออธิบายจุดจอดรถต่างๆให้ สรุปสุดท้ายได้ความแค่ว่าจุดจอดรถสุดท้ายคือจุดE ในแผนที่ ซึ่งเป็นจุดไฮไลต์ที่มีต้นซากุระมากที่สุด ระหว่างทางก็นั่งชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสีตามเขาไปเรื่อยๆพร้อมกับการสนทนาของคนต่างวัย ต่างเชื้อชาติ ต่างภาษา แต่ถึงแม้จะไม่สามารถสื่อสารกันเข้าใจด้วยภาษาแต่ทั้งสองฝ่ายก็รับรู้ถึงความสุขใจจากการเดินทาง ประมาณ 50 นาทีผ่านไปเมื่อใกล้ถึงบริเวณงานรถค่อนข้างติดมาก รถ Shutter bus คันเราก็วิ่งออกนอกเส้นทางไปยังจุดแรกจึงทำให้ไม่เสียเวลารถติดบนท้องถนน เมื่อมาถึงจุดแรกทุกคนลงจากรถกันหมดยกเว้นพวกเราที่จะนั่งรถไปต่อยังจุดสุดท้ายเนื่องจากเวลานั้นยังไม่รู้ว่าจุดที่1 และ2 เป็นจุดไหนในแผนที่และจะมีรถมารับตามจุดอย่างไร ต้องเสียค่ารถเท่าไรจึงนั่งไปจุดสุดท้ายที่เป็นไฮไลต์ก่อนแล้วค่อยหาทางย้อนกลับลงมา


เมื่อมาถึงจุดสุดท้ายนั้นจากที่จอดรถเราสามารถเดินไปตามถนนหลักหรือจะลงมาเดินเลียบตามธารน้ำก็ได้ แนะนำให้เดินเลาะธารจะสวยกว่าค่ะตามข้างทางจะมีซากุระและใบไม้เปลี่ยนสีเรียงรายตลอดแนว เดินเรื่อยๆจนขึ้นถนนหลักซ้ายมือจะเห็นภูเขาเล็กๆที่มีต้นซากุระอยู่เต็มทั้งเขาสลับกับใบไม้เปลี่ยนสี



บนภูเขาจะมีวัดเล็กๆอยู่ด้านบน ถ้าแรงยังดีสามารถปีนบันไดสูงชันขึ้นไปยังวัดที่อยู่ด้านบนได้


หรือจะเดินชมซากุระแบบใกล้ๆ ซึ่งจะมีทางเดินใกล้กับทางขึ้นบันไดวัดแยกไปด้านข้าง ใบไม้แดงเต็มที่สวยงามจริงๆ

ทางเดินจะเป็นทางขึ้นเขาไปเรื่อยๆด้านบนสามารถมองลงมาเห็นวิวด้านล่างสวยงามมาก

หลังจากเดินเที่ยวที่จุดEแล้วก็กลับมายังจุดจอดรถเดิมเพื่อขึ้นรถกลับไปยังจุดที่2 และ1 ขณะเดินกลับมาเห็นรถบัสที่คล้ายๆรถบรรทุกจอดอยู่จึงเข้าไปถามคนขับว่าลงไปที่จุด2และ1 หรือปล่าวและค่ารถเท่าไร คุยกันไม่รู้เรื่องอย่างเคยแต่ได้ยินคำว่าFree มาคำเดียวรีบกระโดดขึ้นรถเลย

นั่งมาถึงจุด2 ซึ่งถ้าเทียบกับแผนที่น่าจะเป็นจุด C แต่เห็นว่าไม่ค่อยมีอะไรก็เลยนั่งรถต่อมาลงที่จุด1 (จุดA ในแผนที่) ซึ่งก็คือบริเวณที่จัดงานเทศกาล มีลานกว้างๆที่ชาวบ้านมาออกร้านขายของ ส่วนใหญ่เป็นซุ้มขายของกิน

จุดนี้จะมีทางเดินชมสวนได้โดยรอบและใบไม้แดงของต้นMomiji กำลังสวยมากๆ

ถึงเวลาต้องจากเมืองObara ด้วยรถเที่ยวสุดท้ายตอน 17.15 น. ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เดินทางกลับก็เป็นกลุ่มคนแก่สูงวัยกลุ่มเดิมที่เราพบตอนมา ท่านๆทั้งกลุ่มยังคงสร้างความประทับใจส่งท้ายให้พวกเราโดยการเดินมาส่งขึ้นรถไฟฟ้ากลับ ขอบคุณสำหรับความทรงจำดีดีค่ะ

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาตามอ่านและรีวิวแรกนี้หากมีข้อผิดพลาดโปรดแนะนำและติชมด้วยค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่