เริ่มจากเรื่องแรก โรงแรมผี พ.ศ. 2545
เรื่องนี้ถ่ายทำที่วังเก่า (ไม่ขอเอ่ยชื่อวังดีกว่าเนอะ) ในช่วงที่กำลังถ่ายทำอยู่นั้น ปรากฎว่ามีประตูบานหนึ่งปิดดัง ปัง! ทั้งๆที่ไม่มีลมและในวังไม่มีคนอยู่ ลักษณะคล้ายกับคนปิดประตูใส่อย่างแรงและที่สำคัญ ในห้องนั้น ไม่มีคนอยู่ !!
และขณะถ่ายทำ ขณะที่ผู้กำกับกำลังจะเดินกล้อง จู่ๆก็มีเลียงเคาะประตู ก๊อกๆๆๆ จนต้องสั่งหยุดแล้วไปดุว่ามีใครเคาะ ปรากฎว่าไม่มีใคร มีแต่ความว่างเปล่า ผู้กำกับจึงสั่งถ่ายต่อ แต่ก็ยังมีเสียง ก๊อกๆๆ ดังขี้นอีก คราวนี้ทุกคนได้แต่เงียบ ไม่มีใครกล้าพูดอะไร จนกระทั่งถ่ายจนจบ
ยังไม่หมดแค่นั้น ยังมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญ ปรากฎอยู่ในหนังเรื่องนี้ด้วย ทั้งๆ ที่ไม่มีบุคคลภายนอกหรือใครเข้ามาในตอนนั้น ช่างภาพเองตอนถ่ายก็ไม่เห็น จนกระทั่งล้างฟิล์มออกมา และที่สำคัญ ผกก ก็ไม่ได้ตัดฉากนั้นออก อยากรู้ไปดูเอาเองนะคะ อิอิ
2. อาถรรพ์ในละคร แม่โขง พีท +นิ้ง กุลสตรี
เรื่องที่เกิดเป็นตอนที่จะถ่ายฉากจบของละคร ถ่ายทำกันที่ เขากระโหลก ประจวบคีรีขันธ์ เป้นฉากที่นักแสดงต้องวิ่งแล้วหลบเอฟเฟ็คระเบิด ปรากฎว่าระเบิดไม่ทำงาน ถึง 7 เทค โกลดี้ สแตนลี่ย์ 1 ในนักแสดงจึงต้องไปจุดธูปขอขมา ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ หลังจากที่ขอขมาเรียบร้อย ระเบิดก็ทำงานลื่นไหล เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ยังไม่จบเท่านั้น ยังมีนักแสดงและทีมงาม มองเห็นเงาดำๆของผู้ชายตัวใหญ่ๆเท่าภูเขา ยืนจังก้าน่าสะพรึงให้เห็นทั้งสี่ตา สองคน เป็นไปไม่ได้ที่จะตาฝาดพร้อมกันขนาดนั้น พออย่างนี้ ทางทีมงานจึงได้ไปสอบถามชาวบ้าน เขาก็บอกว่าเขาถ้ำเขากระโหลกนี้มีคนเคยไปพูดลบหลู่ ปรากฎว่าต้องหลงทางอยู่ในถ้ำตั้ง 3 วัน 3 คืน ลองคิดดดูนะ ถ้ำตื้นๆแต่มีคนหลงถึง 3วัน ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อกันเลยล่ะงานนี้ ไหนจะที่เห้นผู้ชายตัวโตๆ ที่เห็นพร้อมกันสองคนอีก ถ้าไม่คิดว่าเป้นเรื่องเหลือเชื่อ ก็คงจะหาคำตอบอื่นมาอธิบายไม่ได้แน่นอน
3 อาถรรพ์ในกองถ่าย ผีสามบาท
ขณะที่กำลังถ่ายตอน ท่อนแขนนางรำ ในสวนป่าที่ต่างจังหวัด ขณะนั้นเป็นเวลาตี 2-3 กว่าๆ มีผู้ชายใส่ผ้าโจงกระเบนแบบคนโบราณมานั่งดูการถ่ายทำ ตอน ตี2 ตี3 ที่สำคัญ ฉากนี้มีแต่ ปราโมทย์ แสงสรคนเดียว ไม่มีนักแสดงหรือเอ็กตร้าคนไหนทั้งสิ้น นักแสดงและทีมงานไม่มีใครพูดอะไร แต่ชำเลืองมองเป็นระยะๆ สักพักชายคนนั้นก็หายไปอย่างไรร่องรอย โดยที่ไม่รู้ว่าไปตอนไหนยังไง อยู่กันเป็น10ก็น่าจะมีซักคนที่เห็นตอนเดินออกไปบ้าง และปรากฎว่าไม่มีใครเห็นชายปริศนาคนนั้นอีกเลย
4 วิญญาณแห่งความหวังดีจาก ภูตพิศวาศ นิ้ง - ทัช
มีการถ่ายทำกันที่ วัดโบสถ์ ปทุมธานี ทีมงานมีการนัดคิวนิ้งนางเอกของเรื่อง ยังไม่ทันคุยกันดีแบตโทรศัพท์ก็หมดซะก่อน แล้วละครเรื่องนี้จะเร่งมากเพราะถ่ายไปออนไป นิ้งหาทางไปวัดโบสถ์ไม่เจอ ตอนนั้นก็ดึกและเปลี่ยวมาแล้ว ตั้งใจว่าจะไปถามคนที่ลาดหลุมแก้วเอา แต่พอไปถึงก็ถามใครไม่ได้เพราะ 4-5 ทุ่มแล้ว นิ้งเองก็กลัว ปรากฎว่ามีรถของคุณอา วิทยา สุขดำรงค์ มาบีบแตรและให้นิ้งขับตามรถไป นิ้งได้แต่นึกในใจว่าถ้าไม่มีอาวิทยาเธอจะทำอย่างไรเพราะเส้นทางทั้งมดและเปลี่ยวขนาดนี้ ถ้าให้หาเองคงไปไม่ถูกแน่นอน จนมาถึงกองถ่าย ทีมงานที่รออยู่ก็หน้าชื่น ตัวนิ้งเองก้รีบไปทำผมแต่งหน้า ก็คุยกันไปเรื่อย แต่มีพี่ทีมงานบอกว่า พรุ่งนี้ทีมงานจะยกกองไปงานศพ นิ้งก็ถามว่าศพใคร ซึ่งพี่คนนั้นก็ถามนิ้งว่า อ้าว ไม่รู้หรอ อาวิทยาเสียแล้ว เป็นโรคหัวใจล้มเหลว เมื่อตอนบ่ายนี่เอง นิ้งได้ฟังก็หัวเราะไม่เชื่อ บอกพึ่งขับรถตามกันมาเองพี่ พอหันกลับไปดูรถ ปรากฎว่ามีแต่ความว่างเปล่า พร้อมกับมีลมและกลิ่นน้ำหอมที่เธอและพี่คนนั้นจำได้ว่า เป็นกลิ่นที่อาวิทยาชอบใช้ประจำ นิ้งทำท่าจะร้องลั่นแต่พี่ทีมงานได้แต่บอกให้นิ่งไว้ เดี๋ยวคนอื่นจะตกใจ คาดว่าคุณอาคงมาลาพวกเรา เธอก็เลยไม่ได้บอกกับใคร จนได้มาทราบว่า แม่ครัวในกองถ่ายก็รู้สึกว่าอามาลาเหมือนกัน ..
ยังมีอีกหลายเรื่อง เดี๋ยวเอามาต่อค่ะ
ขอบคุณที่มาจากหนังสือ สยองขวัญดารา ของคุณ ปางบรรพ์ มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ 
ต้อนรับเดือนตุลา เดือนแห่งวันฮาโลวีน มีเรื่องผีๆ ในกองถ่ายมาเล่าสู่กันฟังค่ะ
เรื่องนี้ถ่ายทำที่วังเก่า (ไม่ขอเอ่ยชื่อวังดีกว่าเนอะ) ในช่วงที่กำลังถ่ายทำอยู่นั้น ปรากฎว่ามีประตูบานหนึ่งปิดดัง ปัง! ทั้งๆที่ไม่มีลมและในวังไม่มีคนอยู่ ลักษณะคล้ายกับคนปิดประตูใส่อย่างแรงและที่สำคัญ ในห้องนั้น ไม่มีคนอยู่ !!
และขณะถ่ายทำ ขณะที่ผู้กำกับกำลังจะเดินกล้อง จู่ๆก็มีเลียงเคาะประตู ก๊อกๆๆๆ จนต้องสั่งหยุดแล้วไปดุว่ามีใครเคาะ ปรากฎว่าไม่มีใคร มีแต่ความว่างเปล่า ผู้กำกับจึงสั่งถ่ายต่อ แต่ก็ยังมีเสียง ก๊อกๆๆ ดังขี้นอีก คราวนี้ทุกคนได้แต่เงียบ ไม่มีใครกล้าพูดอะไร จนกระทั่งถ่ายจนจบ
ยังไม่หมดแค่นั้น ยังมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญ ปรากฎอยู่ในหนังเรื่องนี้ด้วย ทั้งๆ ที่ไม่มีบุคคลภายนอกหรือใครเข้ามาในตอนนั้น ช่างภาพเองตอนถ่ายก็ไม่เห็น จนกระทั่งล้างฟิล์มออกมา และที่สำคัญ ผกก ก็ไม่ได้ตัดฉากนั้นออก อยากรู้ไปดูเอาเองนะคะ อิอิ
2. อาถรรพ์ในละคร แม่โขง พีท +นิ้ง กุลสตรี
เรื่องที่เกิดเป็นตอนที่จะถ่ายฉากจบของละคร ถ่ายทำกันที่ เขากระโหลก ประจวบคีรีขันธ์ เป้นฉากที่นักแสดงต้องวิ่งแล้วหลบเอฟเฟ็คระเบิด ปรากฎว่าระเบิดไม่ทำงาน ถึง 7 เทค โกลดี้ สแตนลี่ย์ 1 ในนักแสดงจึงต้องไปจุดธูปขอขมา ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ หลังจากที่ขอขมาเรียบร้อย ระเบิดก็ทำงานลื่นไหล เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ยังไม่จบเท่านั้น ยังมีนักแสดงและทีมงาม มองเห็นเงาดำๆของผู้ชายตัวใหญ่ๆเท่าภูเขา ยืนจังก้าน่าสะพรึงให้เห็นทั้งสี่ตา สองคน เป็นไปไม่ได้ที่จะตาฝาดพร้อมกันขนาดนั้น พออย่างนี้ ทางทีมงานจึงได้ไปสอบถามชาวบ้าน เขาก็บอกว่าเขาถ้ำเขากระโหลกนี้มีคนเคยไปพูดลบหลู่ ปรากฎว่าต้องหลงทางอยู่ในถ้ำตั้ง 3 วัน 3 คืน ลองคิดดดูนะ ถ้ำตื้นๆแต่มีคนหลงถึง 3วัน ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อกันเลยล่ะงานนี้ ไหนจะที่เห้นผู้ชายตัวโตๆ ที่เห็นพร้อมกันสองคนอีก ถ้าไม่คิดว่าเป้นเรื่องเหลือเชื่อ ก็คงจะหาคำตอบอื่นมาอธิบายไม่ได้แน่นอน
3 อาถรรพ์ในกองถ่าย ผีสามบาท
ขณะที่กำลังถ่ายตอน ท่อนแขนนางรำ ในสวนป่าที่ต่างจังหวัด ขณะนั้นเป็นเวลาตี 2-3 กว่าๆ มีผู้ชายใส่ผ้าโจงกระเบนแบบคนโบราณมานั่งดูการถ่ายทำ ตอน ตี2 ตี3 ที่สำคัญ ฉากนี้มีแต่ ปราโมทย์ แสงสรคนเดียว ไม่มีนักแสดงหรือเอ็กตร้าคนไหนทั้งสิ้น นักแสดงและทีมงานไม่มีใครพูดอะไร แต่ชำเลืองมองเป็นระยะๆ สักพักชายคนนั้นก็หายไปอย่างไรร่องรอย โดยที่ไม่รู้ว่าไปตอนไหนยังไง อยู่กันเป็น10ก็น่าจะมีซักคนที่เห็นตอนเดินออกไปบ้าง และปรากฎว่าไม่มีใครเห็นชายปริศนาคนนั้นอีกเลย
4 วิญญาณแห่งความหวังดีจาก ภูตพิศวาศ นิ้ง - ทัช
มีการถ่ายทำกันที่ วัดโบสถ์ ปทุมธานี ทีมงานมีการนัดคิวนิ้งนางเอกของเรื่อง ยังไม่ทันคุยกันดีแบตโทรศัพท์ก็หมดซะก่อน แล้วละครเรื่องนี้จะเร่งมากเพราะถ่ายไปออนไป นิ้งหาทางไปวัดโบสถ์ไม่เจอ ตอนนั้นก็ดึกและเปลี่ยวมาแล้ว ตั้งใจว่าจะไปถามคนที่ลาดหลุมแก้วเอา แต่พอไปถึงก็ถามใครไม่ได้เพราะ 4-5 ทุ่มแล้ว นิ้งเองก็กลัว ปรากฎว่ามีรถของคุณอา วิทยา สุขดำรงค์ มาบีบแตรและให้นิ้งขับตามรถไป นิ้งได้แต่นึกในใจว่าถ้าไม่มีอาวิทยาเธอจะทำอย่างไรเพราะเส้นทางทั้งมดและเปลี่ยวขนาดนี้ ถ้าให้หาเองคงไปไม่ถูกแน่นอน จนมาถึงกองถ่าย ทีมงานที่รออยู่ก็หน้าชื่น ตัวนิ้งเองก้รีบไปทำผมแต่งหน้า ก็คุยกันไปเรื่อย แต่มีพี่ทีมงานบอกว่า พรุ่งนี้ทีมงานจะยกกองไปงานศพ นิ้งก็ถามว่าศพใคร ซึ่งพี่คนนั้นก็ถามนิ้งว่า อ้าว ไม่รู้หรอ อาวิทยาเสียแล้ว เป็นโรคหัวใจล้มเหลว เมื่อตอนบ่ายนี่เอง นิ้งได้ฟังก็หัวเราะไม่เชื่อ บอกพึ่งขับรถตามกันมาเองพี่ พอหันกลับไปดูรถ ปรากฎว่ามีแต่ความว่างเปล่า พร้อมกับมีลมและกลิ่นน้ำหอมที่เธอและพี่คนนั้นจำได้ว่า เป็นกลิ่นที่อาวิทยาชอบใช้ประจำ นิ้งทำท่าจะร้องลั่นแต่พี่ทีมงานได้แต่บอกให้นิ่งไว้ เดี๋ยวคนอื่นจะตกใจ คาดว่าคุณอาคงมาลาพวกเรา เธอก็เลยไม่ได้บอกกับใคร จนได้มาทราบว่า แม่ครัวในกองถ่ายก็รู้สึกว่าอามาลาเหมือนกัน ..
ยังมีอีกหลายเรื่อง เดี๋ยวเอามาต่อค่ะ
ขอบคุณที่มาจากหนังสือ สยองขวัญดารา ของคุณ ปางบรรพ์ มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ