**หมายเหตุ เนื่องจากผมไม่มีUserในPantip จึงขออนุญาติใช้Userเพื่อนในการแชร์เรื่องราวนี้ครับ
ก่อนอื่นต้องเรียนว่ารถคันนี้ไม่ใช่รถของผมเอง แต่เป็นรถของพ่อผม ซึ่งท่านตัดสินใจอยู่นานว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อดีเพราะราคารถก็เกือบ3ล้าน ซึ่งที่บ้านไม่เคยซื้อรถราคาแพงขนาดนี้มาก่อน แต่ด้วยความที่ว่าท่านใฝ่ฝันอยากจะมีรถเบ๊นซ์สักคันมาตั้งแต่ยังเด็ก ท่านจึงตัดสินใจออกเบ๊นซ์คันแรกก็คือรุ่น C250 โดยออกกับทางMBTHด้วยความเชื่อที่ว่ายังไงดิลเลอร์หรือศูนย์ก็คงจะบริการดีกว่า เซอร์วิสดีกว่า และที่แน่นอนคือรับประกันนานกว่าซื้อรถกับเกรย์มาร์เก็ต และถึงแม้รถเกรย์มาร์เก็ตจะมีราคาถูกกว่าพอสมควรและออฟชั่นก็ได้เยอะกว่า แต่ด้วยความเชื่อส่วนตัวของท่าน ท่านจึงยอมจ่ายแพงกว่าเพราะคิดว่ามันดี แต่ผมอยากแชร์ปัญหาให้ฟังว่าจริงๆแล้วไม่มีอะไรสวยหรูอย่างที่คาดคิดครับ
หลังจากที่วางมัดจำจองและรอรถอยู่ร่วม2เดือน ก็ถึงวันที่รอคอยคือวันที่รถยนต์มาถึงและพร้อมส่งมอบ ( 7ส.ค2556 ) ยังจำได้ดีว่าเป็นวันที่คุณพ่อท่านตื่นเต้นมาก พอได้รถมาทุกอย่างช่างรู้สึกเพอเฟค สวยและคุ้มค่าการรอคอย ผมทำการเช็ครถคร่าวๆก่อนทำการเซ็นรับรถ ทั้งภายนอก ภายใน เครื่องยนต์ ทุกอย่างดูเรียบร้อยดี จึงนำรถกลับบ้าน และอีก3-4วันหลังจากได้รับรถมาผมและพ่ออยากจะลองวิ่งรถทางไกลดูว่ารถขับดีและนั่งสบายแค่ไหน จึงตัดสินใจเดินทางจากกทม.ไปอยุธยา
ระหว่างทางที่ขับไปได้มีโอกาสใช้ความเร็ว100+เป็นครั้งแรก เพราะปกติอยู่แต่ในเมืองรถติดๆ ทันใดนั้นอาการปัญหาที่1ก็โผล่ออกมา
#1.# บริเวณประตูผู้โดยสารตอนหลังฝั่งซ้ายเมื่อวิ่งความเร็วเกิน100มีเสียงลมรั่วเข้ามาดังมากเหมือนรถปิดหน้าต่างไม่สนิท จึงได้นัดศูนย์เพื่อให้ทางศูนย์จัดการแก้ไขปัญหานี้ โดยรถอยู่ที่ศูนย์เพื่อทำการแก้ไขราวๆ2วัน ทางศูนย์จึงโทรมาแจ้งว่าอาการหายแล้วแก้ไขโดยการตั้งประตูให้ใหม่เพราะประตูอาจจะไม่แนบ หลังจากที่รับรถกลับมาปรากฎว่าอาการดังกล่าวไม่หาย จึงได้ทำการนัดวันเข้าไปแก้ไขอีกครั้งภายในอาทิตย์นั้น
#2.# ครั้งที่2ที่เข้าศูนย์มีการวิ่งลองรถไปกับช่างและพบอาการชัดเจน แต่ครั้งนี้ผมแจ้งอาการเพิ่มเติมไปอีกคือรถมีอาการเข้าเกียร์แรงจากD>NและN>D เกียร์เขกแรงมากและมีเสียงดัง ทางศูนย์จึงแจ้งว่าแก้ไขได้โดยการเซ็ทGear ซึ่งครั้งนี้จึงใช้เวลานานกว่าปกติถ้าจำไม่ผิดนอนศูนย์ไปราวๆ4-5วัน (ติดวันอาทิตย์1วัน) โดยก่อนที่นำรถเข้าน้ำมันเกือบเต็มถัง แต่ขารับรถกลับน้ำมันอยู่ต่ำกว่าขีดสุดท้าย ซึ่งเราก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรเพราะคิดว่าคงต้องวิ่งลองรถหลายรอย (จึงเติมน้ำมันด้วยตัวเองเป็นเงิน2,000บาท) ทางศูนย์แจ้งว่าทุกอย่างถูกแก้ไขเรียบร้อย แต่ผลปรากฎว่าอาการเกียร์ที่แจ้งไปไม่หายแม้แต่น้อย แต่ด้วยความจำเป็นต้องใช้รถเพราะไม่มีรถสำรองจึงต้องนำรถกลับก่อน และเมื่อไปวิ่งลองทำความเร็ว100+เสียงลมที่รั่วเข้าก็ไม่ได้หาย100% ยังคงมีเสียงอยู่เพียงแต่เสียงเบาลง ครั้งนี้เราเริ่มมีความโมโหว่าทำไมทำงานกันไม่เรียบร้อยเช็ครถกันยังไง แต่แค่นั้นยังไม่พอครับ มีอาการใหม่แทรกเข้ามาอีกครับหลังจากนำรถกลับมาได้ไม่กี่วัน พวงมาลัยเริ่มมีเสียงดังเวลาหมุนไปทางขวา แรกๆเสียงไม่ดังมากแต่พอใช้ไปอีกไม่กี่วัน ดังแค่ไหนลองดูได้จากคลิปนี้ครับ
#3# ผมจึงนำรถกลับเข้าไปที่เดิมอีกครั้งเพื่อแก้ไขครั้งนี้ผมย้ำไปว่า ถ้าไม่เรียบร้อยไม่ต้องส่งรถคืนครับผมเบื่อที่จะเข้าๆออกๆศูนย์แล้วเพราะครั้งนี้เป็นครั้งที่3 ทางศูนย์รับรถไปแก้ไขอาการดังกล่าวอีกครั้งครั้งนี้ถ้าจำไม่ผิดใช้เวลาราวๆ3-4วัน หลังจากศูนย์แจ้งมาว่าเสร็จเรียบร้อยจึงเข้าไปรับรถมา
ครั้งนี้ลองเช็คอาการพวงมาลัยที่หมุนขวาแล้วเสียงดังดู โอเคเรียบร้อย ส่วนเรื่องเสียงลม ณ ตอนนั้นไม่สามารถลองได้เนื่องจากปริมาณรถเยอะ จึงรับรถกลับมาลองเอง ขณะที่ลองก็พบว่าอาการพวงมาลัยที่หมุนขวาแล้วดังตอนนี้กลับกัน พวงมาลัยเริ่มมาดังขึ้นเรื่อยๆตอนหมุนไปทางซ้ายแทนถึงแม้จะไม่ดังเท่าตอนแรกแต่ก็ยังมีเสียงอยู่ (อาการนี้ถูกแก้ไขโดยคนขับรถที่บ้าน ก้มไปดูใต้คอพวงมาลัยพบว่ามีชิ้นส่วนหลุดออกมาหรือประกอบไม่แน่นจึงตบกลับเข้าไป ปรากฏว่าเสียงเงียบกริบ) ส่วนเรื่องเสียงลมเข้าประตูหลังเท่าที่ลองเทสดูก็พอใจในระดับที่ว่าโอเคมันคงได้เท่านี้แหละไม่อยากแก้แล้วเพราะต้องรื้อแผงประตูทุกครั้งที่ซ่อมรื้ออีกมันคงนะ... เข้าใจใช่มั้ยครับรถใหม่เพิ่งใช้ได้ไม่นานใครๆก็ไม่อยากให้มารื้อหรอกครับเพราะรื้อแล้วประกอบกลับหลายๆครั้งคุณคิดว่ามันจะ100%เหมือนที่มาจากโรงงานประกอบรึเปล่า? แต่ปัญหาก็ยังไม่จบแค่นั้นประตูข้างที่แก้เรื่องลมเข้ามีอาการปิดยาก ต้องกระแทกแรงกว่าปกติหรือที่เรียกกันว่าอาการประตูหนัก เกิดจากการตั้งประตูให้แนบเกินไป และเรื่องเกียร์ก็ยังคงอาการเดิม เหอๆ ยังครับยังไม่หมดแค่นั้นครับอยู่ๆรถมีอาการกินซ้ายหนักมากหนักแบบว่าปล่อยมือแปบเดียวรถวูบเข้าซ้ายเร็วมากผมการันตีเลยครับว่ารถไม่มีตกหลุมหรือไปกระแทกอะไรมาแน่นอนเพราะช่วงที่รับรถกลับมาจากศูนย์ผมเอามาใช้เองเพื่อทดสอบอาการครับ และที่ทุเรศที่สุดที่ผมไม่คิดว่าจะเจอกับMBคือคลิปนี้ครับ
นี่คืออาการของรถที่อายุไม่ถึงเดือนครับ
และยังครับยังไม่หมดแค่นั้น ระหว่างนั้นมีโอกาสได้วิ่งทางไกลช่วงกลางคืนจึงพบอีกปัญหาคือ ไฟหน้าค้างครับ อธิบายง่ายๆนะครับไฟหน้ารุ่นนี้จะมีระบบปรับระดับลำแสงให้สูงขึ้นเมื่อใช้ความเร็วสูง แต่จะปรับระดับลงเมื่อใช้ความเร็วต่ำหรือมีรถสวนมา แต่รถผมไม่ใช่อย่างงั้นครับ ไฟหน้าที่ปรับขึ้นสูงค้างโด่เด่อยู่แบบนั้น แยงตาคนที่สวนไป-มาจนมีแต่รถตบไฟสูงให้ ต้องดับรถและสตาร์ทใหม่ระดับไฟจึงจะกลับมาปกติ
สูงแค่ไหนลองดูจากภาพครับ สูงกว่ารถที่จอดอยู่ไกลๆ หรือสูงเท่าหัวคนเลยทีเดียว
ขอย้ำนะครับว่าในภาพนี้ผมไม่ได้เปิดไฟสูงอยู่แน่นอนครับ
#4# ครั้งนี้ผมสุดจะทนจึงโทรเข้าไปหาทางฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์MBTH (เมอซิเดสเบ๊นซ์ไทยแลนด์) ทางนั้นจึงประสานงานให้นำรถเข้าไปที่ศูนย์ที่เราไปออกรถมาเพื่อให้ทางศูนย์ส่งรถให้ทางMBTHตรวจสอบซึ่งครั้งนี้ได้แจ้งอาการทั้งหมดไปทางMBTHให้เป็นผู้รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหา และทางนั้นก็ไม่มีกำหนดเวลาในการรับรถให้เรา แต่ใจเราบอกว่าเรื่องถึงMBTHแล้ว คงเร็วและจบแค่นี้แล้วหล่ะ แต่ไม่เป็นแบบนั้นครับ ครั้งนี้ปาเข้าไปเกือบ3อาทิตย์เต็มๆ ขอย้ำครับว่าเกือบ3อาทิตย์ และที่สำคัญระหว่างนั้นไม่มีรถสำรองใช้ครับ พ่อผมต้องนั่งแท็กซี่ไปทำงานทุกวันครับ คุณคิดว่าคนที่ปกติออกรถเบ๊นซ์มาเพื่อนๆหรือลูกน้องที่ทำงานต้องรู้ใช่มั๊ยครับ แต่นี่ได้มาใช้ไม่นานต้องกลับมานั่งแท็กซี่ไปทำงาน แน่นอนครับ ผมเชื่อว่าเป็นใครใครก็ต้องถามใช่มั๊ยครับ ว่ารถไปไหน? จะให้เราบอกว่าอ๋อ ซ่อมอยู่เนี่ย ตั้งแต่ซื้อมาเข้าศูนย์ไป3รอบแล้ว แบบนี้หรอครับ?
ไม่พอแค่นั้นเพื่อนๆคงคิดว่าเรื่องมันจบแล้วใช่มั้ยครับ แต่....ยังครับ ยังไม่จบแค่นี้ครับ ทางผมรอรถนานมากจึงเกิดข้อสงสัยว่าทำไม? จึงโทรติดต่อเข้าไปทางศูนย์ พบสาเหตุว่าทางMBTHส่งรถกลับมาให้ทางศูนย์เป็นคนแก้ไขอาการศูนย์ล้อกินซ้ายและเกียร์!! ซึ่งทางศูนย์แจ้งว่าเกียร์ใช้เวลาแก้ไขนานเลยทำให้กินเวลารับรถนานจนถึงเกือบ3อาทิตย์ อาการที่ซ่อมนานแบบนี้คุณคิดมั้ยครับว่ามันคงไม่ธรรมดา เพราะถ้าเป็นไม่หนักผมเชื่อครับว่า2-3วันมันคงเสร็จแล้วครับ จริงมั๊ย?
และแล้วก็ถึงวันที่รับรถ เชื่อมั้ยครับว่ามันไม่จบอีกแล้วครับ อาการทุกอย่างถูกแก้ไขหมดแล้ว(ภายหลังพบว่าไฟหน้าที่ค้างยังคงไม่หายครับ) แต่ที่สำคัญ..... เกียร์ครับ เกียร์เวลาเปลี่ยนเกียร์ 2>3และ3>2 ขณะที่ขับ มีอาการกระตุกแรงมาก เหมือนคนขับรถเกียร์ธรรมดาแล้วเหยียบครัซไม่เป็น แถมรอบนี้กลับมาน้ำมันรถหมดถังครับตอนรับรถกลับหน้าจอโชว์วิ่งได้อีกแค่20km.ผมต้องควักตังเติมอีก2,400 โทรแจ้งทางศูนย์ไปว่าทำไมน้ำมันเหลือน้อยมาก ทางศูนย์บอกมาว่า "ทางเราเติมใหม่ไปหลายครั้งแล้วค่ะ!?” เอิ่มม...โอเค หน้าที่ผมที่ต้องเติมใช่มั้ย ไม่เป็นไรไม่ซีเรียสก็ได้มั้ง.... แต่เชื่อมั้ยครับมีเรื่องที่น่าตกใจอีกเรื่องคือคือรถคันนี้ถูกวิ่งทดสอบเยอะจนเลขไมล์มัน2000กว่ากิโลครับ ผมวิ่งเองเต็มที่ที่ลองคำนวณดูไม่ถึงพันกิโลแน่นอน แสดงว่ามันคงถูกวิ่งเพื่อเช็คเยอะมาก (ก็แน่ละสิ่น้ำมัน2ถังเกลี้ยง ไม่รวมที่ศูนย์เติมเพิ่มไปอีก ต้องวิ่งทดสอบเยอะขนาดไหนล่ะครับ ตีให้ต่ำๆเลยครับน้ำมันถึงนึงวิ่งได้450km. 2ถังก็900km.เข้าไปแล้วครับ ผมต้องขอบคุณทางศูนย์ด้วยรึเปล่าที่ช่วยกรุณาเติมน้ำมันให้รถผมไปหลายรอบแล้ว??)
****ทางผมจึงยื่นข้อเสนอกับทางศูนย์และทางฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์MBTHไปว่าต้องการเปลี่ยนรถคันใหม่ เพราะเราหมดความมั่นใจกับรถคันนี้แล้วและเสียเวลามาก การยื่นข้อเสนอนี้กินเวลานานหลายวันไม่มีฟีดแบคกลับมา ทางผมจึงติดต่อกลับเข้าไปอีกครั้ง ไม่สิถ้าพูดให้ถูกก็หลายครั้งเพราะแทบไม่มีการติดต่อกลับมาเลยว่าเรื่องไปถึงไหนแล้ว
#5#ล่าสุดหลังจากที่คุยกับทางฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ ได้ความว่าการเปลี่ยนรถคงเป็นไปได้ยาก ต้องทำตามระบบ 1 2 3 4 หรืออาจจะต้องนัดเข้ามาคุยกับทางหัวหน้า บลา บลา บลาๆ
จนในที่สุดได้ข้อสรุปว่าวันที่7ตุลาคม2556 ทางMBTHนัดหมายให้ผมนำรถเข้าไปตรวจสอบด้วยตัวเองที่สำนักงานใหญ่MBTH บางพลี(บ้านผมอยู่สาทร ต้องวิ่งไปบางพลี ไม่ใกล้นะครับ แต่ผมก็ต้องไปใช่มั้ยครับ...) โดยครั้งนี้เมื่อไปถึงมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงซึ่งเป็นฝรั่ง เป็นคนมาทดสอบรถผมด้วยตัวเอง ผมก็แจ้งไปตามอาการที่เป็น 1 2 3 4 ทั้งหมด หลังจากที่ฝรั่งคนนี้ขับก็พบอาการเกียร์กระตุกที่เป็นชัดเจนมาก จึงได้ข้อสรุปคือให้ผมนำรถกลับไปก่อนเพราะต้องจัดการเรื่องเอกสารข้อมูลและเตรียมทีมช่าง ซึ่งเมื่อเอกสารพร้อมจึงจะนำรถสำรองใช้มาให้ที่บ้านผมและนำรถผมไปตรวจสอบและแก้ไขอีกที
ส่วนเรื่องข้อเสนอที่ผมยื่นไปเพื่อต้องการเปลี่ยนรถคันใหม่ ก็ยังไม่มีฟีดแบคใดๆกลับมา หรือแม้แต่การที่จะเรียกเราเข้าไปคุยกับทางผู้บริหารก็ดูว่าคงจะเลือนราง
รถที่มีปัญหาเยอะแบบนี้ผมเชื่อว่าใครๆก็คงไม่อยากได้ครับ ต่อให้ปัญหามันแก้ไขเรียบร้อยหมดแล้ว คุณยังรู้สึกมั่นใจกับรถคันนี้อีกรึเปล่าครับ? และที่สำคัญเรื่องที่ผมเล่ามาทั้งหมดถ้าเกิดกับคุณคุณจะรู้สึกอย่างไร และผลสรุปรถคันนี้จะออกมาแบบไหน แนวโน้มเปลี่ยนรถคันใหม่จะเป็นไปได้มั๊ย ในเมื่อตอนนี้ก็เอาแต่ซ่อมๆๆๆ และก็ซ่อมๆๆ ไม่มีการนัดหมายไปคุยแบบเป็นทางการ
สรุปอาการปัญหาของรถอายุ2เดือนคันนี้ ถ้าไม่นับว่ารถคันนี้ไปซ่อมที่ศูนย์ รถคันนี้อยู่กับบ้านผมได้แค่ไม่ถึง1เดือนครับ
แต่มันมีปัญหารวมกันทั้งสิ้นมากถึง 8 อาการ ....
ถ้าเรื่องราวที่ผมมาแชร์ในที่นี้ถูกใจคุณ หรือถ้าคุณเห็นใจผมที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ รบกวนช่วยกันแชร์ครับ แชร์ไปให้ถึงผู้บริหารทางMBTH และเรามารอดูผลสรุปด้วยกันครับว่าMBTHมีศักยภาพและความเป็นมืออาชีพมากแค่ไหนครับ
*** อัพเดทความคืบหน้า 17 ต.ค. 56 : ขณะนี้ทางMBTHได้นำรถกลับไปตรวจสอบตั้งแต่วันที่12ต.ค ผ่านมา5วันยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ และยังไม่มีการออกมาแสดงความรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น
ซื้อBenzรถศูนย์ป้ายแดงไม่ถึง2เดือนซ่อมไปกว่า8อาการ มาตรฐานดิลเลอร์ไทยอยู่ตรงไหน?
ก่อนอื่นต้องเรียนว่ารถคันนี้ไม่ใช่รถของผมเอง แต่เป็นรถของพ่อผม ซึ่งท่านตัดสินใจอยู่นานว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อดีเพราะราคารถก็เกือบ3ล้าน ซึ่งที่บ้านไม่เคยซื้อรถราคาแพงขนาดนี้มาก่อน แต่ด้วยความที่ว่าท่านใฝ่ฝันอยากจะมีรถเบ๊นซ์สักคันมาตั้งแต่ยังเด็ก ท่านจึงตัดสินใจออกเบ๊นซ์คันแรกก็คือรุ่น C250 โดยออกกับทางMBTHด้วยความเชื่อที่ว่ายังไงดิลเลอร์หรือศูนย์ก็คงจะบริการดีกว่า เซอร์วิสดีกว่า และที่แน่นอนคือรับประกันนานกว่าซื้อรถกับเกรย์มาร์เก็ต และถึงแม้รถเกรย์มาร์เก็ตจะมีราคาถูกกว่าพอสมควรและออฟชั่นก็ได้เยอะกว่า แต่ด้วยความเชื่อส่วนตัวของท่าน ท่านจึงยอมจ่ายแพงกว่าเพราะคิดว่ามันดี แต่ผมอยากแชร์ปัญหาให้ฟังว่าจริงๆแล้วไม่มีอะไรสวยหรูอย่างที่คาดคิดครับ
หลังจากที่วางมัดจำจองและรอรถอยู่ร่วม2เดือน ก็ถึงวันที่รอคอยคือวันที่รถยนต์มาถึงและพร้อมส่งมอบ ( 7ส.ค2556 ) ยังจำได้ดีว่าเป็นวันที่คุณพ่อท่านตื่นเต้นมาก พอได้รถมาทุกอย่างช่างรู้สึกเพอเฟค สวยและคุ้มค่าการรอคอย ผมทำการเช็ครถคร่าวๆก่อนทำการเซ็นรับรถ ทั้งภายนอก ภายใน เครื่องยนต์ ทุกอย่างดูเรียบร้อยดี จึงนำรถกลับบ้าน และอีก3-4วันหลังจากได้รับรถมาผมและพ่ออยากจะลองวิ่งรถทางไกลดูว่ารถขับดีและนั่งสบายแค่ไหน จึงตัดสินใจเดินทางจากกทม.ไปอยุธยา
ระหว่างทางที่ขับไปได้มีโอกาสใช้ความเร็ว100+เป็นครั้งแรก เพราะปกติอยู่แต่ในเมืองรถติดๆ ทันใดนั้นอาการปัญหาที่1ก็โผล่ออกมา
#1.# บริเวณประตูผู้โดยสารตอนหลังฝั่งซ้ายเมื่อวิ่งความเร็วเกิน100มีเสียงลมรั่วเข้ามาดังมากเหมือนรถปิดหน้าต่างไม่สนิท จึงได้นัดศูนย์เพื่อให้ทางศูนย์จัดการแก้ไขปัญหานี้ โดยรถอยู่ที่ศูนย์เพื่อทำการแก้ไขราวๆ2วัน ทางศูนย์จึงโทรมาแจ้งว่าอาการหายแล้วแก้ไขโดยการตั้งประตูให้ใหม่เพราะประตูอาจจะไม่แนบ หลังจากที่รับรถกลับมาปรากฎว่าอาการดังกล่าวไม่หาย จึงได้ทำการนัดวันเข้าไปแก้ไขอีกครั้งภายในอาทิตย์นั้น
#2.# ครั้งที่2ที่เข้าศูนย์มีการวิ่งลองรถไปกับช่างและพบอาการชัดเจน แต่ครั้งนี้ผมแจ้งอาการเพิ่มเติมไปอีกคือรถมีอาการเข้าเกียร์แรงจากD>NและN>D เกียร์เขกแรงมากและมีเสียงดัง ทางศูนย์จึงแจ้งว่าแก้ไขได้โดยการเซ็ทGear ซึ่งครั้งนี้จึงใช้เวลานานกว่าปกติถ้าจำไม่ผิดนอนศูนย์ไปราวๆ4-5วัน (ติดวันอาทิตย์1วัน) โดยก่อนที่นำรถเข้าน้ำมันเกือบเต็มถัง แต่ขารับรถกลับน้ำมันอยู่ต่ำกว่าขีดสุดท้าย ซึ่งเราก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรเพราะคิดว่าคงต้องวิ่งลองรถหลายรอย (จึงเติมน้ำมันด้วยตัวเองเป็นเงิน2,000บาท) ทางศูนย์แจ้งว่าทุกอย่างถูกแก้ไขเรียบร้อย แต่ผลปรากฎว่าอาการเกียร์ที่แจ้งไปไม่หายแม้แต่น้อย แต่ด้วยความจำเป็นต้องใช้รถเพราะไม่มีรถสำรองจึงต้องนำรถกลับก่อน และเมื่อไปวิ่งลองทำความเร็ว100+เสียงลมที่รั่วเข้าก็ไม่ได้หาย100% ยังคงมีเสียงอยู่เพียงแต่เสียงเบาลง ครั้งนี้เราเริ่มมีความโมโหว่าทำไมทำงานกันไม่เรียบร้อยเช็ครถกันยังไง แต่แค่นั้นยังไม่พอครับ มีอาการใหม่แทรกเข้ามาอีกครับหลังจากนำรถกลับมาได้ไม่กี่วัน พวงมาลัยเริ่มมีเสียงดังเวลาหมุนไปทางขวา แรกๆเสียงไม่ดังมากแต่พอใช้ไปอีกไม่กี่วัน ดังแค่ไหนลองดูได้จากคลิปนี้ครับ
#3# ผมจึงนำรถกลับเข้าไปที่เดิมอีกครั้งเพื่อแก้ไขครั้งนี้ผมย้ำไปว่า ถ้าไม่เรียบร้อยไม่ต้องส่งรถคืนครับผมเบื่อที่จะเข้าๆออกๆศูนย์แล้วเพราะครั้งนี้เป็นครั้งที่3 ทางศูนย์รับรถไปแก้ไขอาการดังกล่าวอีกครั้งครั้งนี้ถ้าจำไม่ผิดใช้เวลาราวๆ3-4วัน หลังจากศูนย์แจ้งมาว่าเสร็จเรียบร้อยจึงเข้าไปรับรถมา
ครั้งนี้ลองเช็คอาการพวงมาลัยที่หมุนขวาแล้วเสียงดังดู โอเคเรียบร้อย ส่วนเรื่องเสียงลม ณ ตอนนั้นไม่สามารถลองได้เนื่องจากปริมาณรถเยอะ จึงรับรถกลับมาลองเอง ขณะที่ลองก็พบว่าอาการพวงมาลัยที่หมุนขวาแล้วดังตอนนี้กลับกัน พวงมาลัยเริ่มมาดังขึ้นเรื่อยๆตอนหมุนไปทางซ้ายแทนถึงแม้จะไม่ดังเท่าตอนแรกแต่ก็ยังมีเสียงอยู่ (อาการนี้ถูกแก้ไขโดยคนขับรถที่บ้าน ก้มไปดูใต้คอพวงมาลัยพบว่ามีชิ้นส่วนหลุดออกมาหรือประกอบไม่แน่นจึงตบกลับเข้าไป ปรากฏว่าเสียงเงียบกริบ) ส่วนเรื่องเสียงลมเข้าประตูหลังเท่าที่ลองเทสดูก็พอใจในระดับที่ว่าโอเคมันคงได้เท่านี้แหละไม่อยากแก้แล้วเพราะต้องรื้อแผงประตูทุกครั้งที่ซ่อมรื้ออีกมันคงนะ... เข้าใจใช่มั้ยครับรถใหม่เพิ่งใช้ได้ไม่นานใครๆก็ไม่อยากให้มารื้อหรอกครับเพราะรื้อแล้วประกอบกลับหลายๆครั้งคุณคิดว่ามันจะ100%เหมือนที่มาจากโรงงานประกอบรึเปล่า? แต่ปัญหาก็ยังไม่จบแค่นั้นประตูข้างที่แก้เรื่องลมเข้ามีอาการปิดยาก ต้องกระแทกแรงกว่าปกติหรือที่เรียกกันว่าอาการประตูหนัก เกิดจากการตั้งประตูให้แนบเกินไป และเรื่องเกียร์ก็ยังคงอาการเดิม เหอๆ ยังครับยังไม่หมดแค่นั้นครับอยู่ๆรถมีอาการกินซ้ายหนักมากหนักแบบว่าปล่อยมือแปบเดียวรถวูบเข้าซ้ายเร็วมากผมการันตีเลยครับว่ารถไม่มีตกหลุมหรือไปกระแทกอะไรมาแน่นอนเพราะช่วงที่รับรถกลับมาจากศูนย์ผมเอามาใช้เองเพื่อทดสอบอาการครับ และที่ทุเรศที่สุดที่ผมไม่คิดว่าจะเจอกับMBคือคลิปนี้ครับ
นี่คืออาการของรถที่อายุไม่ถึงเดือนครับ
และยังครับยังไม่หมดแค่นั้น ระหว่างนั้นมีโอกาสได้วิ่งทางไกลช่วงกลางคืนจึงพบอีกปัญหาคือ ไฟหน้าค้างครับ อธิบายง่ายๆนะครับไฟหน้ารุ่นนี้จะมีระบบปรับระดับลำแสงให้สูงขึ้นเมื่อใช้ความเร็วสูง แต่จะปรับระดับลงเมื่อใช้ความเร็วต่ำหรือมีรถสวนมา แต่รถผมไม่ใช่อย่างงั้นครับ ไฟหน้าที่ปรับขึ้นสูงค้างโด่เด่อยู่แบบนั้น แยงตาคนที่สวนไป-มาจนมีแต่รถตบไฟสูงให้ ต้องดับรถและสตาร์ทใหม่ระดับไฟจึงจะกลับมาปกติ
สูงแค่ไหนลองดูจากภาพครับ สูงกว่ารถที่จอดอยู่ไกลๆ หรือสูงเท่าหัวคนเลยทีเดียว
ขอย้ำนะครับว่าในภาพนี้ผมไม่ได้เปิดไฟสูงอยู่แน่นอนครับ
#4# ครั้งนี้ผมสุดจะทนจึงโทรเข้าไปหาทางฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์MBTH (เมอซิเดสเบ๊นซ์ไทยแลนด์) ทางนั้นจึงประสานงานให้นำรถเข้าไปที่ศูนย์ที่เราไปออกรถมาเพื่อให้ทางศูนย์ส่งรถให้ทางMBTHตรวจสอบซึ่งครั้งนี้ได้แจ้งอาการทั้งหมดไปทางMBTHให้เป็นผู้รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหา และทางนั้นก็ไม่มีกำหนดเวลาในการรับรถให้เรา แต่ใจเราบอกว่าเรื่องถึงMBTHแล้ว คงเร็วและจบแค่นี้แล้วหล่ะ แต่ไม่เป็นแบบนั้นครับ ครั้งนี้ปาเข้าไปเกือบ3อาทิตย์เต็มๆ ขอย้ำครับว่าเกือบ3อาทิตย์ และที่สำคัญระหว่างนั้นไม่มีรถสำรองใช้ครับ พ่อผมต้องนั่งแท็กซี่ไปทำงานทุกวันครับ คุณคิดว่าคนที่ปกติออกรถเบ๊นซ์มาเพื่อนๆหรือลูกน้องที่ทำงานต้องรู้ใช่มั๊ยครับ แต่นี่ได้มาใช้ไม่นานต้องกลับมานั่งแท็กซี่ไปทำงาน แน่นอนครับ ผมเชื่อว่าเป็นใครใครก็ต้องถามใช่มั๊ยครับ ว่ารถไปไหน? จะให้เราบอกว่าอ๋อ ซ่อมอยู่เนี่ย ตั้งแต่ซื้อมาเข้าศูนย์ไป3รอบแล้ว แบบนี้หรอครับ?
ไม่พอแค่นั้นเพื่อนๆคงคิดว่าเรื่องมันจบแล้วใช่มั้ยครับ แต่....ยังครับ ยังไม่จบแค่นี้ครับ ทางผมรอรถนานมากจึงเกิดข้อสงสัยว่าทำไม? จึงโทรติดต่อเข้าไปทางศูนย์ พบสาเหตุว่าทางMBTHส่งรถกลับมาให้ทางศูนย์เป็นคนแก้ไขอาการศูนย์ล้อกินซ้ายและเกียร์!! ซึ่งทางศูนย์แจ้งว่าเกียร์ใช้เวลาแก้ไขนานเลยทำให้กินเวลารับรถนานจนถึงเกือบ3อาทิตย์ อาการที่ซ่อมนานแบบนี้คุณคิดมั้ยครับว่ามันคงไม่ธรรมดา เพราะถ้าเป็นไม่หนักผมเชื่อครับว่า2-3วันมันคงเสร็จแล้วครับ จริงมั๊ย?
และแล้วก็ถึงวันที่รับรถ เชื่อมั้ยครับว่ามันไม่จบอีกแล้วครับ อาการทุกอย่างถูกแก้ไขหมดแล้ว(ภายหลังพบว่าไฟหน้าที่ค้างยังคงไม่หายครับ) แต่ที่สำคัญ..... เกียร์ครับ เกียร์เวลาเปลี่ยนเกียร์ 2>3และ3>2 ขณะที่ขับ มีอาการกระตุกแรงมาก เหมือนคนขับรถเกียร์ธรรมดาแล้วเหยียบครัซไม่เป็น แถมรอบนี้กลับมาน้ำมันรถหมดถังครับตอนรับรถกลับหน้าจอโชว์วิ่งได้อีกแค่20km.ผมต้องควักตังเติมอีก2,400 โทรแจ้งทางศูนย์ไปว่าทำไมน้ำมันเหลือน้อยมาก ทางศูนย์บอกมาว่า "ทางเราเติมใหม่ไปหลายครั้งแล้วค่ะ!?” เอิ่มม...โอเค หน้าที่ผมที่ต้องเติมใช่มั้ย ไม่เป็นไรไม่ซีเรียสก็ได้มั้ง.... แต่เชื่อมั้ยครับมีเรื่องที่น่าตกใจอีกเรื่องคือคือรถคันนี้ถูกวิ่งทดสอบเยอะจนเลขไมล์มัน2000กว่ากิโลครับ ผมวิ่งเองเต็มที่ที่ลองคำนวณดูไม่ถึงพันกิโลแน่นอน แสดงว่ามันคงถูกวิ่งเพื่อเช็คเยอะมาก (ก็แน่ละสิ่น้ำมัน2ถังเกลี้ยง ไม่รวมที่ศูนย์เติมเพิ่มไปอีก ต้องวิ่งทดสอบเยอะขนาดไหนล่ะครับ ตีให้ต่ำๆเลยครับน้ำมันถึงนึงวิ่งได้450km. 2ถังก็900km.เข้าไปแล้วครับ ผมต้องขอบคุณทางศูนย์ด้วยรึเปล่าที่ช่วยกรุณาเติมน้ำมันให้รถผมไปหลายรอบแล้ว??)
****ทางผมจึงยื่นข้อเสนอกับทางศูนย์และทางฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์MBTHไปว่าต้องการเปลี่ยนรถคันใหม่ เพราะเราหมดความมั่นใจกับรถคันนี้แล้วและเสียเวลามาก การยื่นข้อเสนอนี้กินเวลานานหลายวันไม่มีฟีดแบคกลับมา ทางผมจึงติดต่อกลับเข้าไปอีกครั้ง ไม่สิถ้าพูดให้ถูกก็หลายครั้งเพราะแทบไม่มีการติดต่อกลับมาเลยว่าเรื่องไปถึงไหนแล้ว
#5#ล่าสุดหลังจากที่คุยกับทางฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ ได้ความว่าการเปลี่ยนรถคงเป็นไปได้ยาก ต้องทำตามระบบ 1 2 3 4 หรืออาจจะต้องนัดเข้ามาคุยกับทางหัวหน้า บลา บลา บลาๆ
จนในที่สุดได้ข้อสรุปว่าวันที่7ตุลาคม2556 ทางMBTHนัดหมายให้ผมนำรถเข้าไปตรวจสอบด้วยตัวเองที่สำนักงานใหญ่MBTH บางพลี(บ้านผมอยู่สาทร ต้องวิ่งไปบางพลี ไม่ใกล้นะครับ แต่ผมก็ต้องไปใช่มั้ยครับ...) โดยครั้งนี้เมื่อไปถึงมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงซึ่งเป็นฝรั่ง เป็นคนมาทดสอบรถผมด้วยตัวเอง ผมก็แจ้งไปตามอาการที่เป็น 1 2 3 4 ทั้งหมด หลังจากที่ฝรั่งคนนี้ขับก็พบอาการเกียร์กระตุกที่เป็นชัดเจนมาก จึงได้ข้อสรุปคือให้ผมนำรถกลับไปก่อนเพราะต้องจัดการเรื่องเอกสารข้อมูลและเตรียมทีมช่าง ซึ่งเมื่อเอกสารพร้อมจึงจะนำรถสำรองใช้มาให้ที่บ้านผมและนำรถผมไปตรวจสอบและแก้ไขอีกที
ส่วนเรื่องข้อเสนอที่ผมยื่นไปเพื่อต้องการเปลี่ยนรถคันใหม่ ก็ยังไม่มีฟีดแบคใดๆกลับมา หรือแม้แต่การที่จะเรียกเราเข้าไปคุยกับทางผู้บริหารก็ดูว่าคงจะเลือนราง
รถที่มีปัญหาเยอะแบบนี้ผมเชื่อว่าใครๆก็คงไม่อยากได้ครับ ต่อให้ปัญหามันแก้ไขเรียบร้อยหมดแล้ว คุณยังรู้สึกมั่นใจกับรถคันนี้อีกรึเปล่าครับ? และที่สำคัญเรื่องที่ผมเล่ามาทั้งหมดถ้าเกิดกับคุณคุณจะรู้สึกอย่างไร และผลสรุปรถคันนี้จะออกมาแบบไหน แนวโน้มเปลี่ยนรถคันใหม่จะเป็นไปได้มั๊ย ในเมื่อตอนนี้ก็เอาแต่ซ่อมๆๆๆ และก็ซ่อมๆๆ ไม่มีการนัดหมายไปคุยแบบเป็นทางการ
สรุปอาการปัญหาของรถอายุ2เดือนคันนี้ ถ้าไม่นับว่ารถคันนี้ไปซ่อมที่ศูนย์ รถคันนี้อยู่กับบ้านผมได้แค่ไม่ถึง1เดือนครับ
แต่มันมีปัญหารวมกันทั้งสิ้นมากถึง 8 อาการ ....
ถ้าเรื่องราวที่ผมมาแชร์ในที่นี้ถูกใจคุณ หรือถ้าคุณเห็นใจผมที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ รบกวนช่วยกันแชร์ครับ แชร์ไปให้ถึงผู้บริหารทางMBTH และเรามารอดูผลสรุปด้วยกันครับว่าMBTHมีศักยภาพและความเป็นมืออาชีพมากแค่ไหนครับ
*** อัพเดทความคืบหน้า 17 ต.ค. 56 : ขณะนี้ทางMBTHได้นำรถกลับไปตรวจสอบตั้งแต่วันที่12ต.ค ผ่านมา5วันยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ และยังไม่มีการออกมาแสดงความรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น