สืบเนื่องจากประกันภัยรถยนต์ใกล้จะจบลง เมื่อปลายปีที่แล้วรถเข้าสู่ปีที่ 4 ประกันภัยไม่ทำเป็นประกันศูนย์ให้ คือ ถ้าทำราคาก็แพงมาก จึงจำใจเลือกเป็นประกันชั้น 1 ซ่อมอู่เป็นปีแรก เมื่อเดือนที่ผ่านมา รถมีปัญหา หนูกัดสายไฟ แต่ขับรถได้เป็นปกติ จึงยังไม่คิดเอารถเข้าอู่ แต่เนื่องจากจำต้องเดินทางไม่ได้ใช้รถ 2 สัปดาห์จึงได้ฤกษ์เอารถเข้าอู่เสียที และตั้งใจว่าจะเก็บรอยเล็กรอยน้อยไปด้วยเลยเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา
หลังจากเอารถเข้าที่อู่ที่เลือกเรียบร้อยแล้ว ปรากฎว่ารอยเล็กรอยน้อย มีหลายรอย ทางอู่เลยให้แจ้งกับพนักงานรับเคลม ซึ่งบังเอิญว่า กำลังรับแจ้งเคลมลูกค้าอีกรายที่อู่พอดี พอพนักงานเดินมาถึง ก็แจ้งเลยว่าถ้าทำประกันปีแรก แนะนำให้ต่อประกันออกไปก่อน เพราะค่า Excess แพงมาก อยู่ที่ 8,000 บาท ตั้งแต่ทำประกันซ่อมศูนย์มาตลอด ก็มีบ้างที่ต้องจ่ายค่า Excess แต่ไม่เคยต้องจ่ายในราคา 8,000 บาท เลย เต็มที่ก็ 2,000 บาท จึงสอบถามทางพนักงานว่าทำไมราคาต้องแพงขนาดนี้ ก็พบว่า เป็นนโยบายบริษัท วันนั้นจึงไม่ตกลงค่า Excess และให้ออกใบติดต่อเพื่อติดต่อขอประณีประนอมกับทางบริษัทประกันอีกที เวลาผ่านไป ทางสามีทำหน้าที่ติดต่อทางประกันให้ เพราะดิฉันไม่อยู่ติดต่อเรื่องเอง ทางประกันแจ้งให้ทางดิฉันติดต่อกับทางโบรคเกอร์ที่ขายประกันให้ เพื่อเจรจาอนุโลมยอด Excess นี้
เวลาผ่านไป 2 สัปดาห์ รถก็ยังไม่สามารถเอาเข้าอู่ได้ และไม่มีการติดต่อกลับมาทั้งจากทางประกันและ โบรคเกอร์ ต้องติดต่อเข้าไปถามความคืบหน้าเองโดยผ่านทางโบรคเกอร์ และก็พบว่า ทางประกัน ไม่อนุโลมให้ เหตุเพราะยอดเคลมสูง ดิฉันจึงแจ้งขอร้องเรียนไปกับทาง Call center ที่ได้แจ้งว่า จะรับเรื่องและประสานงานให้
สรุปเป็นเวลาจวนจะครบ 1 เดือนพอดี สำหรับการดำเนินการพิจารณาอนุโลมยอด Excess นี้ โดยไม่มีพนักงานจากทางบริษัทประกันติดต่อมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว และไม่พบความคืบหน้าในการอนุโลมค่าใช้จ่ายตรงนี้ให้
ดิฉันพร้อมจะจ่ายเงิน 8,000 บาท สำหรับความฉลาดน้อยที่เลือกทำประกันกับบริษัทนี้โดยไม่ศึกษาประวัติการบริการให้ดีเสียก่อน ใช้เพียงความรู้สึกจากชื่อธนาคารและชื่อบริษัทประกัน จึงอยากถือโอกาสนี้แชร์เรื่องนี้ให้ผู้อื่นได้พิจารณาทำประกันกับบริษัทนี้ค่ะ
เงินที่เสียไป ไม่เสียดาย เท่ากับการไม่ได้รับการบริการแบบลูกค้าเลยแม้แต่นิดเดียว ก็ยังดีที่นี่เป็นเพียงการเคลมเพื่อเก็บรอยขีดข่วนบนรถ หากว่า เกิดการชนเสียหายรุนแรงกว่านี้ คงไม่รู้ว่าจะต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเองด้วยไหม....
เจอกันปีแรก และคงเป็นปีสุดท้าย กับ "ไทยพาณิชย์สามัคคีประกันภัย"
หลังจากเอารถเข้าที่อู่ที่เลือกเรียบร้อยแล้ว ปรากฎว่ารอยเล็กรอยน้อย มีหลายรอย ทางอู่เลยให้แจ้งกับพนักงานรับเคลม ซึ่งบังเอิญว่า กำลังรับแจ้งเคลมลูกค้าอีกรายที่อู่พอดี พอพนักงานเดินมาถึง ก็แจ้งเลยว่าถ้าทำประกันปีแรก แนะนำให้ต่อประกันออกไปก่อน เพราะค่า Excess แพงมาก อยู่ที่ 8,000 บาท ตั้งแต่ทำประกันซ่อมศูนย์มาตลอด ก็มีบ้างที่ต้องจ่ายค่า Excess แต่ไม่เคยต้องจ่ายในราคา 8,000 บาท เลย เต็มที่ก็ 2,000 บาท จึงสอบถามทางพนักงานว่าทำไมราคาต้องแพงขนาดนี้ ก็พบว่า เป็นนโยบายบริษัท วันนั้นจึงไม่ตกลงค่า Excess และให้ออกใบติดต่อเพื่อติดต่อขอประณีประนอมกับทางบริษัทประกันอีกที เวลาผ่านไป ทางสามีทำหน้าที่ติดต่อทางประกันให้ เพราะดิฉันไม่อยู่ติดต่อเรื่องเอง ทางประกันแจ้งให้ทางดิฉันติดต่อกับทางโบรคเกอร์ที่ขายประกันให้ เพื่อเจรจาอนุโลมยอด Excess นี้
เวลาผ่านไป 2 สัปดาห์ รถก็ยังไม่สามารถเอาเข้าอู่ได้ และไม่มีการติดต่อกลับมาทั้งจากทางประกันและ โบรคเกอร์ ต้องติดต่อเข้าไปถามความคืบหน้าเองโดยผ่านทางโบรคเกอร์ และก็พบว่า ทางประกัน ไม่อนุโลมให้ เหตุเพราะยอดเคลมสูง ดิฉันจึงแจ้งขอร้องเรียนไปกับทาง Call center ที่ได้แจ้งว่า จะรับเรื่องและประสานงานให้
สรุปเป็นเวลาจวนจะครบ 1 เดือนพอดี สำหรับการดำเนินการพิจารณาอนุโลมยอด Excess นี้ โดยไม่มีพนักงานจากทางบริษัทประกันติดต่อมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว และไม่พบความคืบหน้าในการอนุโลมค่าใช้จ่ายตรงนี้ให้
ดิฉันพร้อมจะจ่ายเงิน 8,000 บาท สำหรับความฉลาดน้อยที่เลือกทำประกันกับบริษัทนี้โดยไม่ศึกษาประวัติการบริการให้ดีเสียก่อน ใช้เพียงความรู้สึกจากชื่อธนาคารและชื่อบริษัทประกัน จึงอยากถือโอกาสนี้แชร์เรื่องนี้ให้ผู้อื่นได้พิจารณาทำประกันกับบริษัทนี้ค่ะ
เงินที่เสียไป ไม่เสียดาย เท่ากับการไม่ได้รับการบริการแบบลูกค้าเลยแม้แต่นิดเดียว ก็ยังดีที่นี่เป็นเพียงการเคลมเพื่อเก็บรอยขีดข่วนบนรถ หากว่า เกิดการชนเสียหายรุนแรงกว่านี้ คงไม่รู้ว่าจะต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเองด้วยไหม....