ความขัดแย้งเวลาสวดบทพาหุงฯในงานตักบาตรหน้าศพ

กระทู้สนทนา

การตักบาตรเช้าหน้าศพ ที่บ้านคนตาย ในบางท้องถิ่นนั้นเมื่อพระสงฆ์สวดมาถึงบทสังฆคุณ เจ้าภาพจะเตรียมตัวตั้งแถว บริเวณที่วางบาตรซึ่งวางเรียงลำดับให้ถูกต้องตามพระสงฆ์เจ้าของบาตรที่นิมนต์มาในงานตามลำดับอาวุโส เมื่อพระสงฆ์ขึ้นบทพาหุงสะหัสฯลฯ เจ้าภาพจะวางข้าวเหนียวหย่อนลงในบาตรเป็นคนแรกและแขกเหรือ เครื่อญาติทั้งหมดก็จะเข้าแถว ใส่บาตรตามกันมา คนที่ใส่เสร็จก็จะรีบกลับมานั่งฟังพระสวดต่อจนจบ โดยมากจะใส่ข้าวเหนียวนึ่ง คนที่ไม่เอาข้าวมาเจ้าภาพก็จะหุงเผื่อไว้โดยจัดใส่จานแจกให้คนที่ต้องการ

ต่อมาได้มีพระสงฆ์ต่างถิ่นเข้ามารณรงค์วิธีใหม่ คือท่านให้เหตุผลว่าโยมต้องนั่งฟังพระสวดมนต์จนครบทุกบทก่อนจึงจะใส่บาตรในภายหลัง ไม่ใช่ลุกปัดก้นให้พระดู แต่ด้านหลังโยม ส่วนโยมก็ทำตามวิธีของท่านในช่วงแรกๆแต่หลังจากนั้นก็กลับมาทำเหมือนเดิม ไม่กี่เดือนพระสงฆ์ต่างถิ่นรูปนั้นก็มีเหตุให้ต้องออกไปจำวัดที่อื่นไม่กลับเข้ามาอีก สาเหตุที่ในพื้นที่เป็นแบบนี้เพราะความเคยชินตั้งแต่ครั้งอดีตเนื่องจากชาวบ้านต้องรีบไปทำไร่ทำนา และมีแขกเหรื่อมาร่วมงานจำนวนมาก พระก็ต้องรีบฉันเพื่อให้พรญาติโยม แขกเหรื่อหลายคนมาใส่แต่บาตรแล้วขอตัวกลับ ไม่ค่อยอยากจะกินอาหารในงานศพกันนัก ชาวบ้านบางคนก็มีครูมีคาถามีของรักษาไม่กินอาหารในบ้านคนตาย ปัจจุบันทางเจ้าอาวาสคนใหม่ยังเพิ่มความเร็วขึ้นมาอีกคือเมื่อขึ้นบทนะโม3จบ เจ้าภาพเตรียมตัวเข้าแถวใส่บาตรได้เลย สรุปสำนวนที่ว่าเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ยังใช้ได้อยู่ ขอบคุณ
ป.ล.-วันพระในแต่ละเดือนที่วัด พระสงฆ์ก็จะสวดบทพาหุงฯบทเดียวกันนี้
-บทพาหุงฯบทเดียวกันกับที่วัดหลวงพ่อจรัญแนะนำให้สวดคู่กับบทมหากาฯนั่นแหละ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่