คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
อายุประมาณนั้น ดิฉันก็เป็นค่ะ
เป็นตั้งแต่อายุ 16-20 ปี โดยไม่รู้ตัวว่าเป็นค่ะ ที่เป็นเพราะคิดเอาเองว่าน้ำหนักเยอะ จริง ๆ สูง 154 หนัก 44 ค่ะ คิดว่าอ้วนไปเอง
เลยตัดสินใจลด โดยการกินแล้วล้วงคออาเจียนออกค่ะ กินยาช่วยย่อย จนน้ำหนักลดเหลือ 34-35 ค่ะ ผอมมาก ร่างกายซูบซีดเหมือนคนติดยา แล้วก็ไม่ค่อยมีแรง ตอนไปสมัครเอนท์ เกือบเผลอเป็นลม เพราะลุกกินข้าวเสร็จปุ๊บ หน้ามืด ตัวเย็น ชาทั้งตัว ตาพร่ามืดมัว ต้องวิ่งหลบเข้าห้องน้ำพักร่างกาย
อาการคือ เราจะกินได้เยอะมาก จากนั้นจะรู้สึกผิด แล้วไปอาเจียนทิ้ง เป็นอยู่ 4 -5 ปี ตอนอยู่ปี 2 เลิกกับแฟน ก็มีเวลาหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น และอ่านเจอว่าเป็นโรคชนิดหนึ่ง เป็นโรคจิตแบบหนึ่ง ก็เลยตัดสินใจรักษาด้วยการเยียวยาตัวเอง ค่อย ๆ ทำให้ร่างกายลดอาการลงเอง และพยายามเพิ่มน้ำหนัก เพื่อให้ร่างกายมีน้ำมีนวล จนน้ำหนักขึ้นมาถึง 40 กิโล จากนั้นจนถึงป่านนี้ 10 ปี ก็หายมานานแล้วค่ะ
ตอนนี้กลายเป็นคนกินอะไรไม่อ้วนค่ะ น้ำหนักอยู่ที่ 42-44 ค่ะ สูง 154 ค่ะ
เอาใจช่วยจขกท นะคะ เราเชื่อว่าถ้าจิตใจเข้มแข็งก็สามารถรักษาหายได้ค่ะ
เป็นตั้งแต่อายุ 16-20 ปี โดยไม่รู้ตัวว่าเป็นค่ะ ที่เป็นเพราะคิดเอาเองว่าน้ำหนักเยอะ จริง ๆ สูง 154 หนัก 44 ค่ะ คิดว่าอ้วนไปเอง
เลยตัดสินใจลด โดยการกินแล้วล้วงคออาเจียนออกค่ะ กินยาช่วยย่อย จนน้ำหนักลดเหลือ 34-35 ค่ะ ผอมมาก ร่างกายซูบซีดเหมือนคนติดยา แล้วก็ไม่ค่อยมีแรง ตอนไปสมัครเอนท์ เกือบเผลอเป็นลม เพราะลุกกินข้าวเสร็จปุ๊บ หน้ามืด ตัวเย็น ชาทั้งตัว ตาพร่ามืดมัว ต้องวิ่งหลบเข้าห้องน้ำพักร่างกาย
อาการคือ เราจะกินได้เยอะมาก จากนั้นจะรู้สึกผิด แล้วไปอาเจียนทิ้ง เป็นอยู่ 4 -5 ปี ตอนอยู่ปี 2 เลิกกับแฟน ก็มีเวลาหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น และอ่านเจอว่าเป็นโรคชนิดหนึ่ง เป็นโรคจิตแบบหนึ่ง ก็เลยตัดสินใจรักษาด้วยการเยียวยาตัวเอง ค่อย ๆ ทำให้ร่างกายลดอาการลงเอง และพยายามเพิ่มน้ำหนัก เพื่อให้ร่างกายมีน้ำมีนวล จนน้ำหนักขึ้นมาถึง 40 กิโล จากนั้นจนถึงป่านนี้ 10 ปี ก็หายมานานแล้วค่ะ
ตอนนี้กลายเป็นคนกินอะไรไม่อ้วนค่ะ น้ำหนักอยู่ที่ 42-44 ค่ะ สูง 154 ค่ะ
เอาใจช่วยจขกท นะคะ เราเชื่อว่าถ้าจิตใจเข้มแข็งก็สามารถรักษาหายได้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ดิฉันเป็นบูลิเมียค่ะ