จากมติชนออนไลน์

เมื่อเวลา 07.50 น.   วันที่ 20 ตุลาคม   จากความกดอากาศสูงที่ปกคลุมพื้นที่ จ.ลำปาง อย่างหนาแน่น ประกอบกับบนท้องฟ้าที่เกิดความหนาวเย็น และมีเมฆฝนปกคลุมพื้นที่ ได้กระทบต่ออากาศยานเช้าวันนี้แล้ว โดยเครื่องบินโดยสาร 2 ใบพัด ขนาด 70 ที่นั่ง ของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ ไม่สามารถบินลงจอดที่ท่าอากาศยานลำปาง ได้ตามเวลาปกติ 07.50 น. เนื่องจากทัศนวิสัยในการบินลงจอดไม่ดีนัก โดยเครื่องบินลำดังกล่าว ที่ทะยานลงสู่ภาคพื้นดิน เพื่อจะบินลงจอดที่ท่าอากาศยานลำปาง แต่ปรากฏว่า เมื่อบินต่ำลง ก็ยังไม่สามารถฝ่ากลุ่มความกดอากาศ กลุ่มหมอกหนาวบนท้องฟ้า และกลุ่มเมฆฝนออกมาได้ ทำให้นักบินต้องเชิดหัวเครื่องบินขึ้น เพื่อความปลอดภัย ก่อนที่จะบินวน เพื่อดูสภาพอากาศ และตัดสินใจ บินไปยังท่าอากาศยาน จ.เชียงใหม่ เพื่อลงจอด รอสภาพอากาศเปิดมากกว่านี้ ถึงจะบินกลับมาลงได้

นายทิวา พันธ์ไม้สี หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง เปิดเผยว่า ได้ติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด ก่อนที่เครื่องบิน จะบินมาถึง เพื่อรายงานไปยังหอบังคับการบินลำปาง อยู่ตลอดเวลา ซึ่งสาเหตุที่เครื่องบินลงจอดไม่ได้เช้านี้ เนื่องจากเมฆ และความกดอากาศหนาอย่างมาก ประกอบกับลอยอยู่ในระดับที่ต่ำ ความสูงจากพื้นผิวดินเพียง 1,000 เมตร เท่านั้น แต่จุดที่เครื่องบินสามารถบินลงจอดได้อยู่ในระดับ 1,500 เมตร ซึ่งการที่นักบินตัดสินใจ ไม่บินลงจอด ถือว่า  ยึดหลักในเรื่องของความปลอดภัยเป็นสำคัญ เพราะสภาพอากาศบนท้องฟ้าเนื่องพื้นที่ จ.ลำปาง เกิดแปรปรวนหนัก จากสภาพอากาศ ที่กำลังจะเปลี่ยนฤดู จึงมีทั้งความกดอากาศ หมอกหนาวเย็น และกลุ่มเมฆฝน จึงทำให้กระทบการบินในที่สุด อย่างไรก็ตาม หลังผ่านไปนานกว่า 1 ชั่วโมง สภาพอากาศก็ดีขึ้น กลุ่มความกดอากาศ กลุ่มเมฆฝน และหมอกหนาว อยู่ในระยะความสูง 1,800 เมตร จึงแจ้งให้นักบิน ที่ไปจอดรอ ที่ท่าอากาศยาน จ.เชียงใหม่ ให้ยกเครื่องขึ้น แล้วบินมาลงจอดได้ตามปกติ