ถึงเพื่อนๆที่เคยเข้ามาอ่านกระทู้พ่อลูกและพี่เลี้ยงนอนบนเตียงเดียวกันขอถอดล๊อกอินมาเล่าบทสรุปค่ะ

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ทุกคนที่เคยได้อ่านกระทู้เก่าของเรา เราได้รีบลบกระทู้นั้นไปแล้ว สาเหตุเนื่องจากว่า มีคนในครอบครัวของทางฝั่งของแฟนเรา รู้จักล๊อกอินเรา แล้วเกรงว่าเขาจะมาได้อ่าน จะหาว่าเรานำเรื่องของสามีมาประจาน คือเราแค่อยากได้แง่คิดจากแม่ๆ พ่อๆจริงๆ
ซึ่งหลายๆคน 99.99 หรือเรียกได้ว่า 100เปอร์เซนต์จาก ความคิดเห็นกว่า70-80ได้มั้งคะ ในเวลาเพียงสองวัน ต้องขอบคุณมากเลย บางคนตอบแบบตรงมากจนเราใจสั่น แต่เราเข้าใจว่าทุกคนหวังดีค่ะ  ที่ถอดล๊อกอินออกมาวันนี้ พึ่งคิดได้ ว่าทำไมเราโง่จังไม่ถอดล๊อกอินเสียแต่วันแรกที่มาเล่าเรื่อง จะได้ไม่ต้องมานั่งลบกลัวคนฝั่งครอบครัวสามีมาอ่าน  เราไำม่ได้อยากจะหลบใครหลายๆคนในนี้ แต่เหตุผลคือเรื่องฝั่งสามีจริงๆ ทุกคนที่จำ ล๊อกอินเก่าเราได้ หรือที่เคยหลังไมค์มา ยังไงก็รบกวน อย่าเอ่ย ชื่อล๊อคอินเราน่ะคะ แต่หลังไมค์มาคุยได้เหมือนเดิมค่ะ

ตัดเข้ามาถึงบทสรุปน่ะคะ จะเล่าให้ฟัง อาจจะยาวนิดนึง เพราะเหตุการณ์มันเพิ่มเติมมาอีกหลายวัน มาจบเมื่อวาน  เราก็ได้พยายามบอกสามีว่าความคิดเห็นของพ่อแม่ในพันทิพเนี่ยเขามองว่าตัวเองนี่ เป็นหนักมาก ทำไม่ถูกน่ะ  เขาก็มีบ่นๆกับลูกน้องเราเลยน่ะคะตอนเราไม่อยู่ บอกว่า "สงสัยคนในนั้นคงคิดว่าผมชั่วมากไปทำอะไรกับพี่เลี้ยง" คิดว่าเขาน่าจะเปิดอ่านน่ะคะ เพราะเราส่งลิงค์ไป แต่ตอนนี้ลบไปแล้ว ด้วยเหตุผลเรื่องด้านบน  

ตอนเริ่มเขียนกระทู้เก่า เราก็ย้ายไปนอนห้องนอนใหญ่อีกห้องนึง  อยู่ชั้นบน  สามีก็ไม่ได้ตามง้ออะไรน่ะคะ คือเราก็อยากดูพฤติกรรมทั้งสามีและพี่เลี้ยงว่าจะทำอะไรประหลาดๆกันมั่งไหม  สามีก็ถามเราตลอดวันนี้จะทานอะไร เราก็ไม่พูด คือก่อนหน้าเรื่องพี่เลี้ยง ขึ้นมานอนเอาลูกกล่อมนอนบนเตียง ทั้งๆที่สามีนอนอยู่ เรามีเรื่องทะเลาะกันอยู่แล้ว  และทะเลาะเพิ่มอีกคือ พอเราโกรธสามีเราเดินออกจากบ้านไป แทนที่สามีจะรู้สึกผิดหรืออะไร    เราโทรไปหาพี่เลี้ยงว่าให้เอาที่ช้าจแบตมาให้หน่อย เรามาอยู่ที่ร้านสปาอยู่ตรงข้ามบ้าน   เขาก็บอกว่าไม่ได้อยู่บ้าน ออกมาเดินเล่นงานแห่ข้างนอกตอนกลางคืนกันสามคน  เราเลยควันออกหูมาก  ได้ยินดังนั้น เราบอกเลยว่าให้รีบกลับกันเข้ามาให้หมด  และพอพี่เลี้ยงเอาของมาให้  เราถามเสียงดุเลย ปกติไม่เคยดุเขาน่ะ  เราถามว่า "นี่เป็นความคิดใคร"เอาน้องไปเดินงานแห่ตอน3ทุ่ม เขาไม่ได้บอกว่าใคร แต่บอกว่าน้องยังไม่นอนร้องอยากเดิน

พออีกวันเรายิ่งไม่คุยกับสามี เพราะโกรธทบกันเลยสองเรื่อง เรื่องที่พูดไม่ดีกับเราแล้วเอาลูกไปเที่ยว  พอกลางคืนวันนั้น ต้องเอาลูกเข้านอน  เราอยู่กับพี่เลี้ยงก่อน  พอสามีเดินเข้ามา ด้วยความที่ยังโกรธสามี ไม่อยากกระทบกระทั่งกัน เราเลยเดินออกมาจากห้อง  พี่เลี้ยงกับสามีก็ช่วยเอาเข้านอน  เราก็ออกมานั่งทำงาน  ห้องทำงานก็ติดกับห้องนอนลูก

ทีนี้เราอยากเห็นว่าลูกหลับยัง แต่ไม่อยากเปิดประตูเข้าไป บ้านเราติดกล้ิอง แต่ติดแค่สองชั้น คือข้างล่าง สต๊อคของ และห้องนอนลูก เราสามารถเปิดดูผ่านมือถือได้ และคอมได้ ทีนี้พอเปิดดูก็เห็นอย่างที่เล่าให้เพื่อนๆฟัง เล่าซ้ำอีกที คือสามีนอนซ้ายอยู่ ลูกนอนกลางดุกดิ้กๆเตรียมหลับ พี่เลี้ยงนอนขวา  เราเห็นปุ้บ เราเดินเข้าห้องเลย ไปบอกพี่เลี้ยงว่า "สามทุ่มกว่าแล้วดึกแล้วเธอไปนอนได้แล้ว"  เราว่าถ้าคนฉลาดๆ ไม่หน้าด้าน ต้องรู้น่ะ ว่าเราพูดพร้อมกับความหมายว่าอะไร  คือความหมายว่า "ไล่ให้ออกไปน่ะ เธอทำไม่ถูก นี่มันเตียงของเจ้านาย"   ทำแบบนี้เหมือนตบหน้าเรา ทำตัวมาแทนที่ฐานนะแม่ มันไม่ได้ เราก็ว่าสามี สามีก็บอกเขาไม่ได้คิดอะไร เราอธิบายว่ามันดูไม่ดีน่ะ
เขาบอกไม่รู้ ก็ไม่ได้คิดไรจริงๆ "ผมนอนอยู่เขาก็มานอนตาม ลูกก็ไม่ยอมให้ไป" เราก็บอกถ้าเขามานอนแบบนี้เธอต้องลุกสิ  ก็คืนนั้นเลยทะเลา่ะกันอีกรอบแบบเบาๆ  

ด้วยความที่เราสงสัยหลายเรื่อง  ติดอยู่ในใจมานานแล้ว ว่า เขาเคยพูดตอนเราพาลูกไปเที่ยวฮ่องกง ว่าทำไมไม่พาพี่เลี้ยงมาด้วย แต่เราโมโหมาก ว่า จะพามาทำไม ครอบครัวพ่อแม่ลูกมาเที่ยว และเราเป็นคนจ่ายค่าใช้จ่ายเที่ยวทั้งหมด จะให้เราซื้อตั๋วให้พี่เลี้ยงด้วยหรอ  กับตอนที่เวลาไปร้านอาหาร สามีไปนั่งข้างพี่เลี้ยง ทั้งๆที่ที่นั่งเราก็ว่าง  เราจัดจานไว้ให้แล้ว  กับอีกหลายๆเหตุการณ์ที่ เวลาไปห้าง สามีจอดรถให้เรากับลูกลงก่อนจะได้ไม่เดินไกล  บอกให้เราพี่เลี้ยงและลูกลงก่อน  แต่พี่เลี้ยงบอกขอลงพร้อมสามี ซึ่งวันนั้นเราก็หมั่นไส้เหมือนกันน่ะ แบบ อะไรจะต้องติดกันขนาดนั้น แต่ด้วยความที่เราไม่อยากคิดมาก ทำงานนั่นนี่เยอะ ก็เลยไม่สนใจอะไรต่อ
พอมีปัญหากัน แล้วมานั่งรวมๆ มันหลายเหตุการณ์ ทั้งพี่เลี้ยงชอบว่าสามี ชอบใช้เสียงวางอำนาจมีคำสั่ง ซึ่งเราก็งง ว่าเขามีสิทธิ์อะไร
พี่เลี้ยงคนนี้ อยี่มาจะครึ่งปีแล้วค่ะ ความขยัน บอกได้เลยว่าขยันมาก ตอนแรกเรามีแม่บ้านแบบไปกลับด้วย แต่ให้ออกไป เพราะมันมาเปิดแิอร์นอนห้องนอนใหญ่เรา แล้วคาดว่าคงนอนบนเตียงด้วย เราเลยให้ออก เราถือเรื่องเตียงนอนค่ะ พี่เลี้ยงลูกก็ช่วยงานเรา แต่เราไม่ได้ให้ทำอะไรเยอะ  เขาก็ช่วยปัดกวาดเช็ดถู ช่วยรีดเสื้อผ้า่ให้เราบ้าง  แต่เราให้เงินพิเศษน่ะคะ ไม่เอาเปรียบ  ไปกินอะไรกันข้างนอก เขาก็สั่งแต่ของดีๆ แพงๆกว่าของสามี และลูกเรา คือเรากินแพงอันไหน เขาเลือกราคาเท่าเราเลย เราถือว่าไม่คิดไร เพราะลูกเรามันเลี้ยงยาก

พี่เลี้ยงคนนี้เป็นคนที่เราแทบไม่เคยจะบ่น หรือว่า ในใจเรารู้สึกว่า เขาสะอาด เลี้ยงลูกเราก็สะอาด เพอร์เฟคไปหมด ดูนิสัยดีน่ะ ก็รู้จักทำบุญใส่บาตร สวดมนต์ น่าจะมีธรรมประจำใจ อายุ36 ค่ะ มากกว่าเราสี่ปี น้อยกว่าสามีเราปีนึง แต่เราก็ไม่รู้ทำไม เราถึงไม่เคยสนิทใจพูดคุยอะไรกับเขาแบบพี่เลี้ยงคนอื่นๆที่ผ่านมา  หรือความรู้สึกผู้หญิง เซนส์เรามันแรง  หลังจากที่เรามาเขียนกระทู้ เพื่อนๆแนะนำว่าให้เราคุยกับพี่เลี้ยง ตอนแรกไม่รู้จะคุยยังไงน่ะ ไปเล่าให้ลูกน้องเราฟัง ลูกน้องเราบอกเรียกคุยเลยดีกว่า เดี๋ยวคาใจ พอเรียกคุย เราก็แอบมาคิดได้ทีหลังน่ะคะ  เขาไม่ได้พูดคำว่าขอโทษ   เราอธิบายเขาดีๆว่าไม่ควรทำ เราถือเรื่องเตียง แล้วอีกอย่างนึงเราพยายามไม่ชี้ไปในแง่ชู้สาว
เราบอกว่า ทำแบบนี้ จะทำให้เด็กสับสน ว่าเขาอยู่ในฐานะแม่ แล้วเราจะกลายเป็นคนอื่นไป ซึ่งเด็กวัยนี้กำลังจำ  เขาก็มาสอนเราว่า เราต้องใช้เวลากับลูกเพิ่มขึ้น ต้องอดทนเขา สอนนู้นนี่นั่น บลาๆๆๆ ตอนนั้นเราก็ฟังน่ะ  พอมาเล่าในกระทู้ มีคนทีได้อ่านหลังไมค์มาทันทีว่า
หญิงคนนี้แผนสูงค่ะ เปลี่ยนประเด็นได้เก่ง ให้เรารู้สึกผิดเสียเอง เราก็ได้แต่รับฟัง  เรื่องตั๋วเครื่องบินที่ไปเที่ยวเชียงใหม่ ตอนแรกเรากะว่าจะแคนเซิลหมดเลย ไม่ไปแล้วมันกร่อย แต่ถึงจะไปก็คงไม่เอาพี่เลี้ยงไป ทำตามที่เพื่อนๆในนี้แนะนำ  
(อ่านต่อความเห็นล่างน่ะคะ กลัวลายตา)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่