ต้องยอมรับว่าปัญหาจราจรทุกวันนี้ มีปัญหาเพิ่มขึ้น และหนักขึ้นทุกวัน ซึ่งปัญหานี้เกิดจากทุกคนทุกฝ่าย ขออนุญาต tag หลายห้อง
กฎหมายที่ควรมีออกมาควบคุม
1. กฎหมายการซื้อรถ
คนซื้อจะต้องมีการตรวจสอบ 3 ขั้นตอนก่อนจะได้ซื้อรถ
- ตรวจสอบโฉนดที่ดิน ว่ามีที่ดินมากพอรองรับรถยนต์ที่จะขออนุญาต มีการขออนุญาตไปแล้วกี่คัน ขอได้เต็มที่สูงสุดกี่คัน
- ตรวจสอบทะเบียนบ้าน คนที่จะขอซื้อจะต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน และมีการตรวจสอบว่าบ้านหลังนั้น
- เจ้าหน้าที่ขนส่ง ไปตรวจสอบสถานที่จริงว่า ยังไม่ที่พอจริงหรือไม่
หากที่ดิน หรือทะเบียนบ้านไหน ขอรถไปจนเต็มพื้นที่แล้ว จะไม่สามารถขอซื้อได้อีก จนกว่าจะมีการขายรถออกไป จึงจะสามารถขอซื้อเพิ่มได้
2. กฎหมายควบคุมปริมาณรถบนท้องถนน
รถต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ รถมอเตอร์ไซด์ รถบรรทุก ฯลฯ ควรมีการระบุอายุการใช้งาน เช่น ไม่เกิน 20 ปี นับแต่วันขอจดทะเบียนครั้งแรก หากมีอายุเกินกำหนด ห้ามวิ่งบนท้องถนน ตำรวจจับสามารถยึดรถได้เลย (ไม่มีการปรับ)
3. ห้ามจอดรถบนถนนสาธารณะ ถึงแม้จะเป็นทางปิดอย่างในหมู่บ้านก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นเส้นหลัก เส้นรอง หรือตามซอยต่างๆ ยกเว้นให้จอดได้กรณี
- จอดรถทำธุระ โดยจะต้องมีการสตาร์ทรถทิ้งไว้ หรือมีบุคคลนั่งอยู่ภายในรถเท่านั้น
- จอดในกรณีฉุกเฉิน เช่น มีคนป่วย รถเสีย รถชน ฯลฯ
4. กฎหมายควบคุมรถสาธารณะ การจอดรับผู้โดยสารตามป้ายรถโดยสาร ต้องจอดที่ป้ายเท่านั้น (ยกเว้นแท็กซี่) แล้วออกโดยทันที ห้ามจอดรอผู้โดยสาร นานเกินไป หากมีการร้องเรียน รถโดยสารสาธารณะของบริษัทนั้นๆ จะถูกโทษปรับ
5. กฎหมายควบคุมธุรกิจ สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ หรือธุรกิจที่ต้องขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจ เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงแรม ร้านอาหาร ธนาีคาร จำเป็นต้องหาที่จอดรถให้ลูกค้า หรือหากเป็นธุรกิจขนาดเล็ก เช่น ร้านขายของชำ ร้านขายก๋วยเตี๋ยว หากไม่ได้หาที่จอดรถให้ลูกค้า หากได้รับการร้องเรียนว่าทำผิดโดยเอาที่สาธารณะมาทำเป็นที่จอดรถให้ลูกค้า จะต้องถูกยึดใบอนุญาต หรือให้ปิดกิจการ หรือมีโทษปรับไม่ต่ำกว่า 50000 บาท
โทษปรับตามกฎหมายแต่ละข้อ ควรปรับให้หนักๆ มากกว่า 5000 บาทขึ้นไป
ใครที่จะเดินทางไปบ้านญาติ หรือจะต้องทำธุระเป็นเวลานาน และจำเป็นต้องจอดรถ ต้องไปจอดรถในสถานที่ให้เช่าที่จอดรถ เท่านั้น
โดยจะต้องมีการควบคุมธุรกิจให้เช่าที่จอดรถว่า มีอัตราค่าเช่าในราคาถูกในราคาที่เท่ากันทั่วประเทศ เพื่อควบคุมการโก่งราคา การปรับขึ้นราคาค่าเช่าที่จอดรถสามารถร้องขอได้ แต่การต้องไม่ต่ำกว่า 10 ปี ถึงจะสามารถขอได้ 1 ครั้ง และปรับตามอัตราที่เหมาะสม
บางคนอาจจะเห็นว่า นี่เป็นแหล่งรายได้ของตำรวจ แต่ผมคิดว่า ถึงแม้จะไม่มีกฎหมาย คนเหล่านี้ก็หารายได้ๆ อยู่ดี แต่การมีกฎหมายควบคุมย่อมจะดีกว่า ทำให้สังคมดีขึ้น ถึงแม้คนมีรถจะต้องแบกรับภาระมากขึ้น แต่ถ้าคุณคิดจะมีรถใช้แล้ว คุณก็ต้องพร้อมในทุกๆ ด้าน ไม่ใช่มีเพื่อมาสร้างปัญหาให้กับสังคม ให้กับคนอื่น
หากใครก็ตามที่ร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้น (ควรจะมีหน่วยงานกำกับดูแลโดยเฉพาะ) แล้วยังเห็นว่าไม่ได้รับการแก้ไข จากบุคคลที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจจราจร สำนักงานเขตท้องที่นั้นๆ เจ้าหน้าที่เหล่านั้น จะต้องถูกดำเนินคดีด้วย ไม่ใช่มีการร้องเรียนไป แต่ไม่ได้รับการแก้ไข ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น คนที่คุมกฎก็ควรจะมีบทลงโทษเช่นเดียวกัน
ผมคิดว่าถึงเวลาที่ ทุกคน ทุกฝ่าย ควรจะมีกฎระเบียบที่เคร่งครัด สภาพการจราจรในบ้านเราจะได้ไม่ติดขัด ไม่อย่างนั้นต่างคนก็ต่างเห็นแก่ตัว จอดรถหน้าบ้านตัวเอง, จอดรถกินข้าว, มีรถเยอะจอดริมกำแพงบ้านคนอื่น, ธุรกิจก็อาศัยช่องทางโดยการให้ลูกค้าจอดรถบนถนนสาธารณะก็เยอะ ปริมาณรถยนต์ก็ไม่มีกาีรควบคุม ทำให้รถเยอะเต็มบ้านเต็มเมือง
***ประเทศไทยถึงเวลาที่ควรจะแก้กฎหมายจราจรได้แล้ว***
กฎหมายที่ควรมีออกมาควบคุม
1. กฎหมายการซื้อรถ
คนซื้อจะต้องมีการตรวจสอบ 3 ขั้นตอนก่อนจะได้ซื้อรถ
- ตรวจสอบโฉนดที่ดิน ว่ามีที่ดินมากพอรองรับรถยนต์ที่จะขออนุญาต มีการขออนุญาตไปแล้วกี่คัน ขอได้เต็มที่สูงสุดกี่คัน
- ตรวจสอบทะเบียนบ้าน คนที่จะขอซื้อจะต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน และมีการตรวจสอบว่าบ้านหลังนั้น
- เจ้าหน้าที่ขนส่ง ไปตรวจสอบสถานที่จริงว่า ยังไม่ที่พอจริงหรือไม่
หากที่ดิน หรือทะเบียนบ้านไหน ขอรถไปจนเต็มพื้นที่แล้ว จะไม่สามารถขอซื้อได้อีก จนกว่าจะมีการขายรถออกไป จึงจะสามารถขอซื้อเพิ่มได้
2. กฎหมายควบคุมปริมาณรถบนท้องถนน
รถต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ รถมอเตอร์ไซด์ รถบรรทุก ฯลฯ ควรมีการระบุอายุการใช้งาน เช่น ไม่เกิน 20 ปี นับแต่วันขอจดทะเบียนครั้งแรก หากมีอายุเกินกำหนด ห้ามวิ่งบนท้องถนน ตำรวจจับสามารถยึดรถได้เลย (ไม่มีการปรับ)
3. ห้ามจอดรถบนถนนสาธารณะ ถึงแม้จะเป็นทางปิดอย่างในหมู่บ้านก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นเส้นหลัก เส้นรอง หรือตามซอยต่างๆ ยกเว้นให้จอดได้กรณี
- จอดรถทำธุระ โดยจะต้องมีการสตาร์ทรถทิ้งไว้ หรือมีบุคคลนั่งอยู่ภายในรถเท่านั้น
- จอดในกรณีฉุกเฉิน เช่น มีคนป่วย รถเสีย รถชน ฯลฯ
4. กฎหมายควบคุมรถสาธารณะ การจอดรับผู้โดยสารตามป้ายรถโดยสาร ต้องจอดที่ป้ายเท่านั้น (ยกเว้นแท็กซี่) แล้วออกโดยทันที ห้ามจอดรอผู้โดยสาร นานเกินไป หากมีการร้องเรียน รถโดยสารสาธารณะของบริษัทนั้นๆ จะถูกโทษปรับ
5. กฎหมายควบคุมธุรกิจ สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ หรือธุรกิจที่ต้องขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจ เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงแรม ร้านอาหาร ธนาีคาร จำเป็นต้องหาที่จอดรถให้ลูกค้า หรือหากเป็นธุรกิจขนาดเล็ก เช่น ร้านขายของชำ ร้านขายก๋วยเตี๋ยว หากไม่ได้หาที่จอดรถให้ลูกค้า หากได้รับการร้องเรียนว่าทำผิดโดยเอาที่สาธารณะมาทำเป็นที่จอดรถให้ลูกค้า จะต้องถูกยึดใบอนุญาต หรือให้ปิดกิจการ หรือมีโทษปรับไม่ต่ำกว่า 50000 บาท
โทษปรับตามกฎหมายแต่ละข้อ ควรปรับให้หนักๆ มากกว่า 5000 บาทขึ้นไป
ใครที่จะเดินทางไปบ้านญาติ หรือจะต้องทำธุระเป็นเวลานาน และจำเป็นต้องจอดรถ ต้องไปจอดรถในสถานที่ให้เช่าที่จอดรถ เท่านั้น
โดยจะต้องมีการควบคุมธุรกิจให้เช่าที่จอดรถว่า มีอัตราค่าเช่าในราคาถูกในราคาที่เท่ากันทั่วประเทศ เพื่อควบคุมการโก่งราคา การปรับขึ้นราคาค่าเช่าที่จอดรถสามารถร้องขอได้ แต่การต้องไม่ต่ำกว่า 10 ปี ถึงจะสามารถขอได้ 1 ครั้ง และปรับตามอัตราที่เหมาะสม
บางคนอาจจะเห็นว่า นี่เป็นแหล่งรายได้ของตำรวจ แต่ผมคิดว่า ถึงแม้จะไม่มีกฎหมาย คนเหล่านี้ก็หารายได้ๆ อยู่ดี แต่การมีกฎหมายควบคุมย่อมจะดีกว่า ทำให้สังคมดีขึ้น ถึงแม้คนมีรถจะต้องแบกรับภาระมากขึ้น แต่ถ้าคุณคิดจะมีรถใช้แล้ว คุณก็ต้องพร้อมในทุกๆ ด้าน ไม่ใช่มีเพื่อมาสร้างปัญหาให้กับสังคม ให้กับคนอื่น
หากใครก็ตามที่ร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้น (ควรจะมีหน่วยงานกำกับดูแลโดยเฉพาะ) แล้วยังเห็นว่าไม่ได้รับการแก้ไข จากบุคคลที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจจราจร สำนักงานเขตท้องที่นั้นๆ เจ้าหน้าที่เหล่านั้น จะต้องถูกดำเนินคดีด้วย ไม่ใช่มีการร้องเรียนไป แต่ไม่ได้รับการแก้ไข ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น คนที่คุมกฎก็ควรจะมีบทลงโทษเช่นเดียวกัน
ผมคิดว่าถึงเวลาที่ ทุกคน ทุกฝ่าย ควรจะมีกฎระเบียบที่เคร่งครัด สภาพการจราจรในบ้านเราจะได้ไม่ติดขัด ไม่อย่างนั้นต่างคนก็ต่างเห็นแก่ตัว จอดรถหน้าบ้านตัวเอง, จอดรถกินข้าว, มีรถเยอะจอดริมกำแพงบ้านคนอื่น, ธุรกิจก็อาศัยช่องทางโดยการให้ลูกค้าจอดรถบนถนนสาธารณะก็เยอะ ปริมาณรถยนต์ก็ไม่มีกาีรควบคุม ทำให้รถเยอะเต็มบ้านเต็มเมือง