เห็นข่าว จะมีการถอด หลักสูตร วิชานาฏศิลปืไทย ออกจาก การเรียน
ครับ ผมไม่เข้าใจเลยว่า นักวิชาการ กำลัง ทำอะไรกับ เด็กไทย
พวกคุณแก้แบบเรียน จนเด็กไทยของผม อ่านหนังสือ ได้น้อยลง เมื่อจบชั้น
เด้กไทย ของผม เรนียน วิชาคำนวน ได้ เป็นที่ 50 ของ 65 ประเทศทั่วโลก ที่มาสำรวจกัน
เด็กไทยของผม สอบ วิทยาศาสตร์ ได้ เป็นอันดับ ท้าย ๆ ของที่เอามาทดสอบ กัน
มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เหมือนกับ ที่ผมเคย เขียนถึงคุณจาตุรงค์ ฉายแสง
พวกนักวิชาการข้างรั้ว เหล่านี้ บอกว่าต้องลด วิชา ที่จะเรียน ที่เกี่ยวกับ วัฒนธรรม
เอาไปเพิ่ม ให้วิชา คำนวน วิทย์ ฯ อะไรนั่น ให้มาก ๆ ปรับให้ เป็นหมวดวิชาการเรียนรู้
เป็น 6 วิชา
ผมอยากจะ ตะโกนใส่หูคุณ ว่า การที่เด็กไทย ของผม เรียนไม่ได้เรื่อง ไม่ใช่สาเหตุ
จากการมีวิชา ที่แตกย่อย ออกไป แต่มันมาจาก สาเหตุ เรื่องของ บทเรียน ครู ผู้สอน
ที่ไม่มีความสามารถ ตำรา ไม่ มีการเรียน ที่ถูก ต้อง ไม่เป็นลักษณะ ของการใช้ความคิด
ความเข้าใจ มากกว่า การลอกแบบ อย่างทุกวันนี้
พวกคุณมีครู ที่ไม่รู้จักหน้าที่ของครู ที่แท้จริง โรงเรียนดัง ๆอาจสอน ได้ตามหลักสูตร
ไอ้นั่นเป็นโชคดีของเด็ก ที่ได้ครูที่รู้จักหน้าที่ แต่ หลาย ๆคน ไล่ เด้กไปเรียนพิเศษ
ผม พบกับ วิธีของครูผู้สอน โดยตรง ที่อยากได้ ต้องเรียนพิเศษ
พวกคุณ รู้ไหมว่า วัฒนธรรมของไทยเราถูก ต่างชาติกลืนไป จน เดี๋ยวนี้ เด็ก รู้จัก
วัฒนธรรมเกาหลี มากกว่า วัฒนธรรม เด็ก รู้จักคำเกาหลี มากกว่า รากฐานของ
ภาษาไทยเรา แม้แต่ ผู้ประกาศสถานีโทรทัศน์ ยังใช้คำเกาหลี มาทักทายกัน ให้คนดู
ได้ยิน บ่อยครั้งที่ผมได้ยิน อะไร โญ ๆ อะไร เบย ๆ เหนื่อยครับ แล้วเด็กดู ก็ตามอย่างกัน
คุณรู้ไหมว่า วัฒนธรรมของไทย เป็นวัฒนธรรม ที่ต้องสอนต้องทำ ให้ เด็กได้เข้าใจ
ต้องทำให้เด็กได้ ฝังใจ ในวัฒนธรรมของไทยเรา ความอ่อนช้อย ทางวัฒนธรรม
ถูกลืมไปหมด คนที่เรียนทางศิลป์ ถูกมองว่าเป็นการเต้นกินรำกิน ไม่ใช่เป็นการรักษา
วัฒนธรรม คุณดูเพลง สมัยปัจจุบัน ที่การสัมผัส ต่างๆ ไม่มี การเข้าถึง บทเพลง ต่าง ๆเพี้ยนไป
ไม่ใช่เพราะวัฒนธรรม หรือครับ เด็กไทย บอกไปฟ้อนรำ ต้องดัดมือ ดัดนี้ว เมื่อยเจ็บ
ก้ต้องปรับปรุง ให้ไปตามยุค ไม่ดีกว่าหรือ
วิชา แต่ละวิชา ที่ถูกลืมไป เพราะพวกนักวิชาการเหล่านี้ เอาไปรวมกันเป็นหน่วย ไม่ใช่
วิชาหลัก อย่างที่เคยมา เด็ก ๆสมัยนี้ ไม่ รู้จัก พื้นฐานของประวัติศาสตร์ชาติไทยอย่างสมบูรณ์
ไม่รู้จัก ภูมิศาสตร์ ของเรา ไม่รู้จักป่าไม้ ของเรา ไม่รู้จักรักธรรมชาติ และสี่งแวดล้อม
เพราคุณ เอาวิชาพวกนี้ เป็นวิชาเล็ก ๆ ในหน่วยวิชาใหญ่ ไม่มีความหมาย ในที่สุด ป่าจาก
65 % เหลือ 18 % ทุกวันนี้ ก็เพราะไอ้เหตุนี้
คุณบอกว่า ต้องเร่ง ทาง คำนวน วิทย์ ที่ล้าหลัง ผมถามคุณว่า วิชาหลัก สองวิชา คุณมี
หลักสูตร ที่ดี มีตำราเรียนที่ดี และสำคัญ คุณมีคนสอนที่ดี จริง ๆ หรือ หันไปมอง รอบตัวของคุณ
ครูของคุณหน่อยได้ไหม
วันนี้ผมฟัง คุณจาตุรงค์ ออกมาบอกว่าเป็นการเข้าใจผิด บอกว่าไม่ได้ เอาออก บอกว่า
เป็นการ เอาไปรวมในหมวด สังคม นั่นใช่ไหม ที่วิชานี้ จะถูกกลืนไป เหมือนกับ วิชา ที่ผมว่า
ตอนต้น ในที่สุด แล้ว วิชา นี้ ก็จะหายไป เด็ก ๆหันไปสนใจ วัฒนธรรมเกาหลี ดีกว่า เพราะ
มันทันสมัยดี แล้วคุณไม่สงสัย หรือว่า ทำไมเกาหลี จึงส่งออกทางวัฒนธรรม มาให้ ทั้งเด็ก
และผู้ใหญ่ ติดปากกันทุกวันนี้
ผมละหมด ความน่าเชื่อถือกับ ผู้ใหญ่ ที่คิดอะไร แค่ ปลายจมูก แค่นี้ จริง ๆ
เรื่องเล็ก ๆไม่ เรื่องใหญ่ จะทำ
ครับ ผมไม่เข้าใจเลยว่า นักวิชาการ กำลัง ทำอะไรกับ เด็กไทย
พวกคุณแก้แบบเรียน จนเด็กไทยของผม อ่านหนังสือ ได้น้อยลง เมื่อจบชั้น
เด้กไทย ของผม เรนียน วิชาคำนวน ได้ เป็นที่ 50 ของ 65 ประเทศทั่วโลก ที่มาสำรวจกัน
เด็กไทยของผม สอบ วิทยาศาสตร์ ได้ เป็นอันดับ ท้าย ๆ ของที่เอามาทดสอบ กัน
มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เหมือนกับ ที่ผมเคย เขียนถึงคุณจาตุรงค์ ฉายแสง
พวกนักวิชาการข้างรั้ว เหล่านี้ บอกว่าต้องลด วิชา ที่จะเรียน ที่เกี่ยวกับ วัฒนธรรม
เอาไปเพิ่ม ให้วิชา คำนวน วิทย์ ฯ อะไรนั่น ให้มาก ๆ ปรับให้ เป็นหมวดวิชาการเรียนรู้
เป็น 6 วิชา
ผมอยากจะ ตะโกนใส่หูคุณ ว่า การที่เด็กไทย ของผม เรียนไม่ได้เรื่อง ไม่ใช่สาเหตุ
จากการมีวิชา ที่แตกย่อย ออกไป แต่มันมาจาก สาเหตุ เรื่องของ บทเรียน ครู ผู้สอน
ที่ไม่มีความสามารถ ตำรา ไม่ มีการเรียน ที่ถูก ต้อง ไม่เป็นลักษณะ ของการใช้ความคิด
ความเข้าใจ มากกว่า การลอกแบบ อย่างทุกวันนี้
พวกคุณมีครู ที่ไม่รู้จักหน้าที่ของครู ที่แท้จริง โรงเรียนดัง ๆอาจสอน ได้ตามหลักสูตร
ไอ้นั่นเป็นโชคดีของเด็ก ที่ได้ครูที่รู้จักหน้าที่ แต่ หลาย ๆคน ไล่ เด้กไปเรียนพิเศษ
ผม พบกับ วิธีของครูผู้สอน โดยตรง ที่อยากได้ ต้องเรียนพิเศษ
พวกคุณ รู้ไหมว่า วัฒนธรรมของไทยเราถูก ต่างชาติกลืนไป จน เดี๋ยวนี้ เด็ก รู้จัก
วัฒนธรรมเกาหลี มากกว่า วัฒนธรรม เด็ก รู้จักคำเกาหลี มากกว่า รากฐานของ
ภาษาไทยเรา แม้แต่ ผู้ประกาศสถานีโทรทัศน์ ยังใช้คำเกาหลี มาทักทายกัน ให้คนดู
ได้ยิน บ่อยครั้งที่ผมได้ยิน อะไร โญ ๆ อะไร เบย ๆ เหนื่อยครับ แล้วเด็กดู ก็ตามอย่างกัน
คุณรู้ไหมว่า วัฒนธรรมของไทย เป็นวัฒนธรรม ที่ต้องสอนต้องทำ ให้ เด็กได้เข้าใจ
ต้องทำให้เด็กได้ ฝังใจ ในวัฒนธรรมของไทยเรา ความอ่อนช้อย ทางวัฒนธรรม
ถูกลืมไปหมด คนที่เรียนทางศิลป์ ถูกมองว่าเป็นการเต้นกินรำกิน ไม่ใช่เป็นการรักษา
วัฒนธรรม คุณดูเพลง สมัยปัจจุบัน ที่การสัมผัส ต่างๆ ไม่มี การเข้าถึง บทเพลง ต่าง ๆเพี้ยนไป
ไม่ใช่เพราะวัฒนธรรม หรือครับ เด็กไทย บอกไปฟ้อนรำ ต้องดัดมือ ดัดนี้ว เมื่อยเจ็บ
ก้ต้องปรับปรุง ให้ไปตามยุค ไม่ดีกว่าหรือ
วิชา แต่ละวิชา ที่ถูกลืมไป เพราะพวกนักวิชาการเหล่านี้ เอาไปรวมกันเป็นหน่วย ไม่ใช่
วิชาหลัก อย่างที่เคยมา เด็ก ๆสมัยนี้ ไม่ รู้จัก พื้นฐานของประวัติศาสตร์ชาติไทยอย่างสมบูรณ์
ไม่รู้จัก ภูมิศาสตร์ ของเรา ไม่รู้จักป่าไม้ ของเรา ไม่รู้จักรักธรรมชาติ และสี่งแวดล้อม
เพราคุณ เอาวิชาพวกนี้ เป็นวิชาเล็ก ๆ ในหน่วยวิชาใหญ่ ไม่มีความหมาย ในที่สุด ป่าจาก
65 % เหลือ 18 % ทุกวันนี้ ก็เพราะไอ้เหตุนี้
คุณบอกว่า ต้องเร่ง ทาง คำนวน วิทย์ ที่ล้าหลัง ผมถามคุณว่า วิชาหลัก สองวิชา คุณมี
หลักสูตร ที่ดี มีตำราเรียนที่ดี และสำคัญ คุณมีคนสอนที่ดี จริง ๆ หรือ หันไปมอง รอบตัวของคุณ
ครูของคุณหน่อยได้ไหม
วันนี้ผมฟัง คุณจาตุรงค์ ออกมาบอกว่าเป็นการเข้าใจผิด บอกว่าไม่ได้ เอาออก บอกว่า
เป็นการ เอาไปรวมในหมวด สังคม นั่นใช่ไหม ที่วิชานี้ จะถูกกลืนไป เหมือนกับ วิชา ที่ผมว่า
ตอนต้น ในที่สุด แล้ว วิชา นี้ ก็จะหายไป เด็ก ๆหันไปสนใจ วัฒนธรรมเกาหลี ดีกว่า เพราะ
มันทันสมัยดี แล้วคุณไม่สงสัย หรือว่า ทำไมเกาหลี จึงส่งออกทางวัฒนธรรม มาให้ ทั้งเด็ก
และผู้ใหญ่ ติดปากกันทุกวันนี้
ผมละหมด ความน่าเชื่อถือกับ ผู้ใหญ่ ที่คิดอะไร แค่ ปลายจมูก แค่นี้ จริง ๆ