ในระหว่างที่กำลังรอชมอนิเมะโจโจ้ซีซั่น 2 กันนี้ ผมขอลองแปลบทสัมภาษณ์
ของคุณ Naokatsu Tsuda ผู้กำกับอนิเมะทั้งสองซีซั่นมาให้อ่านกันเล่นๆครับ
ผมแปลเองถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยด้วยนะครับ ^ ^
Q : ตอนนี้อนิเมะได้ออกอากาศจบไปเรียบร้อยแล้ว มันสะท้อน
อะไรในการทำงานหนึ่งปีที่ผ่านมาของคุณยังไงบ้างครับ?
Tsuda : ผมรู้สึกพอใจกับงานนี้มากครับ แม้ทุกคนจะมีภาพในหัวของ
ตัวเองไว้ว่าโจโจ้ควรจะออกมาเป็นอนิเมะยังไง แต่ผมก็ขอนำเสนอโจโจ้
ฉบับอนิเมะในมุมมองที่ตัวเองคุ้นเคยให้ออกมาดีที่สุด แล้วผมก็รู้สึกโล่งใจ
มากๆครับที่อนิเมะชุดนี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากคนดู แถมยังขึ้นอันดับอนิเมะ
ทางทีวีสูงมากด้วย ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะก็อาชีพของผมคงจบเห่แน่ๆ (หัวเราะ)
ตอนอนิเมะฉายจบผมรู้สึกว่า
"โอ้ เราทำมันลงไปแล้ว...แม้มันจะไม่ถอดออกมา
100% แต่เราก็ทำมันสำเร็จลงแล้ว" ผมว่ามันคงตลกดีหากผมจะตอบคำถาม
แบบนี้ในอีกสิบปีข้างหน้า
Q : คุณเองก็เป็นแฟนโจโจ้ตัวยงด้วย
Tsuda : ประสบการณ์ของผมที่มีต่อโจโจ้นั้นยาวนานมากอยู่แล้วครับ ส่วนตัว
ผมอ่านโชเนนจัมป์ทุกฉบับที่มีโจโจ้ลงมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ ฉบับไหนที่มีโจโจ้ลง
ผมจะอ่านซ้ำไปซ้ำมาเกือบ 20 รอบเลยครับ จนบัดนี้ผมก็ยังทำอย่างนี้อยู่เลย
แต่ในขณะที่อนิเมะชุดนี้กำลังโฟกัสไปที่ภาค 1-2 แต่ผมกลับเริ่มอ่านโจโจ้ครั้ง
แรกคือภาค 4-5 ฉะนั้นแม้ผมจะอ่านมานับครั้งไม่ถ้วนแต่ผมก็ไม่เคยอ่านภาค
1-2 จริงๆจังๆเลยซักที พอผมกลับมาอ่านอีกครั้งผมก็ได้ค้นพบอะไรหลายๆอย่าง
ที่น่าสนใจที่ผมไม่เคยสังเกตมาก่อนเลยเช่นวิธีการใช้บทบรรยายยาวๆ, อารมณ์ขัน,
ฉากจูบของเอริน่ากับดีโอ และอีกมากครับ
Q : แสดงว่าที่คุณได้รับโอกาสให้มาเป็น
ผู้กำกับเพราะคุณเป็นแฟนโจโจ้?
Tsuda : แน่นอนครับ โอกาสมาหาผมเมื่อ CEO ของบริษัทเข้ามาหาผม
แล้วถามว่า
"คุณชอบโจโจ้ใช่หรือเปล่า?" ผมก็ตอบว่า
"ใช่" ผมเลยรู้สึก
ว่าเขาคงจะต้องการให้ทีมงานที่รักโจโจ้มาทำงานร่วมกันในงานนี้
ผมจึงตอบตกลงครับ
Q : อย่างที่ทราบกันดีนะครับว่าโจโจ้นั้นมีฐานแฟนคลับที่ใหญ่มากๆ ทำให้
ต่างฝ่ายต่างก็เกิดความคาดหวังกับอนิเมะชุดนี้กันในหลายๆด้าน คุณมีปัจจัย
อะไรในการผผลิตอนิเมะชุดนี้ยังไงในแบบของคุณครับ?
Tsuda : ผมคิดว่าแฟนๆฉบับมังงะน่ากลัวมากครับ (หัวเราะ) ในฐานะที่ผมเป็นแฟน
โจโจ้คนหนึ่งเช่นกัน ผมคงจะไม่ให้อภัยตัวเองแน่ๆหากผมทำให้อนิเมะออกมาน่า
ตื่นเต้นน้อยกว่ามังงะ ในขณะเดียวกันผมก็มองว่าคีย์เวิร์ดสำคัญอย่างหนึ่งของโจโจ้
ก็คือสิ่งเล็กๆน้อยๆที่ปรากฏอยู่ในเรื่องนั่นเองครับ ผมจึงคิดจะนำสิ่งเหล่านี้มาเล่าต่อ
และขยายความออกไปตามความเหมาะสม
(ต่อจากนี้เนื้อความจะสปอยล์สำหรับคนที่
ไม่เคยชมอนิเมะหรืออ่านมังงะนะครับ)
Q : คุณรู้สึกยังไงที่คุณทำฉากการตายของซีซ่าร์ในตอนที่ 20 ออกมาดีมาก
จนเกิดอิมแพคกับคนดูไปทั่วและสามารถทำให้ฉากนี้กลายเป็นฉากคลาสสิคของ
อนิเมะเทียบเท่าในมังงะได้จริงๆ?
Tsuda : ผมคิดว่าฉากการต่อสู้ของซีซ่าร์กับวามูเป็นอีกหนึ่งฉากคลาสสิคของ
โจโจ้ฉากหนึ่งครับ ผมจึงขอให้ทีมงานระดมความคิดในการสร้างฉากที่ยากสุดๆ
ฉากนี้ในตอนที่ 20 ให้ออกมาสื่อสารกับคนดูให้ได้มากที่สุด จนในที่สุดฉากนี้ก็
สามารถเชื่อมโยงความไว้วางใจที่ซีซ่าร์มอบให้กับโจเซฟรวบรัดภายในฉากนี้
ได้เป็นอย่างดีเลยครับ
Q : ดูเหมือนจะมีผู้ชายแมนๆหลายคนต้องเสีย
น้ำตาให้กับตอนที่ 20 ไม่น้อยนะครับ
Tsuda : มันเยี่ยมมากเลยครับ ผมไม่คิดว่าจะมีคนหลั่งน้ำตาให้กับซีซ่าร์จริงๆ
มาก่อนเลย ถือว่าเป็นสิ่งที่เหนือกับที่คาดหวังเอาไว้มากครับสำหรับผู้ผลิตอย่าเรา
Q : คุณทำให้อนิเมะซีซั่น 1 ทั้งสองภาคมี
ความแตกต่างกันยังไงบ้างครับ?
Tsuda : ภาค 1 นั้นจะมีฉากหลังเป็นลอนดอนในยุคเมื่อ 100 ปีก่อน ทำให้เราต้อง
สร้างบรรยากาศให้มีความคลาสสิค และดูจริงจังหนักแน่น รวมทั้งความอบอุ่นอ่อนโยนด้วย
ส่วนภาค 2 นั้นฉากหลังจะเป็นอเมริกาในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้เราต้องทำให้มีความ
แตกต่างจากส่วนแรกด้วยการใส่ความสนุกและอึกทึกครึกโครมในแบบอเมริกันลงไปด้วยครับ
Q : คุณได้กลับไปศึกษารายละเอียดอะไรเพิ่มเติม
เพื่อเอามาเป็นแรงบัลดาลใจบ้างมั๊ยครับ?
Tsuda : แน่นอนครับ ผมกลับไปอ่านพวกหนังสือศิลปะแบบต่างๆเช่นศิลปะวิคตอเรียน
หรืออาร์ตเดคโคที่ผมชอบเอามาใช้เป็นต้นแบบเสมอๆ อินเตอร์เน็ตกับอาร์ตเวิร์คจาก
หนังฮอลลีวูดก็เป็นแรงบัลดาลที่ดีของผมเช่นกันครับ
Q : เพลง OP กับ ED นั้นเป็นที่พูดถึงในหมู่แฟนๆมากขั้น
ปรากฏการณ์เลยนะครับ คุณมีส่วนร่วมอะไรในการเลือกเพลงที่
ใช้กับอนิเมะชุดนี้บ้างหรือเปล่าครับ?
Tsuda : เราคิดมาตลอดเลยครับว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับการทำเพลง
สำหรับโจโจ้ เพราะโจโจ้เป็นมังงะที่มีวิชั่นหลากหลาย ทำให้เราต้องประชุมเรื่อง
นี้กันอยู่นานเลยทีเดียว แต่ในที่สุดเราก็ได้สามารถทำเพลง OP ที่เหมาะสำหรับ
โจโจ้ออกมาจนได้ครับ ..ส่วนเพลง ED นั้นน่าสนใจครับ เพราะเราคิดว่ามันจะดี
ไม่น้อยถ้าจะเลือกใช้เพลง ED เป็นเพลงสากล เราเลยไปปรึกษา อ.ฮิโรฮิโกะ อารากิ
เรื่องนี้ครับ ซึ่งเขาก็เสนอเพลง Roundabout! ของ Yes! มาครับ เนื่องจากเป็น
เพลงแรกๆที่ อ.อารากิ เปิดฟังตอนที่เริ่มเขียนโจโจ้ภาคแรกนั่นเองครับ
Q : คุณมีความเห็นยังไงกับเพลง Opening บ้างครับ?"
Tsuda: เป็นสิ่งที่ผมคิดไม่ตกจริงๆครับ ในตอนแรกเราเคยมีความคิดว่าจะเป็นเพลงร็อค
ที่ให้ศิลปินหญิงเป็นคนร้อง ไม่ก็เป็นเพลงภาษาอังกฤษไปเลย คิดไปต่างๆนาๆเยอะแยะ
มากมาย แต่ในที่สุดก็ไม่ได้ใช้ เพราะมันไปกันไม่ได้จริงๆครับ จนกระทั่งในที่สุด เราก็
ตัดสินใจที่จะทำเพลงออกมาในสไตส์อนิเมะยุคเก่าสไตส์เพลงยุค 70-80 เพราะโจโจ้
ภาคแรกนั้นเริ่มตีพิมพ์ในยุค 80 นั่นเองครับ ซึ่งในยุคนั้นเพลง OP ของอนิเมะจะออก
แนวดุดัน หนักแน่น เนื้อหาตรงไปตรงมา และเป็นเพลงที่ทุกคนฟังแล้วจะรู้ทันทีว่ามา
จากอนิเมะเรื่องอะไร เราจึงไปปรึกษากับคอมโพเซอร์ โคเฮย์ ทานากะ กันดูครับ สุดท้าย
เราจึงได้เพลง JOJO Sonochi no Sadame มา เราตื่นเต้นมากๆจริงๆตอนที่ได้ยิน
เพลงนี้ครั้งแรกครับ
Q : ตอนไปปรึกษากับคุณโคเฮย์ คุณได้มีคำสั่งระบุเจาะจง
ว่าอยากจะให้เพลงออกมาเป็นแบบไหนบ้างมั๊ยครับ?
Tsuda: มีครับ เราอยากจะทำเพลงที่มีคำว่า
"โจโจ้" อยู่ในเพลงด้วย
แล้วก็สามารถทำให้คนที่ไปร้องคาราโอเกะกับเพื่อนตะโกนคำว่า
"โจโจ้! โจโจ้!"
พร้อมกันอย่างสนุกสนานน่ะครับ
Q : แสดงว่าคุณมีแผนที่จะให้เพลงนี้ไปอยู่ในห้อง
คาราโอเกะทุกหนทุกแห่งเลยสินะครับ
Tsuda: ต้องขอบคุณพระเจ้าเลยครับ หากมันเกิดขึ้นจริง (หัวเราะ) ครั้งแรกที่ผม
ได้ยินเพลงนี้ มันทำให้เกิดความรู้สึกที่ร้อนระอุเลือดพล่านมาก มันทำให้เพลง
ออกมาสมบูรณ์แบบทีเดียวครับ มันทำให้มีความรู้สึกที่อยากจะกลับไปฟัง
เพลงนี้อีกครั้งได้ดีจริงๆ
Q : ตัวละครในโจโจ้ตัวไหนที่คุณชอบที่สุดครับ?
Tsuda: ผมชอบตัวละครทุกๆตัวในมังงะเรื่องนี้เลยครับ แต่ถ้าจะให้เลือกแค่หนึ่งตัว
ผมขอเลือก โจรูโน่ โจบาน่า ครับ เพราะเขาดูสง่างามและสามารถสร้างความเชื่อ
มันในตัวคนอื่นๆได้ รวมทั้งยังมีความเด็ดขาดในตัวมากเช่นกัน เพราะเขามีสายเลือด
ทั้งโจสตาร์และดีโอในคนเดียวนั่นเอง ผมเลยมองโจรูโน่เป็นตัวละครที่สมบูรณ์แบบ
ที่สุดคนหนึ่ง และสแตนด์ โกลด์ E เรเควี่ยม ก็เป็นสแตนด์ที่แข็งแกร่งไร้เทียมมานมากครับ
Q : สุดท้ายแล้วก่อนจะจากกัน ช่วยบอกหน่อยครับว่าสเน่ห์
ของโจโจ้ในความคิดของคุณคืออะไร?
Tsuda: ผมมองว่าสเน่ห์ของมันเหมือนกับชื่อเลยครับ คือคำว่า พิศดาร (Bizarre)
จักรวาลที่อาจารย์ฮิโรฮิโกะ อารากิ สร้างขึ้นนั้นมหัศจรรย์และแข็งแรงจริงๆ บวกกับ
ความน่าสนใจของตัวละคร, สไตส์เฉพาะตัวเรื่องงานภาพ มันคือจักรวาลที่พิศดารจริงๆ
ทำให้ผมคิดว่านี่คือการทำงานของอัฉริยะโดยแท้ สเน่ห์ของมังงะเรื่องนี้ก็คือความ
น่าสนใจและน่าค้นหาในทุกหน้ากระดาษ การหยิบสิ่งต่างๆมาจับพลิกด้วยแนวคิดที่ไม่
เหมือนใคร โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ จึงเป็นงานสร้างสรรค์ที่เรียกว่าการเลียนแบบจากที่
ไหนไม่ได้เด็ดขาดครับ และการทำงานที่ไม่เคยหมดไอเดียของ อ.อารากิ ทำให้ผมและ
หลายๆคนยากที่จะถอนตัว หรือเลิกสนใจในจักรวาลของโจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ นี้ครับ
ทั้งหมดทั้งมวลมันเป็นสิ่งที่ทำให้หากใครรักมันมากๆ ก็จะทำให้มอบความรักให้จักรวาล
นี้ได้อย่างหมดใจครับ เช่นเดียวกับไฟในตัวของอาจารย์อารากิ ที่ยังคงโชดช่วงไม่
เสื่อมคลาย ...ซึ่งในอนิเมะภาค 3 ที่เรากำลังเตรียมงานอยู่ในขณะนี้ เราหวังเป็นอย่าง
ยิ่งครับว่ามันจะออกมาสนุกและทำให้ไฟในตัวทุกคนโชดช่วงไม่ต่างจากตอนที่อ่านในมังงะนะครับ ^ ^
เครดิต :
http://sgcafe.com/2013/05/jojos-bizarre-adventure-whats-charm-interview-director-naokatsu-tsuda/
------------------------------------------------------
"ผู้ใช้แสตนด์จะดึงดูดผู้ใช้แสตนด์ด้วยกัน"
JOJO's Bizarre Adventure Lover Fanpage
https://www.facebook.com/jjbalover
[JOJO] บทสัมภาษณ์ของ Naokatsu Tsuda ผู้กำกับโจโจ้ฉบับอนิเมะครับ (แปลโดยผมเอง อิอิ)
ของคุณ Naokatsu Tsuda ผู้กำกับอนิเมะทั้งสองซีซั่นมาให้อ่านกันเล่นๆครับ
ผมแปลเองถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยด้วยนะครับ ^ ^
Q : ตอนนี้อนิเมะได้ออกอากาศจบไปเรียบร้อยแล้ว มันสะท้อน
อะไรในการทำงานหนึ่งปีที่ผ่านมาของคุณยังไงบ้างครับ?
Tsuda : ผมรู้สึกพอใจกับงานนี้มากครับ แม้ทุกคนจะมีภาพในหัวของ
ตัวเองไว้ว่าโจโจ้ควรจะออกมาเป็นอนิเมะยังไง แต่ผมก็ขอนำเสนอโจโจ้
ฉบับอนิเมะในมุมมองที่ตัวเองคุ้นเคยให้ออกมาดีที่สุด แล้วผมก็รู้สึกโล่งใจ
มากๆครับที่อนิเมะชุดนี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากคนดู แถมยังขึ้นอันดับอนิเมะ
ทางทีวีสูงมากด้วย ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะก็อาชีพของผมคงจบเห่แน่ๆ (หัวเราะ)
ตอนอนิเมะฉายจบผมรู้สึกว่า "โอ้ เราทำมันลงไปแล้ว...แม้มันจะไม่ถอดออกมา
100% แต่เราก็ทำมันสำเร็จลงแล้ว" ผมว่ามันคงตลกดีหากผมจะตอบคำถาม
แบบนี้ในอีกสิบปีข้างหน้า
Q : คุณเองก็เป็นแฟนโจโจ้ตัวยงด้วย
Tsuda : ประสบการณ์ของผมที่มีต่อโจโจ้นั้นยาวนานมากอยู่แล้วครับ ส่วนตัว
ผมอ่านโชเนนจัมป์ทุกฉบับที่มีโจโจ้ลงมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ ฉบับไหนที่มีโจโจ้ลง
ผมจะอ่านซ้ำไปซ้ำมาเกือบ 20 รอบเลยครับ จนบัดนี้ผมก็ยังทำอย่างนี้อยู่เลย
แต่ในขณะที่อนิเมะชุดนี้กำลังโฟกัสไปที่ภาค 1-2 แต่ผมกลับเริ่มอ่านโจโจ้ครั้ง
แรกคือภาค 4-5 ฉะนั้นแม้ผมจะอ่านมานับครั้งไม่ถ้วนแต่ผมก็ไม่เคยอ่านภาค
1-2 จริงๆจังๆเลยซักที พอผมกลับมาอ่านอีกครั้งผมก็ได้ค้นพบอะไรหลายๆอย่าง
ที่น่าสนใจที่ผมไม่เคยสังเกตมาก่อนเลยเช่นวิธีการใช้บทบรรยายยาวๆ, อารมณ์ขัน,
ฉากจูบของเอริน่ากับดีโอ และอีกมากครับ
Q : แสดงว่าที่คุณได้รับโอกาสให้มาเป็น
ผู้กำกับเพราะคุณเป็นแฟนโจโจ้?
Tsuda : แน่นอนครับ โอกาสมาหาผมเมื่อ CEO ของบริษัทเข้ามาหาผม
แล้วถามว่า "คุณชอบโจโจ้ใช่หรือเปล่า?" ผมก็ตอบว่า "ใช่" ผมเลยรู้สึก
ว่าเขาคงจะต้องการให้ทีมงานที่รักโจโจ้มาทำงานร่วมกันในงานนี้
ผมจึงตอบตกลงครับ
Q : อย่างที่ทราบกันดีนะครับว่าโจโจ้นั้นมีฐานแฟนคลับที่ใหญ่มากๆ ทำให้
ต่างฝ่ายต่างก็เกิดความคาดหวังกับอนิเมะชุดนี้กันในหลายๆด้าน คุณมีปัจจัย
อะไรในการผผลิตอนิเมะชุดนี้ยังไงในแบบของคุณครับ?
Tsuda : ผมคิดว่าแฟนๆฉบับมังงะน่ากลัวมากครับ (หัวเราะ) ในฐานะที่ผมเป็นแฟน
โจโจ้คนหนึ่งเช่นกัน ผมคงจะไม่ให้อภัยตัวเองแน่ๆหากผมทำให้อนิเมะออกมาน่า
ตื่นเต้นน้อยกว่ามังงะ ในขณะเดียวกันผมก็มองว่าคีย์เวิร์ดสำคัญอย่างหนึ่งของโจโจ้
ก็คือสิ่งเล็กๆน้อยๆที่ปรากฏอยู่ในเรื่องนั่นเองครับ ผมจึงคิดจะนำสิ่งเหล่านี้มาเล่าต่อ
และขยายความออกไปตามความเหมาะสม
(ต่อจากนี้เนื้อความจะสปอยล์สำหรับคนที่
ไม่เคยชมอนิเมะหรืออ่านมังงะนะครับ)
Q : คุณรู้สึกยังไงที่คุณทำฉากการตายของซีซ่าร์ในตอนที่ 20 ออกมาดีมาก
จนเกิดอิมแพคกับคนดูไปทั่วและสามารถทำให้ฉากนี้กลายเป็นฉากคลาสสิคของ
อนิเมะเทียบเท่าในมังงะได้จริงๆ?
Tsuda : ผมคิดว่าฉากการต่อสู้ของซีซ่าร์กับวามูเป็นอีกหนึ่งฉากคลาสสิคของ
โจโจ้ฉากหนึ่งครับ ผมจึงขอให้ทีมงานระดมความคิดในการสร้างฉากที่ยากสุดๆ
ฉากนี้ในตอนที่ 20 ให้ออกมาสื่อสารกับคนดูให้ได้มากที่สุด จนในที่สุดฉากนี้ก็
สามารถเชื่อมโยงความไว้วางใจที่ซีซ่าร์มอบให้กับโจเซฟรวบรัดภายในฉากนี้
ได้เป็นอย่างดีเลยครับ
Q : ดูเหมือนจะมีผู้ชายแมนๆหลายคนต้องเสีย
น้ำตาให้กับตอนที่ 20 ไม่น้อยนะครับ
Tsuda : มันเยี่ยมมากเลยครับ ผมไม่คิดว่าจะมีคนหลั่งน้ำตาให้กับซีซ่าร์จริงๆ
มาก่อนเลย ถือว่าเป็นสิ่งที่เหนือกับที่คาดหวังเอาไว้มากครับสำหรับผู้ผลิตอย่าเรา
Q : คุณทำให้อนิเมะซีซั่น 1 ทั้งสองภาคมี
ความแตกต่างกันยังไงบ้างครับ?
Tsuda : ภาค 1 นั้นจะมีฉากหลังเป็นลอนดอนในยุคเมื่อ 100 ปีก่อน ทำให้เราต้อง
สร้างบรรยากาศให้มีความคลาสสิค และดูจริงจังหนักแน่น รวมทั้งความอบอุ่นอ่อนโยนด้วย
ส่วนภาค 2 นั้นฉากหลังจะเป็นอเมริกาในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้เราต้องทำให้มีความ
แตกต่างจากส่วนแรกด้วยการใส่ความสนุกและอึกทึกครึกโครมในแบบอเมริกันลงไปด้วยครับ
Q : คุณได้กลับไปศึกษารายละเอียดอะไรเพิ่มเติม
เพื่อเอามาเป็นแรงบัลดาลใจบ้างมั๊ยครับ?
Tsuda : แน่นอนครับ ผมกลับไปอ่านพวกหนังสือศิลปะแบบต่างๆเช่นศิลปะวิคตอเรียน
หรืออาร์ตเดคโคที่ผมชอบเอามาใช้เป็นต้นแบบเสมอๆ อินเตอร์เน็ตกับอาร์ตเวิร์คจาก
หนังฮอลลีวูดก็เป็นแรงบัลดาลที่ดีของผมเช่นกันครับ
Q : เพลง OP กับ ED นั้นเป็นที่พูดถึงในหมู่แฟนๆมากขั้น
ปรากฏการณ์เลยนะครับ คุณมีส่วนร่วมอะไรในการเลือกเพลงที่
ใช้กับอนิเมะชุดนี้บ้างหรือเปล่าครับ?
Tsuda : เราคิดมาตลอดเลยครับว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับการทำเพลง
สำหรับโจโจ้ เพราะโจโจ้เป็นมังงะที่มีวิชั่นหลากหลาย ทำให้เราต้องประชุมเรื่อง
นี้กันอยู่นานเลยทีเดียว แต่ในที่สุดเราก็ได้สามารถทำเพลง OP ที่เหมาะสำหรับ
โจโจ้ออกมาจนได้ครับ ..ส่วนเพลง ED นั้นน่าสนใจครับ เพราะเราคิดว่ามันจะดี
ไม่น้อยถ้าจะเลือกใช้เพลง ED เป็นเพลงสากล เราเลยไปปรึกษา อ.ฮิโรฮิโกะ อารากิ
เรื่องนี้ครับ ซึ่งเขาก็เสนอเพลง Roundabout! ของ Yes! มาครับ เนื่องจากเป็น
เพลงแรกๆที่ อ.อารากิ เปิดฟังตอนที่เริ่มเขียนโจโจ้ภาคแรกนั่นเองครับ
Q : คุณมีความเห็นยังไงกับเพลง Opening บ้างครับ?"
Tsuda: เป็นสิ่งที่ผมคิดไม่ตกจริงๆครับ ในตอนแรกเราเคยมีความคิดว่าจะเป็นเพลงร็อค
ที่ให้ศิลปินหญิงเป็นคนร้อง ไม่ก็เป็นเพลงภาษาอังกฤษไปเลย คิดไปต่างๆนาๆเยอะแยะ
มากมาย แต่ในที่สุดก็ไม่ได้ใช้ เพราะมันไปกันไม่ได้จริงๆครับ จนกระทั่งในที่สุด เราก็
ตัดสินใจที่จะทำเพลงออกมาในสไตส์อนิเมะยุคเก่าสไตส์เพลงยุค 70-80 เพราะโจโจ้
ภาคแรกนั้นเริ่มตีพิมพ์ในยุค 80 นั่นเองครับ ซึ่งในยุคนั้นเพลง OP ของอนิเมะจะออก
แนวดุดัน หนักแน่น เนื้อหาตรงไปตรงมา และเป็นเพลงที่ทุกคนฟังแล้วจะรู้ทันทีว่ามา
จากอนิเมะเรื่องอะไร เราจึงไปปรึกษากับคอมโพเซอร์ โคเฮย์ ทานากะ กันดูครับ สุดท้าย
เราจึงได้เพลง JOJO Sonochi no Sadame มา เราตื่นเต้นมากๆจริงๆตอนที่ได้ยิน
เพลงนี้ครั้งแรกครับ
Q : ตอนไปปรึกษากับคุณโคเฮย์ คุณได้มีคำสั่งระบุเจาะจง
ว่าอยากจะให้เพลงออกมาเป็นแบบไหนบ้างมั๊ยครับ?
Tsuda: มีครับ เราอยากจะทำเพลงที่มีคำว่า "โจโจ้" อยู่ในเพลงด้วย
แล้วก็สามารถทำให้คนที่ไปร้องคาราโอเกะกับเพื่อนตะโกนคำว่า "โจโจ้! โจโจ้!"
พร้อมกันอย่างสนุกสนานน่ะครับ
Q : แสดงว่าคุณมีแผนที่จะให้เพลงนี้ไปอยู่ในห้อง
คาราโอเกะทุกหนทุกแห่งเลยสินะครับ
Tsuda: ต้องขอบคุณพระเจ้าเลยครับ หากมันเกิดขึ้นจริง (หัวเราะ) ครั้งแรกที่ผม
ได้ยินเพลงนี้ มันทำให้เกิดความรู้สึกที่ร้อนระอุเลือดพล่านมาก มันทำให้เพลง
ออกมาสมบูรณ์แบบทีเดียวครับ มันทำให้มีความรู้สึกที่อยากจะกลับไปฟัง
เพลงนี้อีกครั้งได้ดีจริงๆ
Q : ตัวละครในโจโจ้ตัวไหนที่คุณชอบที่สุดครับ?
Tsuda: ผมชอบตัวละครทุกๆตัวในมังงะเรื่องนี้เลยครับ แต่ถ้าจะให้เลือกแค่หนึ่งตัว
ผมขอเลือก โจรูโน่ โจบาน่า ครับ เพราะเขาดูสง่างามและสามารถสร้างความเชื่อ
มันในตัวคนอื่นๆได้ รวมทั้งยังมีความเด็ดขาดในตัวมากเช่นกัน เพราะเขามีสายเลือด
ทั้งโจสตาร์และดีโอในคนเดียวนั่นเอง ผมเลยมองโจรูโน่เป็นตัวละครที่สมบูรณ์แบบ
ที่สุดคนหนึ่ง และสแตนด์ โกลด์ E เรเควี่ยม ก็เป็นสแตนด์ที่แข็งแกร่งไร้เทียมมานมากครับ
Q : สุดท้ายแล้วก่อนจะจากกัน ช่วยบอกหน่อยครับว่าสเน่ห์
ของโจโจ้ในความคิดของคุณคืออะไร?
Tsuda: ผมมองว่าสเน่ห์ของมันเหมือนกับชื่อเลยครับ คือคำว่า พิศดาร (Bizarre)
จักรวาลที่อาจารย์ฮิโรฮิโกะ อารากิ สร้างขึ้นนั้นมหัศจรรย์และแข็งแรงจริงๆ บวกกับ
ความน่าสนใจของตัวละคร, สไตส์เฉพาะตัวเรื่องงานภาพ มันคือจักรวาลที่พิศดารจริงๆ
ทำให้ผมคิดว่านี่คือการทำงานของอัฉริยะโดยแท้ สเน่ห์ของมังงะเรื่องนี้ก็คือความ
น่าสนใจและน่าค้นหาในทุกหน้ากระดาษ การหยิบสิ่งต่างๆมาจับพลิกด้วยแนวคิดที่ไม่
เหมือนใคร โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ จึงเป็นงานสร้างสรรค์ที่เรียกว่าการเลียนแบบจากที่
ไหนไม่ได้เด็ดขาดครับ และการทำงานที่ไม่เคยหมดไอเดียของ อ.อารากิ ทำให้ผมและ
หลายๆคนยากที่จะถอนตัว หรือเลิกสนใจในจักรวาลของโจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ นี้ครับ
ทั้งหมดทั้งมวลมันเป็นสิ่งที่ทำให้หากใครรักมันมากๆ ก็จะทำให้มอบความรักให้จักรวาล
นี้ได้อย่างหมดใจครับ เช่นเดียวกับไฟในตัวของอาจารย์อารากิ ที่ยังคงโชดช่วงไม่
เสื่อมคลาย ...ซึ่งในอนิเมะภาค 3 ที่เรากำลังเตรียมงานอยู่ในขณะนี้ เราหวังเป็นอย่าง
ยิ่งครับว่ามันจะออกมาสนุกและทำให้ไฟในตัวทุกคนโชดช่วงไม่ต่างจากตอนที่อ่านในมังงะนะครับ ^ ^
เครดิต : http://sgcafe.com/2013/05/jojos-bizarre-adventure-whats-charm-interview-director-naokatsu-tsuda/
------------------------------------------------------
"ผู้ใช้แสตนด์จะดึงดูดผู้ใช้แสตนด์ด้วยกัน"
JOJO's Bizarre Adventure Lover Fanpage
https://www.facebook.com/jjbalover