แท็บเล็ตป.1 ที่เราทุกคนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ว่าเป็นแท็บเล็ตที่รัฐบาลแจกจ่ายให้เด็กๆ ไปใช้งานตามโครงการ “แท็บเล็ตพีซีเพื่อการศึกษาไทย ที่ในตอนนี้ล่าสุดทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (หรือ สตง.) ได้ทำการตรวจสอบนโยบายแท็บเล็ตช่วงปีแรก พบว่าขณะนี้โครงการแท็บเล็ตป.1 ได้เสียหายชำรุด จนต้องส่งซ่อมไปประมาณ 30% หรือประมาณ 258,000 แสนเครื่องแล้ว จากจำนวน 8.6 แสนเครื่อง ของทั้งหมดที่แจกไป
พร้อมกันนั้นยังพบว่าบริษัทรับซ่อมแซมและดูแลเครื่องกับบริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก ดีเวลลอปเมนต์ ผู้จัดหาเครื่องแท็บเล็ต ไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขหลังการขายที่ทำสัญญาไว้ 2 ปีได้ เช่น ซ่อมแท็บเล็ตไม่เสร็จตามเวลาที่ระบุให้มารับเครื่อง แถมนอกจากนี้ บริษัทรับซ่อมดังกล่าวยังได้ปิดศูนย์ให้บริการในบางจังหวัดลง โดยไม่แจ้งให้โรงเรียนที่ส่งแท็บเล็ตเข้าซ่อมทราบล่วงหน้า และขนย้ายแท็บเล็ตไปด้วย ส่งผลให้โรงเรียนไม่สามารถทวงแท็บเล็ตคืนได้ที่สำคัญด้านความคืบหน้าเกี่ยวกับการจัดซื้อแท็บเล็ตล็อตใหม่นั้น ล่าสุด บริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น (ไทยแลนด์) ได้ยื่นอุทธรณ์กรณีที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประกาศยกเลิกผลการประมูลอี-ออกชันแท็บเล็ตโซน 3 โดยจะตัดสินชี้ขาดในวันที่ 11 ต.ค.นี้
รวมไปถึงขณะที่เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา บริษัท เสิ่นเจิ้น อิงถัง อินเทลลิเจน คอนโทรล ผู้ชนะการประมูลแท็บเล็ต ป.1 โซน 1 และ 2 ของทั่วประเทศ ประมาณ 8 แสนเครื่อง ได้ขอเลื่อนการจัดส่งแท็บเล็ตงวดแรก 1 แสนเครื่อง ไปอีก 1 เดือน โดยอ้างเหตุไฟไหม้โรงงานผลิตชิ้นส่วนในประเทศเกาหลี จากที่ต้องส่งมอบในวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา
เห็นได้ชัดเลยว่าโครงการแท็บเล็ตป.1 ขอรัฐบาลนั้น ค่อนข้างมีปัญหาหลากหลายพอสมควรทีเดียว อย่างไรก็ตามถ้าจะให้ดีอยากให้ผู้ที่รับผิดชอบในโครงการนี้ลงมาดูแลอย่างใกล้ชิดและร่วมแก้ปัญหาไปพร้อมๆ กันนะครับ ไม่อย่างงั้น โครงการนี้คงเจ๊งไม่เป็นท่าแน่นอน เพราะดูจากหลายๆ อาการแล้ว
http://sobrajakan.com/news/topic-62871.html
เพิ่งเห็นข่าวนี้เลยมาลงเปรียบเทียบกันให้ดูครับ
"อนุดิษฐ์" โต้ "สตง."แท็บเล็ตป.1 ส่งซ่อมแค่ 0.62% ไม่ใช่ 30%
วันนี้ (7 ต.ค.) ที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เผยผลตรวจสอบนโยบายแท็บเล็ตชั้น ป.1 ชำรุดเสียหายต้องซ่อมแล้วประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์(ประมาณ 2.58 แสนเครื่อง) จากจำนวนทั้งหมด 8.6 แสนเครื่อง และบริษัทรับซ่อมแซมและดูแลเครื่องกับ บริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก ดีเวลลอปเมนต์ ผู้จัดหาเครื่องแท็บเล็ต ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขหลังการขายที่ทำสัญญาไว้ 2 ปีได้นั้น
ทั้งนี้ ยืนยันว่าข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยยอดรวมการส่งซ่อม 1 ปี (เดือน ส.ค.55-ส.ค.56) พบว่า มีจำนวนเครื่องแท็บเล็ตที่ส่งซ่อมจำนวน 5,344 เครื่อง คิดเป็น 0.62% จากจำนวน 858,886 เครื่อง
ส่วนกรณีที่ระบุว่าบริษัทซ่อมได้ปิดบริษัทและนำเครื่องแท็บเล็ตหนีไปนั้นไม่เป็นความจริง ซึ่งตามเงื่อนไขหากจำนวนเครื่องแท็บเล็ตเครื่องใดต้องซ่อมเกินกว่า 5 วัน บริษัทก็จะมีเครื่องแท็บเล็ตสำรองให้ และกรณีที่ระบุว่าบริษัทรับซ่อมปิดศูนย์บริการนั้น จากการตรวจสอบพบว่า มีการย้ายศูนย์บริการ 3 ศูนย์ให้บริการ แต่ยังอยู่ในบริเวณใกล้เคียงและไม่มีจำนวนเครื่องที่ส่งซ่อมและค้างอยู่ที่ศูนย์ซ่อมอย่างแน่นอน
http://www.dailynews.co.th/technology/238520
แท็บเล็ตป.1 เสียไปกว่า 258,000 เครื่อง
พร้อมกันนั้นยังพบว่าบริษัทรับซ่อมแซมและดูแลเครื่องกับบริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก ดีเวลลอปเมนต์ ผู้จัดหาเครื่องแท็บเล็ต ไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขหลังการขายที่ทำสัญญาไว้ 2 ปีได้ เช่น ซ่อมแท็บเล็ตไม่เสร็จตามเวลาที่ระบุให้มารับเครื่อง แถมนอกจากนี้ บริษัทรับซ่อมดังกล่าวยังได้ปิดศูนย์ให้บริการในบางจังหวัดลง โดยไม่แจ้งให้โรงเรียนที่ส่งแท็บเล็ตเข้าซ่อมทราบล่วงหน้า และขนย้ายแท็บเล็ตไปด้วย ส่งผลให้โรงเรียนไม่สามารถทวงแท็บเล็ตคืนได้ที่สำคัญด้านความคืบหน้าเกี่ยวกับการจัดซื้อแท็บเล็ตล็อตใหม่นั้น ล่าสุด บริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น (ไทยแลนด์) ได้ยื่นอุทธรณ์กรณีที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประกาศยกเลิกผลการประมูลอี-ออกชันแท็บเล็ตโซน 3 โดยจะตัดสินชี้ขาดในวันที่ 11 ต.ค.นี้
รวมไปถึงขณะที่เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา บริษัท เสิ่นเจิ้น อิงถัง อินเทลลิเจน คอนโทรล ผู้ชนะการประมูลแท็บเล็ต ป.1 โซน 1 และ 2 ของทั่วประเทศ ประมาณ 8 แสนเครื่อง ได้ขอเลื่อนการจัดส่งแท็บเล็ตงวดแรก 1 แสนเครื่อง ไปอีก 1 เดือน โดยอ้างเหตุไฟไหม้โรงงานผลิตชิ้นส่วนในประเทศเกาหลี จากที่ต้องส่งมอบในวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา
เห็นได้ชัดเลยว่าโครงการแท็บเล็ตป.1 ขอรัฐบาลนั้น ค่อนข้างมีปัญหาหลากหลายพอสมควรทีเดียว อย่างไรก็ตามถ้าจะให้ดีอยากให้ผู้ที่รับผิดชอบในโครงการนี้ลงมาดูแลอย่างใกล้ชิดและร่วมแก้ปัญหาไปพร้อมๆ กันนะครับ ไม่อย่างงั้น โครงการนี้คงเจ๊งไม่เป็นท่าแน่นอน เพราะดูจากหลายๆ อาการแล้ว
http://sobrajakan.com/news/topic-62871.html
เพิ่งเห็นข่าวนี้เลยมาลงเปรียบเทียบกันให้ดูครับ
"อนุดิษฐ์" โต้ "สตง."แท็บเล็ตป.1 ส่งซ่อมแค่ 0.62% ไม่ใช่ 30%
วันนี้ (7 ต.ค.) ที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เผยผลตรวจสอบนโยบายแท็บเล็ตชั้น ป.1 ชำรุดเสียหายต้องซ่อมแล้วประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์(ประมาณ 2.58 แสนเครื่อง) จากจำนวนทั้งหมด 8.6 แสนเครื่อง และบริษัทรับซ่อมแซมและดูแลเครื่องกับ บริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก ดีเวลลอปเมนต์ ผู้จัดหาเครื่องแท็บเล็ต ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขหลังการขายที่ทำสัญญาไว้ 2 ปีได้นั้น
ทั้งนี้ ยืนยันว่าข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยยอดรวมการส่งซ่อม 1 ปี (เดือน ส.ค.55-ส.ค.56) พบว่า มีจำนวนเครื่องแท็บเล็ตที่ส่งซ่อมจำนวน 5,344 เครื่อง คิดเป็น 0.62% จากจำนวน 858,886 เครื่อง
ส่วนกรณีที่ระบุว่าบริษัทซ่อมได้ปิดบริษัทและนำเครื่องแท็บเล็ตหนีไปนั้นไม่เป็นความจริง ซึ่งตามเงื่อนไขหากจำนวนเครื่องแท็บเล็ตเครื่องใดต้องซ่อมเกินกว่า 5 วัน บริษัทก็จะมีเครื่องแท็บเล็ตสำรองให้ และกรณีที่ระบุว่าบริษัทรับซ่อมปิดศูนย์บริการนั้น จากการตรวจสอบพบว่า มีการย้ายศูนย์บริการ 3 ศูนย์ให้บริการ แต่ยังอยู่ในบริเวณใกล้เคียงและไม่มีจำนวนเครื่องที่ส่งซ่อมและค้างอยู่ที่ศูนย์ซ่อมอย่างแน่นอน
http://www.dailynews.co.th/technology/238520