"เพ้ง"จี้ปตท.เร่งแยกกิจการท่อก๊าซ เปิดทางรายอื่นแจมลดผูกขาดตั้งบอร์ดดูต้นทุนจริง
updated: 17 ต.ค. 2556 เวลา 03:16:53 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
"เพ้ง" หารือบอร์ด ปตท.เร่งเครื่องแยกธุรกิจท่อก๊าซธรรมชาติให้เสร็จทันใช้ปี"57 ระบุเงื่อนไขต้องเปิดกว้างให้เอกชนรายอื่นใช้ประโยชน์ทางท่อ หรือ Third Party Access แยกเป็นบริษัทใหม่ขึ้นมาดูแล พร้อมตั้งบอร์ดที่มาจากคนนอกดูแลไส้ในต้นทุนกิจการท่อก๊าซ หวังลบคำครหา ปตท.ผูกขาดธุรกิจ เน้นให้ราคาก๊าซขึ้น-ลงตามกลไกตลาด
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้หารือกับคณะกรรมการบริหาร ปตท. เกี่ยวกับการแยกกิจการท่อก๊าซธรรมชาติ เพื่อเปิดบริการขนส่งก๊าซทางท่อให้กับเอกชนรายอื่น (Third Party Access) ทางบอร์ดอยู่ระหว่างดำเนินการ 2 กรณี คือ 1) แยกสินทรัพย์ในกิจการท่อก๊าซออกเป็นแผนกหนึ่งของบริษัท ปตท. แต่ไม่จำเป็นต้องโอนสินทรัพย์ เนื่องจากจะเกิดความยุ่งยากในประเด็นภาษี 2) แยกการบริหารจัดการให้มีความเป็นอิสระมากขึ้น จะมีการตั้งคณะกรรมการบริหารที่มาจากบุคคลภายนอก จะทำให้สามารถรู้ต้นทุนราคาก๊าซทั้งหมดเพื่อความโปร่งใสในธุรกิจนี้มากขึ้น
การแยกธุรกิจท่อก๊าซออกมาชัดเจนทำให้เกิดการแข่งขันในธุรกิจนี้ จากเดิมที่มีเพียงบริษัท ปตท.เพียงรายเดียว รวมถึงยังสอดคล้องกับนโยบายที่ต้องการส่งเสริมให้มีการนำก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ LNG ผ่านระบบขนส่งทางท่อมาใช้ในภาคขนส่งมากขึ้น และต้องการให้เอกชนรายอื่น ๆ ที่มีความพร้อมเข้ามาแข่งขันด้วย คาดว่าการดำเนินการแยกกิจการท่อดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ และจะประกาศใช้ข้อกำหนดต่าง ๆ ในการบริหารจัดการระบบท่อส่งก๊าซได้ในปี 2557
"เมื่อแยกธุรกิจท่อก๊าซชัดเจน เพื่อให้เป็น Third Party Access มันก็ลบคำครหาจากสังคมที่ว่า ปตท.ผูกขาดในธุรกิจนี้ เมื่อเกิดการแข่งขันราคาก๊าซจะเป็นไปตามกลไกตลาด ส่วนการลงทุนใหม่ ๆ ยังเป็นหน้าที่ของแผนกใหม่นี้ และถือเป็นบริษัทลูกของ ปตท."
ทั้งนี้ การแยกกิจการดังกล่าวเป็นนโยบายของกระทรวงพลังงานตั้งแต่ปี 2542 และในช่วงที่กำลังอยู่ในระหว่างการเตรียมจัดตั้งบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพื่อเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ล่าสุดในปีนี้ ปตท.ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อการดำเนินการจัดตั้ง "บริษัท ปตท.ท่อส่งก๊าซธรรมชาติ จำกัด" พร้อมกันนี้ได้จัดทำ "แผนการแยก บมจ.ปตท.เพื่อบริหารจัดการระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ" ระบุว่า จะต้องมีการจัดทำ Third Party Access Code หรือ TPA Code เงื่อนไขต่าง ๆ จะต้องไม่ขัดกับพระราชบัญญัติประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 ที่จะเป็นกฎหมายรองรับนโยบายการเปิดให้บริการการขนส่งก๊าซทางท่อแก่บุคคลที่ 3
นอกจากนี้ ปตท.ได้จัดทำร่างข้อกำหนดในการเชื่อมต่อระบบส่งก๊าซ (ตามมาตรา 81) ที่ครอบคลุมทั้งท่อบนบกและในทะเล จะบังคับใช้กับการเชื่อมต่อทั้งจากระบบท่อของผู้อื่นและของ ปตท. รวมถึงดูแลตั้งแต่ขั้นตอนการขอใช้บริการ การออกแบบ การก่อสร้าง การเชื่อมต่อ การตรวจความปลอดภัยของการใช้บริการ ตลอดจนการใช้งานรับจ่ายก๊าซปี 2557 จะมีการตั้งบริษัท ปตท.ท่อส่งก๊าซธรรมชาติ จำกัดจะต้องโอนใบอนุญาตการประกอบกิจการมายังบริษัทใหม่ รวมถึงโอนบัตรส่งเสริมการลงทุน (BOI) ในโครงการท่อส่งก๊าซ และจะต้องจัดทำสัญญาเพื่อเปลี่ยนแปลงคู่สัญญาใหม่ด้วย
ปัจจุบันระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ปตท. มีความยาวรวม 4,056 กิโลเมตร เป็นระบบท่อส่ง ความยาว 3,286 กิโลเมตร แบ่งเป็นท่อในทะเลยาว 2,013 กิโลเมตร คือ ระบบท่อที่ต่อจากแหล่งก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยมาขึ้นฝั่งที่ จ.ระยอง และเชื่อมต่อที่โรงแยกก๊าซธรรมชาติ หน่วยที่ 1-6 จ.ระยอง และระบบท่อจากแหล่งเอราวัณ แหล่งบงกชมาขึ้นฝั่งที่ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ส่วนท่อบนบกมีความยาว 1,273 กิโลเมตร คือ ระบบท่อฝั่งตะวันออกคือจากโรงแยกก๊าซ จ.ระยองไปยังโรงไฟฟ้าระยอง บางปะกง พระนครใต้ วังน้อย ที่ อ.ท่าหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา และ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ระบบท่อฝั่งตะวันตกคือระบบที่เชื่อมต่อจากชายแดนไทยและสหภาพเมียนมาร์ จ.กาญจนบุรี มายังโรงไฟฟ้า จ.ราชบุรี และระบบท่อจัดจำหน่าย ความยาว 770 กิโลเมตร เป็นท่อย่อยที่เชื่อมต่อจากระบบท่อส่งก๊าซฯไปยังลูกค้าอุตสาหกรรม เพื่อจำหน่ายก๊าซให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมต่าง ๆ รองรับความต้องการใช้ก๊าซที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นในระยะเวลา 10-15 ปีข้างหน้า และเตรียมพร้อมรองรับกับการเปิดเสรีธุรกิจก๊าซฯควบคู่กับการดำเนินโครงข่ายระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติในภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้ยังได้ลงทุนในบริษัทร่วมทุนที่ดำเนินธุรกิจพัฒนาระบบท่อก๊าซธรรมชาติ ได้แก่ บริษัท ปตท. จำหน่ายก๊าซธรรมชาติ จำกัด และบริษัท ทรานส์ ไทย-มาเลเซีย (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ทรานส์ ไทย-มาเลเซีย (มาเลเซีย) จำกัด
มิน่าพี่ ปอ ไม่ค่อยวิ่ง เตรียมแยกท่อก๊าซออกจาก พี่ปอแล้วดึครับ พี่ปอจะได้ไม่ผูกขาดการส่งท่อก๊าซ
updated: 17 ต.ค. 2556 เวลา 03:16:53 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
"เพ้ง" หารือบอร์ด ปตท.เร่งเครื่องแยกธุรกิจท่อก๊าซธรรมชาติให้เสร็จทันใช้ปี"57 ระบุเงื่อนไขต้องเปิดกว้างให้เอกชนรายอื่นใช้ประโยชน์ทางท่อ หรือ Third Party Access แยกเป็นบริษัทใหม่ขึ้นมาดูแล พร้อมตั้งบอร์ดที่มาจากคนนอกดูแลไส้ในต้นทุนกิจการท่อก๊าซ หวังลบคำครหา ปตท.ผูกขาดธุรกิจ เน้นให้ราคาก๊าซขึ้น-ลงตามกลไกตลาด
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้หารือกับคณะกรรมการบริหาร ปตท. เกี่ยวกับการแยกกิจการท่อก๊าซธรรมชาติ เพื่อเปิดบริการขนส่งก๊าซทางท่อให้กับเอกชนรายอื่น (Third Party Access) ทางบอร์ดอยู่ระหว่างดำเนินการ 2 กรณี คือ 1) แยกสินทรัพย์ในกิจการท่อก๊าซออกเป็นแผนกหนึ่งของบริษัท ปตท. แต่ไม่จำเป็นต้องโอนสินทรัพย์ เนื่องจากจะเกิดความยุ่งยากในประเด็นภาษี 2) แยกการบริหารจัดการให้มีความเป็นอิสระมากขึ้น จะมีการตั้งคณะกรรมการบริหารที่มาจากบุคคลภายนอก จะทำให้สามารถรู้ต้นทุนราคาก๊าซทั้งหมดเพื่อความโปร่งใสในธุรกิจนี้มากขึ้น
การแยกธุรกิจท่อก๊าซออกมาชัดเจนทำให้เกิดการแข่งขันในธุรกิจนี้ จากเดิมที่มีเพียงบริษัท ปตท.เพียงรายเดียว รวมถึงยังสอดคล้องกับนโยบายที่ต้องการส่งเสริมให้มีการนำก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ LNG ผ่านระบบขนส่งทางท่อมาใช้ในภาคขนส่งมากขึ้น และต้องการให้เอกชนรายอื่น ๆ ที่มีความพร้อมเข้ามาแข่งขันด้วย คาดว่าการดำเนินการแยกกิจการท่อดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ และจะประกาศใช้ข้อกำหนดต่าง ๆ ในการบริหารจัดการระบบท่อส่งก๊าซได้ในปี 2557
"เมื่อแยกธุรกิจท่อก๊าซชัดเจน เพื่อให้เป็น Third Party Access มันก็ลบคำครหาจากสังคมที่ว่า ปตท.ผูกขาดในธุรกิจนี้ เมื่อเกิดการแข่งขันราคาก๊าซจะเป็นไปตามกลไกตลาด ส่วนการลงทุนใหม่ ๆ ยังเป็นหน้าที่ของแผนกใหม่นี้ และถือเป็นบริษัทลูกของ ปตท."
ทั้งนี้ การแยกกิจการดังกล่าวเป็นนโยบายของกระทรวงพลังงานตั้งแต่ปี 2542 และในช่วงที่กำลังอยู่ในระหว่างการเตรียมจัดตั้งบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพื่อเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ล่าสุดในปีนี้ ปตท.ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อการดำเนินการจัดตั้ง "บริษัท ปตท.ท่อส่งก๊าซธรรมชาติ จำกัด" พร้อมกันนี้ได้จัดทำ "แผนการแยก บมจ.ปตท.เพื่อบริหารจัดการระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ" ระบุว่า จะต้องมีการจัดทำ Third Party Access Code หรือ TPA Code เงื่อนไขต่าง ๆ จะต้องไม่ขัดกับพระราชบัญญัติประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 ที่จะเป็นกฎหมายรองรับนโยบายการเปิดให้บริการการขนส่งก๊าซทางท่อแก่บุคคลที่ 3
นอกจากนี้ ปตท.ได้จัดทำร่างข้อกำหนดในการเชื่อมต่อระบบส่งก๊าซ (ตามมาตรา 81) ที่ครอบคลุมทั้งท่อบนบกและในทะเล จะบังคับใช้กับการเชื่อมต่อทั้งจากระบบท่อของผู้อื่นและของ ปตท. รวมถึงดูแลตั้งแต่ขั้นตอนการขอใช้บริการ การออกแบบ การก่อสร้าง การเชื่อมต่อ การตรวจความปลอดภัยของการใช้บริการ ตลอดจนการใช้งานรับจ่ายก๊าซปี 2557 จะมีการตั้งบริษัท ปตท.ท่อส่งก๊าซธรรมชาติ จำกัดจะต้องโอนใบอนุญาตการประกอบกิจการมายังบริษัทใหม่ รวมถึงโอนบัตรส่งเสริมการลงทุน (BOI) ในโครงการท่อส่งก๊าซ และจะต้องจัดทำสัญญาเพื่อเปลี่ยนแปลงคู่สัญญาใหม่ด้วย
ปัจจุบันระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ปตท. มีความยาวรวม 4,056 กิโลเมตร เป็นระบบท่อส่ง ความยาว 3,286 กิโลเมตร แบ่งเป็นท่อในทะเลยาว 2,013 กิโลเมตร คือ ระบบท่อที่ต่อจากแหล่งก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยมาขึ้นฝั่งที่ จ.ระยอง และเชื่อมต่อที่โรงแยกก๊าซธรรมชาติ หน่วยที่ 1-6 จ.ระยอง และระบบท่อจากแหล่งเอราวัณ แหล่งบงกชมาขึ้นฝั่งที่ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ส่วนท่อบนบกมีความยาว 1,273 กิโลเมตร คือ ระบบท่อฝั่งตะวันออกคือจากโรงแยกก๊าซ จ.ระยองไปยังโรงไฟฟ้าระยอง บางปะกง พระนครใต้ วังน้อย ที่ อ.ท่าหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา และ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ระบบท่อฝั่งตะวันตกคือระบบที่เชื่อมต่อจากชายแดนไทยและสหภาพเมียนมาร์ จ.กาญจนบุรี มายังโรงไฟฟ้า จ.ราชบุรี และระบบท่อจัดจำหน่าย ความยาว 770 กิโลเมตร เป็นท่อย่อยที่เชื่อมต่อจากระบบท่อส่งก๊าซฯไปยังลูกค้าอุตสาหกรรม เพื่อจำหน่ายก๊าซให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมต่าง ๆ รองรับความต้องการใช้ก๊าซที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นในระยะเวลา 10-15 ปีข้างหน้า และเตรียมพร้อมรองรับกับการเปิดเสรีธุรกิจก๊าซฯควบคู่กับการดำเนินโครงข่ายระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติในภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้ยังได้ลงทุนในบริษัทร่วมทุนที่ดำเนินธุรกิจพัฒนาระบบท่อก๊าซธรรมชาติ ได้แก่ บริษัท ปตท. จำหน่ายก๊าซธรรมชาติ จำกัด และบริษัท ทรานส์ ไทย-มาเลเซีย (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ทรานส์ ไทย-มาเลเซีย (มาเลเซีย) จำกัด