คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 15
ขอแสดงความเห็นหน่อยนะคับ
ความเห็นข้างต้นผมคิดว่ามีส่วนที่ถูกและไม่ถูกต้อง
เพราะ ณ เวลาช่วงปัจจุบันนี้ธนาคารส่วนใหญ่มักจะเน้นให้ลูกค้าทำประกันวงเงินกู้เพิ่ม ไม่เหมือนสมัยก่อนแล้วครับ
เพราะว่าเค้าเล็งเห็นถึงความจำเป็น สำคัญ ความเสี่ยงทั้งของธนาคาร และคนซื้อ
และผลประโยชน์ทางธุรกิจต่างๆ นานา
ส่วนเราในฐานะผู้ซื้อนั้นผมคิดว่ามีสิทธิตัดสินใจที่จะทำหรือไม่ทำก็ได้
แต่ถ้าเปรียบเทียบโปรกู้บ้านนั้น แบบที่พ่วงประกันดอกเบี้ยจะถูกกว่าครับ
ผมแนะนำว่าให้ประเมินดู 2 ข้อนี้ก่อนนะคับ แล้วค่อยตัดสินใจ
1.เรามีความพร้อมเรื่องการเงินหรือเปล่า
ถ้ามีทำเลยครับ แนะนำจ่ายสดดีกว่าครับ ไม่ต้องเสียดอก และยังสามารถลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 100,000 บาท
ถ้าไม่มี อย่าไปฝืนครับ เพราะยังมีค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ อีก เช่น
จดจำนอง กับธนาคาร 1% คนซื้อจ่าย
โอนบ้าน + ภาษีธุรกิจ อากร ประมาณ 2+3.3+0.5=4% ตรงนี้ใครจะจ่ายต้องตกลงกันดีๆครับ
2.แผนการผ่อน และความเสี่ยง ของแต่ละท่านครับ
ยกตัวอย่างง่ายๆนะคับ
แฟนผมอายุ 27 เพศ ญ
ต้องการซื้อบ้านราคา 4,400,000 บาท ดาว์น 30% กู้ธนาคาร 70%
กู้เป็นเงินประมาณ 3,080,000 บาท ยื่นกู้ไป 20 ปี เบี้ยประกัน 6 หมื่นกว่าๆ
แต่ มีแผนการผ่อนชำระจริงๆ ประมาณ 8 ปี เนื่องจากมีรายได้จากโบนัสค่อนข้างเยอะ
ในกรณีนี้ถ้า ประเมินดูว่าชีวิตไม่ค่อยมีความเสี่ยง ก็อาจจะไม่ทำประกันก้อได้
ถ้าคนคิดจะโป๊ะแสดงว่าไม่อยากจ่ายดอกเยอะๆ ประกันไม่ต้องก้อได้
หรือถ้าจะทำ ก็ลดระยะเวลาเหลือแค่ 10 ปีพอครับ 10ปี จะลดหย่อนภาษีได้ครับ น้อยกว่านี้ไม่ได้
กำลังตัดสินใจอยู่เหมือนกันครับ
20 ปี เบี้ย 6 หมื่นกว่าๆ
25 ปี เบี้ย 9 หมื่น
อีกเรื่องนึงครับ ต้องศึกษารายละเอียดกรมธรร ดูก่อนครับ
แจ้งข้อมูล อายุ เพศ วงเงินกู้ ให้เค้าทำ ตารางการจ่ายเงินคืนให้กับเรากรณีต่างๆ และจะพ่วงด้วยอัตราการเวรคืน
มาดูเลยครับ เพราะเรื่องของประกันนั้นมันมีเรื่องเงื่อนไขของวงเงินที่จะทำด้วยว่าจะทำเต็มจำนวนที่เราจะขอกู้หรือไม่
และระยะเวลาที่เราจะประกันด้วยครับ
ถ้าทำเต็ม เวลาจ่ายคืนเค้าจะจ่ายให้เต็ม ตามระยะเวลา ต้องดูในเอกสารครับ
อันที่บอกว่า จ่ายแค่ 4 แสน จาก 8 แสนตามความเห็นข้างต้นนั้น มันต้องดูทุนประกันด้วยครับว่าตอนที่เริ่มทำ
นั้นได้ทำเต็มจำนวนวงเงินที่ขอกู้หรือเปล่า ศึกษาดูให้ดีๆ อย่ามองแบบมีอคติครับ
คำแนะนำส่วนตัวสำหรับเจ้าของกระทู้นะคับ ถ้าไม่เต็มใจทำประกันลองหาธนาคารอื่นดูครับ ที่ไม่บีบบังคับเรามากจนเกินไป
ส่วนตัวผมคิดอยู่นานเหมือนกัน ง่ายๆ เลยครับ ผมยังคงมีความเสี่ยงอยู่
และเงินส่วนตัวยังพอมีที่จะเจียดไปทำ เลยตัดสินใจทำครับ ตอนนี้อยู่ระหว่างการเตรียมยื่นเอกสารอยู่
ความเห็นข้างต้นผมคิดว่ามีส่วนที่ถูกและไม่ถูกต้อง
เพราะ ณ เวลาช่วงปัจจุบันนี้ธนาคารส่วนใหญ่มักจะเน้นให้ลูกค้าทำประกันวงเงินกู้เพิ่ม ไม่เหมือนสมัยก่อนแล้วครับ
เพราะว่าเค้าเล็งเห็นถึงความจำเป็น สำคัญ ความเสี่ยงทั้งของธนาคาร และคนซื้อ
และผลประโยชน์ทางธุรกิจต่างๆ นานา
ส่วนเราในฐานะผู้ซื้อนั้นผมคิดว่ามีสิทธิตัดสินใจที่จะทำหรือไม่ทำก็ได้
แต่ถ้าเปรียบเทียบโปรกู้บ้านนั้น แบบที่พ่วงประกันดอกเบี้ยจะถูกกว่าครับ
ผมแนะนำว่าให้ประเมินดู 2 ข้อนี้ก่อนนะคับ แล้วค่อยตัดสินใจ
1.เรามีความพร้อมเรื่องการเงินหรือเปล่า
ถ้ามีทำเลยครับ แนะนำจ่ายสดดีกว่าครับ ไม่ต้องเสียดอก และยังสามารถลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 100,000 บาท
ถ้าไม่มี อย่าไปฝืนครับ เพราะยังมีค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ อีก เช่น
จดจำนอง กับธนาคาร 1% คนซื้อจ่าย
โอนบ้าน + ภาษีธุรกิจ อากร ประมาณ 2+3.3+0.5=4% ตรงนี้ใครจะจ่ายต้องตกลงกันดีๆครับ
2.แผนการผ่อน และความเสี่ยง ของแต่ละท่านครับ
ยกตัวอย่างง่ายๆนะคับ
แฟนผมอายุ 27 เพศ ญ
ต้องการซื้อบ้านราคา 4,400,000 บาท ดาว์น 30% กู้ธนาคาร 70%
กู้เป็นเงินประมาณ 3,080,000 บาท ยื่นกู้ไป 20 ปี เบี้ยประกัน 6 หมื่นกว่าๆ
แต่ มีแผนการผ่อนชำระจริงๆ ประมาณ 8 ปี เนื่องจากมีรายได้จากโบนัสค่อนข้างเยอะ
ในกรณีนี้ถ้า ประเมินดูว่าชีวิตไม่ค่อยมีความเสี่ยง ก็อาจจะไม่ทำประกันก้อได้
ถ้าคนคิดจะโป๊ะแสดงว่าไม่อยากจ่ายดอกเยอะๆ ประกันไม่ต้องก้อได้
หรือถ้าจะทำ ก็ลดระยะเวลาเหลือแค่ 10 ปีพอครับ 10ปี จะลดหย่อนภาษีได้ครับ น้อยกว่านี้ไม่ได้
กำลังตัดสินใจอยู่เหมือนกันครับ
20 ปี เบี้ย 6 หมื่นกว่าๆ
25 ปี เบี้ย 9 หมื่น
อีกเรื่องนึงครับ ต้องศึกษารายละเอียดกรมธรร ดูก่อนครับ
แจ้งข้อมูล อายุ เพศ วงเงินกู้ ให้เค้าทำ ตารางการจ่ายเงินคืนให้กับเรากรณีต่างๆ และจะพ่วงด้วยอัตราการเวรคืน
มาดูเลยครับ เพราะเรื่องของประกันนั้นมันมีเรื่องเงื่อนไขของวงเงินที่จะทำด้วยว่าจะทำเต็มจำนวนที่เราจะขอกู้หรือไม่
และระยะเวลาที่เราจะประกันด้วยครับ
ถ้าทำเต็ม เวลาจ่ายคืนเค้าจะจ่ายให้เต็ม ตามระยะเวลา ต้องดูในเอกสารครับ
อันที่บอกว่า จ่ายแค่ 4 แสน จาก 8 แสนตามความเห็นข้างต้นนั้น มันต้องดูทุนประกันด้วยครับว่าตอนที่เริ่มทำ
นั้นได้ทำเต็มจำนวนวงเงินที่ขอกู้หรือเปล่า ศึกษาดูให้ดีๆ อย่ามองแบบมีอคติครับ
คำแนะนำส่วนตัวสำหรับเจ้าของกระทู้นะคับ ถ้าไม่เต็มใจทำประกันลองหาธนาคารอื่นดูครับ ที่ไม่บีบบังคับเรามากจนเกินไป
ส่วนตัวผมคิดอยู่นานเหมือนกัน ง่ายๆ เลยครับ ผมยังคงมีความเสี่ยงอยู่
และเงินส่วนตัวยังพอมีที่จะเจียดไปทำ เลยตัดสินใจทำครับ ตอนนี้อยู่ระหว่างการเตรียมยื่นเอกสารอยู่
แสดงความคิดเห็น
ไหนใครว่า ธอส. ไม่บังคับทำประกัน
คุ้มครอง 20 ปี ถ้าเราตาย จ่ายส่วนที่เหลือให้หมด ถ้าผ่อนหมดก่อน 20 ปี สามารถขอคืนเบี้ยประกันได้
อยากทราบว่าที่เราโดนบังคับทำมันคุ้มไหมค่ะ เงินจำนวน
34,000 กับระยะเวลา 20 ปี
(ตกปีล่ะ 1700 ถ้ามันคุ้มเราจะได้ไม่ต้องไปยกเลิกทีหลังค่ะ)