ฉันสร้างบ้านในพื้นที่ที่แม่สามีแบ่งให้ลูกๆ เป็นที่มรดก แต่กลับมีปัญหากับผรม.ถึง 2เจ้า เจ้าแรกอ้างว่าทำได้ทุกอย่าง แต่งานที่ออกมาตั้งแต่คานคอดินเบี้ยว ไม่ตรง จนกระทั่งถึงโครงหลังคา ไม่ได้ตามแบบชนิดที่วางกระเบื้องแบบ exella ได้จริงๆ จนสุดท้ายเบิกเงินไป8 หมื่นบอกว่าเพื่อนำไปมัดจำหลังคา แต่รอจนครบ 1 เดือน ตามที่ผรมแรกว่าหลังคาจะได้ แต่ไม่ได้ จนโทรไปถามร้านที่เขาอ้างว่าได้จอง กลับไม่ได้จองอย่างที่ว่า ผรม.ยอมรับโดยดี และขอให้เลือกว่าจะจ้างต่อหรือเลิก ซึ่งฉันและสามีตัดสินใจเลือกเลิกจ้าง แต่ผรม.ขอให้จ่ายเงินค่าแรงคนงาน ประมาณ 8 หมื่น ซึ่งฉันและสามีไม่ได้จ่ายไป เพราะเขาผิดคำพูด และทำงานไม่ได้ตามแบบ
มาถึงเจ้าที่2 ด้วยความที่สามีหาช่างแถวปทุม ผ่านอินเทอร์เน็ต ก็ได้มาพบกับเขา วันแรกบอกว่ามีช่างเกือบ 20 คน มีวิศวกรด้วย นั่นคือลูกชายเขาเรียนจบวิศวไฟฟ้า มาดูงานที่บ้าน ฉันและสามีตัดสินใจลงเอยกับเขา โดยที่เขายังไม่ได้ดูแบบ เมื่อถึงวันเซ็นสัญญา ฉันนำสัญญาพร้อมแบบให้เขาไปดูและตัดสินใจ และเขาก็เริ่มลงมือทำตั้งแต่ 19 มกรา สัญญา 4 เดือน เรื่องการจ่าย เขาบอกไม่ต้องพูดถึง สัญญาจึงระบุว่าเมื่องานแล้วเสร็จในแต่ละงวด เขาเข้ามาทำเริ่มจากทุบงานก่อฉาบทั้งหมดเพราะไม่ได้ตามแบบ และทำโครงหลังคาใหม่หมด โดยค่าทำหลังคาไม่เกี่ยวกับข้อตกลงเรื่องราคาทำบ้าน จ่ายแยกต่างหาก
วันแรกมีช่างมาหลายคน มีเด็กเป็นลูกคนงาน มาช่วยกันทุบ เสร็จงานทุบ5 วัน และเริ่มก่อฉาบ เป็นคนงานพม่า และพม่าคนนี้ทำงานตั้งแต่ก่อฉาบ จนถึงปูกระเบื้องทั้งหมด ว่าง่ายๆคืองานปูนทั้งหมด ซึ่งใช้เวลาไปแล้ว เกือบ 9เดือน ยังไม่เสร็จ เหลือติดตั้งสุขภัณฑ์ พอทำๆไปเริ่มบอกขอเบิกเงินก่อนที่จะได้รับตามข้อกำหนดในสัญญา เอาไปซื้อโน่นนี่ก่อน บางวันพม่าก็ทำ บางวันก็ไม่ทำ มีเพื่อนพม่ามาหาทุกเย็น มาสังสรรค์กัน ผรม.ไม่สามารถ control คนของเขาได้เลย ฉันและสามี ใจดีเกินไปหรือเปล่า สร้างบ้านไม่ใช่สร้างคฤหาสน์ใหญ่โต
มีอยู่ 2 ครั้งที่ฉันบอกเลิกสัญญากับเขา แต่เขาขอทำต่อ แต่นี่เหรอ ทำกับฉัน และจนถึงสุดๆ อารมณ์อยากให้บ้านเสร็จ ฉันออกเงินไปก่อนเพื่อซื้ออุปกรณ์ไฟทั้งหมด สุขภัณฑ์ ไม้บันได และบานประตู รวมถึง อุปกรณ์ครัว กระเบื้องปูเคาน์เตอร์ หมดรวมๆ 2แสนกว่า เพื่อให้เสร็จ ธนาคารมาประเมิณงวดงาน สุดท้ายฉันก็ได้เงินจากธนาคาร แต่เขาขอเบิกอีก 5 หมื่น ฉันก็ให้เขาไป ทั้งๆ ที่งานห้องน้ำก็ยังไม่เสร็จ บันไดก็ไม่เสร็จ แต่ฉันเห็นว่าเขาเริ่มทำครัว และห้องน้ำแล้ว จนถูกคนในบ้านว่า ทำไมถึงให้เขา ทั้งๆ ที่เงินที่ฉันซื้อให้ก่อนมากกว่าเงินตามงวดที่เขาได้รับซะอีก ของที่ซื้อมาก็มากอง ไม่มีคนมาทำ
และเมื่อวันจันทร์นี้ ฉันทนไม่ไหว โทรไปว่าเขา เช้ารุ่งขึ้นเขาเอาช่างไม้มาทำ ก่อนหน้านี้มาแค่ตอนเย็นถึง 2 ทุ่ม อ้างว่าช่างไม้ต้องทำบ้านดาบตำรวจ ซึ่งจ้างงานหลังฉันซะอีก นี่มันอะไร เหมือนขอทานเขากิน เวลาที่เกินเขาจะถูกปรับตามสัญญาวันละ 1พัน ซึ่งรวมแล้ว ถึงตอนนี้ ก็ เกินมา 5 เดือนๆ ละ 3 หมื่น เป็น แสนห้า และเขาบอกเขาขาดทุนอย่าปรับเขาเลย ตอนนี้งานที่บ้านเหลือ ทำลูกกรงบันได และราวระเบียง ติดตั้งสุขภัณฑ์ สั่งบานประตู เนื่องจากร้านไม้อ้างว่าเขากดราคามากทำไม่ไหว เลยไม่ทำให้ ทั้งที่เราระบุในสัญญาแล้วว่าไม้สักทอง และสุดท้าย เรื่องขัดปาร์เก้ และทำสีแต่สีทาบ้าน เขาให้ช่างทาแล้ว 2รอบ เหลือรอบเก็บงาน
วันนี้ทนไม่ไหวแล้ว จึงยื่นคำขาดกับเขาว่า ฉันไม่ใจเย็นแล้ว ขอเลิกจ้าง สิ้นสุดสัญญา เขาบอกแล้วจะเคลียร์ยังไง ฉันบอกไม่เคลียร์เพราะทำไม่เสร็จ เขาบอกว่าฉันโกง เขาจะฟ้อง ฉันบอกฟ้องเลย ฉันไม่ทนแล้ว เขาพูดไม่เป็นคำพูด ทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา เขาหาว่าฉันจิตใจแย่ เขาทำบ้านให้ถึงขนาดนี้ นี่เลยสัญญามา 5 เดือนแล้ว ฉันเป็นคนจิตใจแย่หรือหรือ เขาขอเสนอว่า ถ้าจะเลิกเขา เขาขอให้ ผรม.ใหม่ มาตรวจสภาพ แล้วขอเงินส่วนต่าง หรือเขาขอเวลากลางเดือนหน้าจะทำให้แล้วเสร็จ แต่ฉันไม่ขอฟังคำผลัดวันประกันพรุ่งอีกแล้ว ฉันยื่นคำขาด มี 2 ทาง ถ้าจะทำต้องทำให้เสร็จภายใน 20 นี้ และไปทำสัญญาที่สถานีตำรวจ หรือ 2 ไม่ทำก็ไม่จ่ายที่เหลือ ให้ไปฟ้องร้องเอา และเขาก็เลือกข้อ 2 ฉันคิดว่าฉันไม่โหดไปนะ หรือเพื่อนๆ ว่าไงคะ
ฉันไม่ได้โหดไปใช่ไหมกับผรม.แบบนี้?
มาถึงเจ้าที่2 ด้วยความที่สามีหาช่างแถวปทุม ผ่านอินเทอร์เน็ต ก็ได้มาพบกับเขา วันแรกบอกว่ามีช่างเกือบ 20 คน มีวิศวกรด้วย นั่นคือลูกชายเขาเรียนจบวิศวไฟฟ้า มาดูงานที่บ้าน ฉันและสามีตัดสินใจลงเอยกับเขา โดยที่เขายังไม่ได้ดูแบบ เมื่อถึงวันเซ็นสัญญา ฉันนำสัญญาพร้อมแบบให้เขาไปดูและตัดสินใจ และเขาก็เริ่มลงมือทำตั้งแต่ 19 มกรา สัญญา 4 เดือน เรื่องการจ่าย เขาบอกไม่ต้องพูดถึง สัญญาจึงระบุว่าเมื่องานแล้วเสร็จในแต่ละงวด เขาเข้ามาทำเริ่มจากทุบงานก่อฉาบทั้งหมดเพราะไม่ได้ตามแบบ และทำโครงหลังคาใหม่หมด โดยค่าทำหลังคาไม่เกี่ยวกับข้อตกลงเรื่องราคาทำบ้าน จ่ายแยกต่างหาก
วันแรกมีช่างมาหลายคน มีเด็กเป็นลูกคนงาน มาช่วยกันทุบ เสร็จงานทุบ5 วัน และเริ่มก่อฉาบ เป็นคนงานพม่า และพม่าคนนี้ทำงานตั้งแต่ก่อฉาบ จนถึงปูกระเบื้องทั้งหมด ว่าง่ายๆคืองานปูนทั้งหมด ซึ่งใช้เวลาไปแล้ว เกือบ 9เดือน ยังไม่เสร็จ เหลือติดตั้งสุขภัณฑ์ พอทำๆไปเริ่มบอกขอเบิกเงินก่อนที่จะได้รับตามข้อกำหนดในสัญญา เอาไปซื้อโน่นนี่ก่อน บางวันพม่าก็ทำ บางวันก็ไม่ทำ มีเพื่อนพม่ามาหาทุกเย็น มาสังสรรค์กัน ผรม.ไม่สามารถ control คนของเขาได้เลย ฉันและสามี ใจดีเกินไปหรือเปล่า สร้างบ้านไม่ใช่สร้างคฤหาสน์ใหญ่โต
มีอยู่ 2 ครั้งที่ฉันบอกเลิกสัญญากับเขา แต่เขาขอทำต่อ แต่นี่เหรอ ทำกับฉัน และจนถึงสุดๆ อารมณ์อยากให้บ้านเสร็จ ฉันออกเงินไปก่อนเพื่อซื้ออุปกรณ์ไฟทั้งหมด สุขภัณฑ์ ไม้บันได และบานประตู รวมถึง อุปกรณ์ครัว กระเบื้องปูเคาน์เตอร์ หมดรวมๆ 2แสนกว่า เพื่อให้เสร็จ ธนาคารมาประเมิณงวดงาน สุดท้ายฉันก็ได้เงินจากธนาคาร แต่เขาขอเบิกอีก 5 หมื่น ฉันก็ให้เขาไป ทั้งๆ ที่งานห้องน้ำก็ยังไม่เสร็จ บันไดก็ไม่เสร็จ แต่ฉันเห็นว่าเขาเริ่มทำครัว และห้องน้ำแล้ว จนถูกคนในบ้านว่า ทำไมถึงให้เขา ทั้งๆ ที่เงินที่ฉันซื้อให้ก่อนมากกว่าเงินตามงวดที่เขาได้รับซะอีก ของที่ซื้อมาก็มากอง ไม่มีคนมาทำ
และเมื่อวันจันทร์นี้ ฉันทนไม่ไหว โทรไปว่าเขา เช้ารุ่งขึ้นเขาเอาช่างไม้มาทำ ก่อนหน้านี้มาแค่ตอนเย็นถึง 2 ทุ่ม อ้างว่าช่างไม้ต้องทำบ้านดาบตำรวจ ซึ่งจ้างงานหลังฉันซะอีก นี่มันอะไร เหมือนขอทานเขากิน เวลาที่เกินเขาจะถูกปรับตามสัญญาวันละ 1พัน ซึ่งรวมแล้ว ถึงตอนนี้ ก็ เกินมา 5 เดือนๆ ละ 3 หมื่น เป็น แสนห้า และเขาบอกเขาขาดทุนอย่าปรับเขาเลย ตอนนี้งานที่บ้านเหลือ ทำลูกกรงบันได และราวระเบียง ติดตั้งสุขภัณฑ์ สั่งบานประตู เนื่องจากร้านไม้อ้างว่าเขากดราคามากทำไม่ไหว เลยไม่ทำให้ ทั้งที่เราระบุในสัญญาแล้วว่าไม้สักทอง และสุดท้าย เรื่องขัดปาร์เก้ และทำสีแต่สีทาบ้าน เขาให้ช่างทาแล้ว 2รอบ เหลือรอบเก็บงาน
วันนี้ทนไม่ไหวแล้ว จึงยื่นคำขาดกับเขาว่า ฉันไม่ใจเย็นแล้ว ขอเลิกจ้าง สิ้นสุดสัญญา เขาบอกแล้วจะเคลียร์ยังไง ฉันบอกไม่เคลียร์เพราะทำไม่เสร็จ เขาบอกว่าฉันโกง เขาจะฟ้อง ฉันบอกฟ้องเลย ฉันไม่ทนแล้ว เขาพูดไม่เป็นคำพูด ทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา เขาหาว่าฉันจิตใจแย่ เขาทำบ้านให้ถึงขนาดนี้ นี่เลยสัญญามา 5 เดือนแล้ว ฉันเป็นคนจิตใจแย่หรือหรือ เขาขอเสนอว่า ถ้าจะเลิกเขา เขาขอให้ ผรม.ใหม่ มาตรวจสภาพ แล้วขอเงินส่วนต่าง หรือเขาขอเวลากลางเดือนหน้าจะทำให้แล้วเสร็จ แต่ฉันไม่ขอฟังคำผลัดวันประกันพรุ่งอีกแล้ว ฉันยื่นคำขาด มี 2 ทาง ถ้าจะทำต้องทำให้เสร็จภายใน 20 นี้ และไปทำสัญญาที่สถานีตำรวจ หรือ 2 ไม่ทำก็ไม่จ่ายที่เหลือ ให้ไปฟ้องร้องเอา และเขาก็เลือกข้อ 2 ฉันคิดว่าฉันไม่โหดไปนะ หรือเพื่อนๆ ว่าไงคะ