รัฐบาลสหรัฐฯขณะนี้เปรียบเสมือนลุงคนหนึ่งที่กำลังจะถังแตก เพราะตั้งแต่หนุ่มจนแก่ ลุงติดนิสัยใช้เงินเกินตัว คิดดูสิว่า 47 ปีที่ผ่านมา มีเพียง 5 ปีเท่านั้นที่ลุงมี 'รายจ่าย' น้อยกว่า 'รายได้' ... ลุงเป็นคนจมไม่ลง จึงกู้เงินมาปรนเปรอการใช้จ่ายจนยอดหนี้ท่วมตัว (100% ของ GDP)

ลุงรูดบัตรจนเต็มวงเงินไปแล้วหลายรอบ แต่ก็เจรจาเพิ่มวงเงินมาได้สำเร็จทุกครั้ง (เพิ่ม debt ceiling มาแล้ว 54 ครั้ง) .. ทุกวันนี้ลุงอยู่แบบเดือนชนเดือน ต้องใช้วิธีรูดบัตรโน้นไปโปะบัตรนี้ ... ลุงยังขับรถ 8 สูบ แต่แค่เงินจะซื้อขนมปังให้ลูกยังต้องยืมคนข้างบ้าน .. ทันทีที่เงินเดือนออก จะมีเจ้าหนี้กลุ่มใหญ่มายืนยิ้มรออยู่หน้าบ้าน แต่เจ้าหนี้ก็มองว่าลุงเป็น 'ขาใหญ่' ผู้ทรงอิทธิพลของหมู่บ้าน .. 'ขาใหญ่' อย่างลุงคงไม่เบี้ยว

ลุงกำลังเครียดจัด เพราะมีนัดต้องส่งดอกในวันที่ 17 ต.ค. นี้ .. เงินน่ะไม่มีแน่ ต้องกู้เงินใหม่มาส่ง แต่วงเงินบัตรเครดิตก็เต็ม (อีก) แล้ว ... ทำไงดี ...
- ถ้าลุงได้รับอนุมัติให้เพิ่มวงเงิน ก็ถือว่ารอด แต่ตราบใดที่ลุงยังไม่เปลี่ยนนิสัยใช้จ่ายเกินตัว ฝันร้ายนี้ก็จะตามมาหลอนลุงอีกหลายรอบ
- ถ้าลุงไม่ได้รับอนุมัติ จะเกิดเหตุผิดนัดชำระหนี้ ลุงจะเสียเครดิตและกลายเป็นลูกหนี้ชั้นเลวในทันที

แต่ไม่ใช่ลุงคนเดียวที่กำลังเครียด บรรดาเจ้าหนี้รายใหญ่ของลุงก็เครียดไม่แพ้กัน ในยอดหนี้ $16.9 trillion ลุงยืมมาจาก 'อาแปะ' และ 'คุณฮิโรชิ' คนละ $1 trillion ...

งานนี้เลยไม่รู้ว่า ระหว่าง ลุง - อาแปะ - คุณฮิโรชิ .. ใครน่าสงสารมากกว่ากัน

credit: โดย วิน พรหมแพทย์