เมื่อก่อนผมเคยคิดว่าการติดกล่องท้ายมันเป็นอะไรที่ไม่เท่เอาซะมากๆ
แต่แร็ค GIVI ใส่แล้วมันสวยดี ชั่งใจอยู่เป็นปีสุดท้ายก็เอาไปติดกล่องมาจนได้ครับ
เป็นกล่องรุ่น GIVI E450N พร้อมไฟเบรค





อันนี้มุมมองด้านหลัง ติดกล่องมาแรกๆก็กลัวว่ามันจะมุดยาก แต่ไม่เลยถ้ากระจกข้างไปได้มันก็ผ่านได้
มุดซิกแซกไปมาเหมือนจะติดแต่ก็ไม่ติดครับไม่ว่าจะรถตู้ รถเมล์ รถกระบะ เพราะงั้นชิลๆเลย



มุมมองด้านข้างครับ แรกๆกลัวว่ามันจะน่าเกลียดแต่พอติดกล่องแล้วผมว่ามันดูสวยดีนะดูทัวร์ริ่งดี
แล้วข้อดีของแร็คตัวนี้คือติดแล้วกล่องมันจะขนานกับพื้นครับไม่เอียงไปด้านหน้า



จุดยึดหน้าสุดของขาแร็คจะใช้ยึดจุดเดียวกับที่พักเท้า แข็งแรงหายห่วงครับ



รูปแร็คมุมด้านข้างครับผมตัดสินใจติดเพราะรูปทรงแร็คมันเท่ดีนี่แหละ



เวลาผมไม่ได้เอาหมวกใส่ลงไปมันคือกล่องขยะ 555+ ไม่ใช่ละ...มันเป็นกล่องใส่ของสารพัดนึกที่จุเอามากๆ
พี่ที่ออฟฟิศชอบแซวว่ากล่องโดเรมอนเพราะผมหยิบอะไรออกมาจากกล่องเยอะแยะไปหมด



เขาเตือนไว้ว่าห้ามบรรทุกเกิน 3 ก.ก. และห้ามขี่เกิน 110 แต่ผมเชื่อว่าคนที่ติดกล่องทุกคน
ยัดกัน 10 ก.ก.ทุกคน 555+ ผมเคยขี่ถึง 130 น.น.บรรทุก 10 ก.ก.เศษๆ ทางตรงก็ยังปกติ
ช่วงแรกเทโค้งไปซะ 90-100 มีอาการแถออกครับต้องระวังหน่อย(ขี่ๆไปมันจะชินไปเอง)



ป้ายชื่อรุ่นถลอกหมดละเพราะโดนผมเอาสารพัดของใส่ครับ



เวลาเปิดมันจะอ้าฝาค้างไว้ได้โดยที่ฝาไม่งับลงมาทั้งๆที่ฝาไม่ได้หงายไปด้านหลัง
(เขาห้ามหงายฝาเกิน 80 องศา) ซึ่งตัวเส้นพลาสติกที่ค้ำไว้มันมีความกึ่งอ่อนกึ่งแข็ง
ถ้าเปิดถึง 80 องศามันจะค้างไว้ได้ครับ แต่ถ้าเปิดน้อยกว่านั้นมันจะค้างไม่อยู่



รองรับกล่องรุ่น MONOLOCK ทุกรุ่นครับ ในภาพจะเห็นหนวดกุ้งสีดำสองเส้น
ทางร้านเขาเดินสายไฟแอบไว้ฝั่งด้านในครับ เนียนเลยไม่เห็นสายไฟ



สายไฟจะลอดผ่านรูที่เจาะไว้เล็กๆตรงใต้บังโคลนขนาดรูแทบจะพอดีกับสายไฟเลยครับ
เลยไม่มีปัญหาน้ำดีดเข้าไปข้างใน และจากในภาพจะเห็นจุดยึดด้านหลังของแร็ค
ซึ่งยึดกับตัวเฟรมด้านในครับ



สภาพภายในตอนเอาของออกหมดครับ ไอโดมทรงกระบอกเล็กๆสีดำเงาๆตรงกลางขวา
คือจุดเชื่อมให้ไฟผ่านเข้ามาครับ ส่วนผ่านเข้ามาได้ยังไงผมจะอธิบายในช่วงท้ายครับ



เขี้ยวสีเงินทู่ๆนี้มีไว้เป็นทางผ่านของไฟเช่นกันครับ



ฝั่งด้านบนฝากล่องก็จะมีเหมือนกันไว้เชื่อมกับฝั่งฝาล่างครับ



ภาพนี้จะเห็นปุ่มวงรี 2 ปุ่ม อันบนไว้ปลดล็อคฝากล่องครับ กดทีเดียวเปิดออกได้เลย
ส่วนอันล่างเอาไว้กดเพื่อถอดกล่องออกจากตัวแร็คครับกดทีเดียวเอาออกได้เลยเหมือนกัน
ปุ่มสองอันนี้จะกดไม่ลงเลยถ้าไม่ได้ไขกุญแจก่อนไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้นครับ
กล่องรุ่นนี้เป็นตัวที่ออกแบบใหม่ในยุคหลังๆมานี้ซึ่งจะมีตัวครอบกันคนเอามือกระชากเปิดล็อคครับ
ช่องที่จะดึงมันแคบมากๆไม่สามารถดึงได้แบบกล่องรุ่นเก่าๆครับ



ผมเอาฟองน้ำซับเสียงตัดมารองด้านล่าง เพื่อที่เวลาเก็บหมวกๆจะได้ไม่ถลอก
แล้วก็ช่วยป้องกันของที่ใส่กระเด็นไปมาจนมีเสียงแกร๊กๆๆตลอดทาง (ยังมีเสียงอยู่แต่น้อยลงมากๆ)
ที่สำคัญเลยสามารถเอาถุงแกงวางใส่ไม่ต้องกลัวว่ามันจะโดนกระแทกจนแตกคากล่อง



ถ้าเอาหมวกวางแบบนี้จะมีพื้นที่เหลือสำหรับหมวกเปิดหน้าได้อีกใบ



แต่ผมมีฟองน้ำรองด้านล่างแล้วผมเลยวางนอนได้แบบไม่ต้องกลัวหมวกถลอก อิอิ
แถมถ้าวางนอนแบบนี้จะสามารถใส่หมวกเต็มใบได้ถึง 2 ใบ (BILMOLA EXPLORER L
ใบใหญ่พอสมควรยังแค่ครึ่งกล่องพอดี)





เมื่อถอดกล่องออกจะเห็นจุดกลมๆสีเงินติดกันสองอันด้านขวาภาพ
ซึ่งจะเป็นตัวจ่ายไฟผ่านเขี้ยวใต้กล่องนั่นเอง!! เจ้าตัวนี้มีฝาปิดเวลาไม่ได้ใส่กล่องแล้วต้องลุยฝน
แต่ฝาปิดมันอย่ากดลงไปจนแน่นนะเพราะเอาออกยากมากกกก ปกติผมจะไม่ปิดไว้ถ้าไม่จำเป็น
กล่องตัวนี้ผมใช้มาร่วม 2 เดือนถอดเข้าออกวันละสามรอบตัวล็อคยังอยู่ดี
กำลังลุ้นอยู่ว่าถ้าถอดเข้าออกบ่อยแบบนี้จะพังไวขนาดไหน แต่เท่าที่ดูตัวล็อคมันยังไม่สึกเลย

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ตั้งแต่มีกล่องใบนี้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ ขี่ไปห้างจอดปุ๊บเปิดกล่องเอาหมวกกับอุปกรณ์อื่นๆใส่แล้วล็อคก็จบละ
เอาแต่ของมีค่าติดตัวมาก็พอ ซื้อของในทอปได้สามถุงกลางๆสบายเลยครับมีกล่องใบนี้ รู้แบบนี้ติดตั้งนานละ 555+
เวลาไปรับแฟนหรือจะไปห้างกับแฟนก็เอาหมวกใส่กล่องไว้แล้วไปเดินห้างสบายใจไม่ต้องคอยกังวล
เอาฮ.บังคับไซส์ 250 ใส่ได้สบายทั้งเซตอีกด้วยจะขี่เอาไปเล่นที่ไหนก็สะดวก ไปติดกล่องกันเถอะพี่น้อง

นอกเรื่อง : ผมพึ่งซื้อน้ำยาล้างรถ กับน้ำยาเคลือบรถ ยี่ห้อนึงมาใช้ มันเยี่ยมมาก...


               
ทำผมลืม MUC-OFF ไปเลย ทั้งล้างทั้งเคลือบมันเร็วและแหล่มกว่ามากมาย
เดี๋ยวไว้รถสกปรกมากๆจะมารีวิวให้ชมครับ และจากในภาพรถผมคันนี้อีก 2 เดือนครึ่งจะครบ 3 ปีพอดีเลย
ทุกอย่างของรถยังทำงานได้ดี พลาสติกก็ยังแน่นไม่มีหลุดหรือแตก
ตัวเครื่องสีก็ไม่ได้หลุดลอกใดๆและยังวิ่งได้ดีเหมือนตอนซื้อมาใหม่ๆ



เคยมีคนว่า พลาสติกเกรดห่วยบ้าง กร๊อบแกร๊บบ้าง (ผมก็หนึ่งในนั้น 555+)
ของอย่างนี้ไม่ใช้ไม่รู้ครับ นี่คือสภาพชุดสีเดิมๆติดรถไม่เคยเปลี่ยนครับ



ไมล์ป้อกแป้กพลาสติกห่วยๆมีหลายคนว่าไว้แบบนั้น... เกือบ 3 ปีที่ผ่านมามันยังไม่มีน้ำเข้าครับ
ไม่มีแม้แต่รอยร้าว ยังสว่าง และใช้งานได้ดี



36,300 ก.ม. ถ้วนๆที่ผ่านมากับรถที่ไม่มีปัญหาจุกจิกใดๆให้รำคาญเลย
ท้ายนี้ผมแค่อยากจะบอกว่าผมเคยมีแบรนด์รอยัลตี้ต่อค่ายรถค่ายนึงมากๆถึงขนาดด่ารถค่ายอื่นห่วยหมด
(โดยเฉพาะค่ายปีกนกโดนผมด่ากระจายช่วงนั้น) โดยที่ไม่ได้ก้มดูรถที่ตัวเองขี่เลยว่ามันก็มีปัญหาเหมือนกัน
มีอะไรให้ติมากๆๆเหมือนกัน พอได้ห่างจากสังคมเดิมมา พอได้เปลี่ยนยี่ห้อรถเพียงเพราะว่าอยากให้คนซ้อนสบาย
ทำให้ผมรู้ว่า 3 ปีที่ผ่านมา สองล้อดีๆไม่ได้มีแค่ค่ายเดียว และสองล้อที่ขี่แล้วมีความสุขไม่ได้มีแค่คันเดียว
กลับกันเลย CBR250 คันนี้ทำให้ผมมีความสุขมากกว่ามอไซค์ 2 คันก่อนหน้านี้ของผมซะอีก
เคยมีฝรั่งถามผมเกี่ยวกับ CBR250 ของผมตรงลานจอดเอมโพเรี่ยมแต่ผมฟังไม่ออก ฝรั่งเลยถามมาสั้นๆว่า....
"This is a good bike?" (ผมฟังได้ประมาณนี้คำว่าไบค์เสียงสูงๆ)
ผมตอบแบบไม่ลังเลเลยว่า "Yes!! It's good bike!!" (ฝรั่งยิ้มๆบอก แต๊งกิ้ว)

จากใจ...อดีตแฟนบอยค่ายเขียว