รอยเตอร์ - ศาลมาเลเซียสั่งห้ามหนังสือพิมพ์คริสต์อ้างถึงพระเจ้าด้วยนาม “อัลเลาะห์” โดยชี้ว่าคำดังกล่าวสงวนไว้สำหรับชาวมุสลิมเท่านั้น ซึ่งคำพิพากษาที่ประกาศวันนี้ (14) ก็ได้โหมกระพือความขัดแย้งระหว่างสองศาสนาขึ้นมาอีกครั้ง และก่อให้เกิดคำถามเรื่องสิทธิของชนกลุ่มน้อยในแดนเสือเหลือง
       
       ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ซึ่งเป็นมุสลิมทั้ง 3 คน มีคำวินิจฉัยเป็นเอกฉันท์ให้กลับคำพิพากษาของศาลชั้นต้นเมื่อปี 2009 ซึ่งอนุญาตให้หนังสือพิมพ์ เดอะ เฮรัลด์ ภาคภาษามาเลย์ใช้คำว่า “อัลเลาะห์” เพื่อสื่อความถึงพระเจ้าในศาสนาคริสต์ เช่นเดียวกับที่ชาวคริสต์ในมาเลเซียใช้กันมานานหลายร้อยปี
       
       “คำว่า อัลเลาะห์ มิใช่ส่วนหนึ่งในความศรัทธาของศาสนาคริสต์... หากใช้คำนี้จะทำให้คนทั่วไปเกิดความสับสนได้” หัวหน้าผู้พิพากษา โมฮาเหม็ด อาปันดี ระบุในคำตัดสิน ซึ่งถูกประกาศออกมาในช่วงที่วิกฤตความขัดแย้งด้านเชื้อชาติและศาสนากำลังคุกรุ่น ดังจะเห็นได้จากผลเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ “คนกรุง” ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะชาวจีน ปฏิเสธไม่ลงคะแนนให้ผู้สมัครจากแนวร่วมรัฐบาลบีเอ็นของนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก
       
       ช่วงไม่กี่เดือนมานี้ นาจิบพยายามที่จะดึงชาวมาเลย์มาเป็นฐานเสียงที่เข้มแข็งของรัฐบาล และนำนโยบายอุดหนุนพลเมืองมาเลย์หรือ “ภูมิบุตร” กลับมาใช้อีกครั้ง



สำหรับกรณีนี้ รัฐบาลมาเลเซียอ้างว่า อัลเลาะห์ เป็นศัพท์เฉพาะที่ใช้ในหมู่ชาวมุสลิม และการที่อดีตรัฐมนตรีมหาดไทยเคยสั่งห้าม เดอะ เฮรัลด์ ใช้คำนี้เมื่อปี 2008 ก็เพื่อความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง
       
       ทันทีที่ศาลเมืองปุตราจายาประกาศคำพิพากษา ชาวมุสลิมราว 200 คนที่ไปรอฟังคำตัดสินก็เปล่งถ้อยคำสรรเสริญพระเจ้าอย่างกึกก้อง
       
       “ในฐานะมุสลิม การปกป้องไม่ให้พระนามของอัลเลาะห์ถูกนำไปใช้ผิดๆ ถือเป็นญิฮาด (การต่อสู้เพื่อศาสนา) อย่างหนึ่ง และมันก็เป็นหน้าที่ของผม” เจฟรีซาล อะหมัด จาฟาร์ วัย 39 ปี กล่าว
       
       ทีมทนายของ เดอะ เฮรัลด์ โต้แย้งว่า อัลเลาะห์ เป็นคำที่มีมาก่อนศาสนาอิสลาม และชาวคริสต์บนเกาะบอร์เนียวก็ใช้คำนี้อย่างแพร่หลายมานานหลายร้อยปีแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ฝ่ายตนก็จะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลสูงสุดของมาเลเซียต่อไป
       
       หลวงพ่อ ลอว์เรนซ์ แอนดรูว์ บรรณาธิการผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ เดอะ เฮรัลด์ ระบุว่า “คนทั้งประเทศต้องร่วมกันปกป้องสิทธิของชนกลุ่มน้อย... พระเจ้าทรงเป็นส่วนสำคัญในทุกๆ ศาสนา”
       
       ชาวคริสต์ในอินโดนีเซียและโลกอาหรับต่างก็ใช้คำว่า อัลเลาะห์ โดยไม่เคยถูกกีดกันจากองค์กรศาสนาอิสลามในประเทศนั้นๆ ขณะที่โบสถ์ในรัฐซาราวักและซาบาห์บนเกาะบอร์เนียวก็ยืนยันว่า จะใช้คำนี้เรียกขานพระเจ้าต่อไปเช่นเดิม

ที่มา : http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000128910