หลังจากโดนต้นสังกัดแบนงาน เพราะข้อหาเมาแล้วขับ “กิ๊ฟซ่า–ปิยา พงศ์กุลภา” หรือ “กิ๊ฟซ่า เกิร์ลลี่ เบอร์รี่” ก็หายหน้าจากวงการไป มาวันนี้นับจากวันที่เกิดเรื่องนานร่วมปี เจ้าตัวรับผิด และเปิดใจกลางรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทางช่อง “สตาร์แม็กซ์” แซ่บทั้งช่อง แบบหมดเปลือก ทั้งเรื่องความผิดพลาด และการโดนแบนงาน พร้อมขอโอกาสแก้ตัวใหม่...
อยากใช้ชีวิตแบบสุดเหวี่ยง ?
“จบปริญญาตรี ปริญญาโทจับ เราก็อยากให้ชีวิตแบบสุดเหวี่ยง เราจะได้ใช้ชีวิตในแบบที่เป็นวัยรุ่นจริงๆ จบปริญญาโทก็อายุประมาณ 24-25 หลักจากนั้นก็มีบ้างที่จะออกไปเที่ยว ดื่มเหล้า เพราะด้วยวัยมันก็สามารถที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว”
วันนั้นไม่รู้รึยังไงว่าต้องขับรถ ?
“ปกติถ้าออกไปตอนกลางคืน หนูก็จะนั่งแท็กซี่หรือว่าให้เพื่อนไปส่ง แต่ว่าวันนั้น มันเหมือนเป็นคราวเคราะห์มากกว่า เราดื่ม แล้วเราก็รู้สึกว่าเราไม่ได้เมาเท่าไหร่ แต่จริงๆ แล้วเมา วันนั้นดื่มวอสก้าค่ะ แบบ ออน เดอะ ร๊อค 3 แก้ว ไม่เยอะ มันไม่รู้สึกว่าเราเมา เราคิดว่าไม่เมา คิดนะ แต่จริงๆ แล้วเมา”
คนติดภาพขี้เมา ?
“ก็ต้องยอมรับค่ะ ในความผิดพลาดที่เราทำไป มีนเป็นความผิดพลาดของเรา เราไม่สามารถไปนั่งแก้ตัวได้ แต่วันนั้นนั้นอย่างนั้นอย่างนี้ มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องมานั่งแก้ตัว”
มองมุมกลับโนจับดีกว่า ?
“กิ๊บมองว่าวันนั้นดื่มแล้วโดนตำรวจจับดีกว่า ที่วันนั้นเราไม่โดนจับ แล้วสุดท้ายไปประสบอุบัติเหตุเดือดร้อนตัวเอง หรือแย่กว่านั้นคือไปเดือดร้อนคนอื่น ไปชนคนอื่น อันนั้นจะแย่มาก”
เหตุการณ์วันนั้นสอนอะไรบ้าง ?
“หลายอย่างนะค่ะ ที่แน่ๆ เลยเรารู้ว่าการโดนบริษัทแบนเป็นยังไง ปกตำงาน เราจะทำอะไรก็ได้ นึกจะวี๊ดใส่ใครก็ได้ จะทะเลาะกับใครก็ได้ แต่พอเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น โดนแบบ จากที่เราเมาแล้วโดนจับ ทำให้เรานึกย้อนไปถึงหลายๆ เรื่อง ว่าจริงๆ แล้วเราทำอะไรดีบ้าง ทำอะไรไม่ดีบ้างในชีวิต บางสิ่งที่เราทำไม่ดี แต่คนอื่นเขาไม่รู้สึกหรือถือสา เขาก็ไม่ได้มาบอกเราหรอก อย่างเรื่องนี้เราโดนจับมันก็เป็นการสอนตัวเราเอง”
ผ่านไปเป็นปีหลังจากโนจับ ตอนนี้ยังดื่มไหม ?
“ก็ต้องมีบ้างค่ะ แต่ว่าตอนนี้ก็ไม่ขับรถละ ไม่ขับเลย วันที่ขับจะไม่ดื่มเลย”
จะลบภาพลำยองยังไง ?
“คนยังติดภาพเรื่องเมาเยอะเลยค่ะ กิ๊บก็ไม่รู้จะแก้ยังไงไม่ว่าจะตาที่ต่างๆ หรือเขียนแซว เค้าก็ยังติดภาพนี้อยู่ อย่างบางทีกิ๊บถ่ายรูปกับเพื่อน เขาก็จะแซวละ อย่าเมานะ เขาก็แซวอันนั้นก็เป็นเรื่องในสายตาสังคม ส่วนเรื่องจำทำงานหรืออะไร ผู้ใหญ่เขาก็จะติดภาพนี้ หลายๆ อย่าง”
ที่มา บางกอกทูเดย์
“กิ๊ฟซ่า” วอนสังคมลืมภาพ “ลำยอง” ขอโอกาสทำงานอีกครั้ง
อยากใช้ชีวิตแบบสุดเหวี่ยง ?
“จบปริญญาตรี ปริญญาโทจับ เราก็อยากให้ชีวิตแบบสุดเหวี่ยง เราจะได้ใช้ชีวิตในแบบที่เป็นวัยรุ่นจริงๆ จบปริญญาโทก็อายุประมาณ 24-25 หลักจากนั้นก็มีบ้างที่จะออกไปเที่ยว ดื่มเหล้า เพราะด้วยวัยมันก็สามารถที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว”
วันนั้นไม่รู้รึยังไงว่าต้องขับรถ ?
“ปกติถ้าออกไปตอนกลางคืน หนูก็จะนั่งแท็กซี่หรือว่าให้เพื่อนไปส่ง แต่ว่าวันนั้น มันเหมือนเป็นคราวเคราะห์มากกว่า เราดื่ม แล้วเราก็รู้สึกว่าเราไม่ได้เมาเท่าไหร่ แต่จริงๆ แล้วเมา วันนั้นดื่มวอสก้าค่ะ แบบ ออน เดอะ ร๊อค 3 แก้ว ไม่เยอะ มันไม่รู้สึกว่าเราเมา เราคิดว่าไม่เมา คิดนะ แต่จริงๆ แล้วเมา”
คนติดภาพขี้เมา ?
“ก็ต้องยอมรับค่ะ ในความผิดพลาดที่เราทำไป มีนเป็นความผิดพลาดของเรา เราไม่สามารถไปนั่งแก้ตัวได้ แต่วันนั้นนั้นอย่างนั้นอย่างนี้ มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องมานั่งแก้ตัว”
มองมุมกลับโนจับดีกว่า ?
“กิ๊บมองว่าวันนั้นดื่มแล้วโดนตำรวจจับดีกว่า ที่วันนั้นเราไม่โดนจับ แล้วสุดท้ายไปประสบอุบัติเหตุเดือดร้อนตัวเอง หรือแย่กว่านั้นคือไปเดือดร้อนคนอื่น ไปชนคนอื่น อันนั้นจะแย่มาก”
เหตุการณ์วันนั้นสอนอะไรบ้าง ?
“หลายอย่างนะค่ะ ที่แน่ๆ เลยเรารู้ว่าการโดนบริษัทแบนเป็นยังไง ปกตำงาน เราจะทำอะไรก็ได้ นึกจะวี๊ดใส่ใครก็ได้ จะทะเลาะกับใครก็ได้ แต่พอเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น โดนแบบ จากที่เราเมาแล้วโดนจับ ทำให้เรานึกย้อนไปถึงหลายๆ เรื่อง ว่าจริงๆ แล้วเราทำอะไรดีบ้าง ทำอะไรไม่ดีบ้างในชีวิต บางสิ่งที่เราทำไม่ดี แต่คนอื่นเขาไม่รู้สึกหรือถือสา เขาก็ไม่ได้มาบอกเราหรอก อย่างเรื่องนี้เราโดนจับมันก็เป็นการสอนตัวเราเอง”
ผ่านไปเป็นปีหลังจากโนจับ ตอนนี้ยังดื่มไหม ?
“ก็ต้องมีบ้างค่ะ แต่ว่าตอนนี้ก็ไม่ขับรถละ ไม่ขับเลย วันที่ขับจะไม่ดื่มเลย”
จะลบภาพลำยองยังไง ?
“คนยังติดภาพเรื่องเมาเยอะเลยค่ะ กิ๊บก็ไม่รู้จะแก้ยังไงไม่ว่าจะตาที่ต่างๆ หรือเขียนแซว เค้าก็ยังติดภาพนี้อยู่ อย่างบางทีกิ๊บถ่ายรูปกับเพื่อน เขาก็จะแซวละ อย่าเมานะ เขาก็แซวอันนั้นก็เป็นเรื่องในสายตาสังคม ส่วนเรื่องจำทำงานหรืออะไร ผู้ใหญ่เขาก็จะติดภาพนี้ หลายๆ อย่าง”
ที่มา บางกอกทูเดย์