อ่านแล้วสะใจดี

กระทู้สนทนา
แล้ววันประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลไทยก็เดินทางมาถึงเสียที 17 ตุลาคม 2556 คือวันพิพากษาอนาคตแห่งวิถีลูกหนังแดนสยาม

ว่ากันว่า นี่คือมหากาพย์แห่งการต่อสู้ ชิงไหวชิงพริบที่ดุเดือดเข้มข้นมากที่สุด ถึงขนาดที่ว่า นักการเมืองชื่อดังหลายคนที่หลุดเข้ามาสู่วงโคจรอันโสมมของฟุตบอลไทยยังเอ่ยปากว่า

บัดซบยิ่งกว่าการเมือง

ยิ่งหากย้อนไปในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มีสุดยอดแห่งแวดวงหลากหลายที่ต้องเอาชื่อมาทิ้งกับเก้าอี้ปู่โสมตัวนี้ อาทิ ปี 2529 พล.อ.พิจิตร กุลละวณิช เจ้าของฉายา “บิ๊กเสือ” ที่ขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ยังต้องอำลาไปแบบเจ็บปวดใจ

มาถึงครั้งนี้ แนวทางการเลือกตั้งจากที่เลือกนายกสมาคมคนเดียว แล้วให้นายกไปคัดสรรสภากรรมการ ถูกเปลี่ยนแปลงให้เป็นไปตามกรอบฟีฟ่ากำหนด นั่นคือ การเลือกตั้งนายกสมาคม 1 คน อุปนายก 5 คน และกรรมการบริหารอีก 13 คน พร้อมกับการจำกัดสิทธิสโมสรสมาชิกจาก 182 สโมสรเหลือเพียง 72 สโมสร ด้วยเหตุผล

ต้องเอาคนที่ทำฟุตบอลตัวจริงมาเลือกเท่านั้น

แต่ที่สุดแล้วคำกล่าวที่ว่า ต้องให้คนที่ทุ่มเทเพื่อฟุตบอล ลงทุนเพื่อฟุตบอลเป็นร้อยล้านพันล้าน เป็นคนฟุตบอลตัวจริงได้รับสิทธิในการโหวตเลือกผู้บริหารสมาคมมันได้กลายเป็นเรื่องประจานคนต้นเรื่องเข้าจนได้

หลายคนคงได้อ่านเจอกันไปแล้วกับรายชื่อโหวตเตอร์ หรือแปลเป็นไทยนั่นคือ ผู้มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้ง มันช่างตรงกันข้ามกับสิ่งที่ฝ่ายรักษาการผู้บริหารสมาคม หรือฝ่ายที่สนับสนุนการเลือกตั้งในแนวทางใหม่

น่าขำที่สุดคือ ตัวแทนของสโมสร ปตท.ระยอง ที่ชื่อ พล.อ.ชินเสน ทองโกมล

คนทั้งวงการทราบดีกว่าเขาคือ ประธานผู้ตัดสินของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย

พล.อ.ชินเสน เข้าไปเกี่ยวข้องกับสโมสรฟุตบอลปตท.ระยองได้อย่างไร ไปตั้งแต่เมื่อไหร่

อะไรคือความเหมาะสม และความสง่างาม

ผมว่า คำๆ นี้คงใช้กับบุคคลเหล่านี้ไม่ได้เสียแล้วล่ะครับ เพราะการกระทำเช่นนี้ ได้บ่งชี้ให้เห็นชัดเจนแล้วว่า ฝ่ายเจ้าของตำแหน่งเดิมหวาดหวั่นเสียเหลือเกินกับศึกหนนี้

กลัวจนหัวหด หวาดจนไม่อาจไว้วางใจใครได้อีกแล้ว

ดังนั้นชื่อของ พล.อ.ชินเสน จึงถูกวางไปที่ ปตท.ระยอง แบบไม่อายฟ้าดิน ลืมคำพูดของตัวเองเสียหมดสิ้น กลายเป็นความสง่าราคีไปเสียมากกว่าจะเป็นสง่าราศี

ตำแหน่งประธานผู้ตัดสิน ต้องเป็นกลาง ไม่ใช่ออกมามีสิทธิในการออกเสียงเลือกตั้ง ที่สำคัญต้องถามคือ “เสธ.ตุ้ม”คนนี้ไปลงทุนอะไรกับ ปตท.ระยอง

หรือการช่วยลุ้นขึ้นไทยพรีเมียร์ลีกคือการลงทุนของประธานเชิ้ตดำคนนี้?

ไม่เท่านั้นชื่อของ “วิชัย ล้ำสุทธิ” ยังทำเอาฮาตกเก้าอี้ เพราะทราบดีว่า คนๆ นี้ พื้นที่ของเขาคือ ระยอง และที่สำคัญในการเสนอชื่อลงชิงชัยในทีมงาน “บังยี” หนนี้ สโมสรฟุตบอลระยองคือทีมที่ว่า แต่ไหงเมื่อพลิกลบทบาทตัวเองไปเป็น “โหวตเตอร์” จึงไปโผล่เป็นตัวแทนพิษณุโลก ทีเอสวายได้

อีกทั้ง “กาเซ็ม” เกษม จริยวัฒน์วงศ์ ไปโผล่เป็นตัวแทนของสโมสรนครราชสีมา ยังทำเอาแฟนบอลสวาดแคทสงสัยกันทั้งเมือง อดีตผู้จัดการทีมชาติไทยรายนี้ มาลงทุน มาก่อประโยชน์อะไรให้กับทีมเมืองย่าโม

แม้แต่พี่ชายผม “อ๊อด น้ำหวาน” จุติ ไกรฤกษ์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ บจก.สยามสปอร์ต ซินดิเคท ผมเองก็เพิ่งทราบว่า พี่แกไปมีเอี่ยวกับสิงห์เจ้าท่า กระทั่งได้รับมอบหมายเป็นผู้ไปร่วมลงคะแนนเลือกตั้งในฐานะตัวแทนสโมสรสิงห์ท่าเรือ

ทั้งราย “โกกิม” เกรียงสิทธิ์ หนุ่มรักชาติ คนทั้งบางรู้ว่าตำแหน่งแกคือ ประธานจัดการแข่งขันลีกภูมิภาค ภาคเหนือ และถิ่นใหญ่ของแกคือ นครสวรรค์ แต่กลับไปมีสิทธิในนามสโมสรลำปาง

ความสง่างามแห่งวิถีคนเป็นกลางอยู่ไหน?

แต่ที่ฮาจนตกเก้าอี้แทบทั้งวงนั่นคือ ตัวแทนสโมสรบีอีซี เทโรศาสน

ไม่ใช่ “ป๋าแมน” ธัญญะ วงศ์นาค ผู้จัดการทีม ไม่ใช่ไบรอัน แอล มาร์การ์ ประธานสโมสร หรือไม่ใช่โรเบิร์ต โปรคูเรอร์ ผู้จัดการทั่วไปสโมสร หากแต่เขาคือ

“บังยี” วรวีร์ มะกูดี

จบกันครับความสง่างามในตำแหน่ง

ยังดีนะครับที่ กานต์ จันรัตน์ ผู้จัดการทีมเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ไม่ต้องไปเป็นโหวตเตอร์ให้นนทบุรี ไม่เช่นนั้นคงมีตลกเลือกตั้งอีกเรื่อง

มีที่ไหนสโมสรเดียวแตกแยกทีมงานออกไปใช้สิทธิแทนสโมสรอื่นๆ ได้มากมาย ไม่ได้เกี่ยวกับทีม แต่คนทั้งวงการฟุตบอลรู้ว่า “มาเฟีย” ใช้สรรพกำลังในทีมงานของตัวเองทั้งหมดออกไปทำงาน เพื่อความมั่นใจว่า จะไม่ถูกหักหลังจนล้มไม่เป็นท่าเหมือนการเลือกตั้งประธานเอเอฟซี

นั่นเป็นแค่หนังตัวอย่างครับกับการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ที่สุดแล้ว ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไร ใครจะแพ้หรือชนะ  สิ่งหนึ่งที่จะติดตัวไปตลอดชีวิตคือ

ชัยชนะได้มาด้วยความดี หรือความชั่ว

ลองท่องเอาไว้ครับ

นรชาติจะวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตย์ทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา

                                                 “อ๋อ วังโอ่ง”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่