ถ้าประเด็นคือการงดเว้นเนื้อสัตว์เป็นสำคัญ
ทำไมจึงการกินเจจึงเป็นที่นิยม(กว่า)
ทำไมคนไม่พูดถึงการกินมังสวิรัติ ที่ก็เป็นการงดเว้นเนื้อสัตว์ด้วยการกินพืชผัก
เพราะเจเป็นเทศกาล เมื่อเป็นเทศกาลก็เหมือนมีช่วงเวลากำหนดแน่นอนว่าจะมีช่วงไหนของปี ระยะเวลานานเท่าไหร่ จึงเป็นที่แ่น่นอนสำหรับผู้กินเจว่าจะหากินได้ในช่วงนี้ ผู้ผลิตก็จัดหาให้ผู้บริโภคได้ตรงช่วง ตรงกลุ่มเป้าหมาย
เพราะเป็นเทศกาลอันยึดโยงกับประเพณีวัฒนธรรมของคนไทยเชื้อสายจีน (ขอบเขตการพิจารณาเฉพาะในประเทศไทยละกันครับ) ซึ่งคนไทยเชื้อสายจีนมีอยู่มากทุกจังหวัด และยังมีการถือปฏิบัติเป็นเทศกาลมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีการสืบทอดอย่างเข้มแข็ง
ในทางตรงข้าม มังสวิรัติ ไม่มีการสืบทอดแบบเป็นประเพณี ไม่ได้จัดเป็นเทศกาล ผู้ถือปฏิบัติทำด้วยความเห็นความเข้าใจของตนเอง(ปัจเจก)ว่าดีว่าเหมาะ จึงกินมังสวิรัติ และไม่ขึ้นกับเชื้อสาย จึงไม่เป็นไปอย่างแพร่หลายในวงกว้าง
ข้อดีข้อเสียที่ผมเห็นได้อย่างชัดๆคือ
อาหารเจมันมาก เป็นแป้งกับน้ำมันซะส่วนใหญ่ ถึงจะเป็นเต้าหู้หรือถั่วผสมให้ได้โปรตีนก็มันเหมือนกัน เนื้อเทียมที่เห็นก็เป็นแป้งหรือเต้าหู้แปรรูป (โดยทั่วไป ของแปรรูปมากๆไม่น่าจะดีกับสุขภาพ) เห็นชัดว่าไม่ดีต่อสุขภาพ และบางท่านอาจต่อต้านเพราะปัจจุบันอาหารเจถูกพัฒนาให้หน้าตาเหมือนอาหารปกติที่มีเนื้อสัตว์(เทียม)เป็นส่วนประกอบ
ซึ่งโดยแท้จุดประสงค์ของเจเป็นไปเพื่อละเว้นเนื้อสัตว์ เมื่อจุดประสงค์เป็นแบบนั้น แต่ภาพของอาหารที่มีเนื้อสัตว์เทียมไม่ได้สอดคล้องกัน ทำให้ท่านที่ต่อต้านเกิดความรู้สึกว่า ไม่ได้ละได้จริง หรือเป็นการหลอกตัวเอง หรือความคิดความรู้สึกอะไรก็ตามในลักษณะนี้ จึงเกิดขึ้นกับบางท่านที่มีความเห็นต่อต้านได้
ผมไ่ม่ได้โทษใคร ไม่ได้เห็นด้วยกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทั้งผู้ผลิต ผู้ถือปฏิบัติ ผู้ต่อต้าน
ทุกอย่างเป็นไปตามเหตุปัจจัย
หากผู้ถือปฏิบัติมีความระลึกนึกรู้ว่าเราทำอะไรอยู่ สิ่งที่กินเข้าไปคืออะไร เข้าใจจุดประสงค์ของตัวเอง ไม่หลงกับหน้าตาของอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์เทียม ทำด้วยความตั้งใจด้วยเจตนาอันดี ท่านก็ได้บุญในส่วนนี้แน่นอน
ดูอีกฟาก มังสวิรัติ ในประเด็นสุขภาพ มังสวิรัติ ดูจะดีต่อสุขภาพกว่า (แต่ก็แหละขึ้นอยู่กับผู้ประกอบอาหารด้วย ถ้าเป็นผัดผักมันๆ มังสวิรัติก็ไม่ต่างกัน) เนื่องจากอาหารมังสวิรัติ สามารถที่จะกินหรือเลือกกินอาหารธรรมดาๆได้เพียงแค่ไม่ใส่เนื้อสัตว์ ไม่ต้องถูกบังคับเหมือนกับการกินอาหารเจที่ส่วนใหญ่เป็นแป้งเคลือบด้วยน้ำมันเยิ้มๆ
และประเด็นเทศกาล มังสวิรัติก็ไม่ต้องรอเทศกาล สามารถทำได้ตลอดทุกวัน ทุกมื้อ อยู่ที่เราว่าเราปรารถนาจะมังสวิรัติเมื่อไหร่ เพียงแต่ถ้าคุณจะหาร้านมังสวิรัติก็หายากแน่นอน แต่มังสวิรัติก็ไม่ใช่เรื่องยึดติดว่าต้องเป็นจากร้านอาหารมังสวิรัติเท้าันั้น เพราะเพียงแค่คุณไม่กินเนื้อสัตว์ก็ถือว่าเป็นมังสวิรัติแล้ว (แบบไม่เคร่งจนเกินไปจนกลายเป็นยึดติดกับรูปแบบ)
ไม่ได้เปิดประเด็นด้วยเจตนาเพื่อโจมตีหรืออยากนิยมยกย่องฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งครับ
และผมก็ไม่ได้ถือปฏิบัติทั้งเจและมังสวิรัติ
หากเห็นผิดเข้าใจผิด ยินดีน้อมรับความเห็นอันถูกควรครับ
การงดเว้นเนื้อสัตว์ - เจ กับ มังสวิรัติ
ทำไมจึงการกินเจจึงเป็นที่นิยม(กว่า)
ทำไมคนไม่พูดถึงการกินมังสวิรัติ ที่ก็เป็นการงดเว้นเนื้อสัตว์ด้วยการกินพืชผัก
เพราะเจเป็นเทศกาล เมื่อเป็นเทศกาลก็เหมือนมีช่วงเวลากำหนดแน่นอนว่าจะมีช่วงไหนของปี ระยะเวลานานเท่าไหร่ จึงเป็นที่แ่น่นอนสำหรับผู้กินเจว่าจะหากินได้ในช่วงนี้ ผู้ผลิตก็จัดหาให้ผู้บริโภคได้ตรงช่วง ตรงกลุ่มเป้าหมาย
เพราะเป็นเทศกาลอันยึดโยงกับประเพณีวัฒนธรรมของคนไทยเชื้อสายจีน (ขอบเขตการพิจารณาเฉพาะในประเทศไทยละกันครับ) ซึ่งคนไทยเชื้อสายจีนมีอยู่มากทุกจังหวัด และยังมีการถือปฏิบัติเป็นเทศกาลมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีการสืบทอดอย่างเข้มแข็ง
ในทางตรงข้าม มังสวิรัติ ไม่มีการสืบทอดแบบเป็นประเพณี ไม่ได้จัดเป็นเทศกาล ผู้ถือปฏิบัติทำด้วยความเห็นความเข้าใจของตนเอง(ปัจเจก)ว่าดีว่าเหมาะ จึงกินมังสวิรัติ และไม่ขึ้นกับเชื้อสาย จึงไม่เป็นไปอย่างแพร่หลายในวงกว้าง
ข้อดีข้อเสียที่ผมเห็นได้อย่างชัดๆคือ
อาหารเจมันมาก เป็นแป้งกับน้ำมันซะส่วนใหญ่ ถึงจะเป็นเต้าหู้หรือถั่วผสมให้ได้โปรตีนก็มันเหมือนกัน เนื้อเทียมที่เห็นก็เป็นแป้งหรือเต้าหู้แปรรูป (โดยทั่วไป ของแปรรูปมากๆไม่น่าจะดีกับสุขภาพ) เห็นชัดว่าไม่ดีต่อสุขภาพ และบางท่านอาจต่อต้านเพราะปัจจุบันอาหารเจถูกพัฒนาให้หน้าตาเหมือนอาหารปกติที่มีเนื้อสัตว์(เทียม)เป็นส่วนประกอบ
ซึ่งโดยแท้จุดประสงค์ของเจเป็นไปเพื่อละเว้นเนื้อสัตว์ เมื่อจุดประสงค์เป็นแบบนั้น แต่ภาพของอาหารที่มีเนื้อสัตว์เทียมไม่ได้สอดคล้องกัน ทำให้ท่านที่ต่อต้านเกิดความรู้สึกว่า ไม่ได้ละได้จริง หรือเป็นการหลอกตัวเอง หรือความคิดความรู้สึกอะไรก็ตามในลักษณะนี้ จึงเกิดขึ้นกับบางท่านที่มีความเห็นต่อต้านได้
ผมไ่ม่ได้โทษใคร ไม่ได้เห็นด้วยกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทั้งผู้ผลิต ผู้ถือปฏิบัติ ผู้ต่อต้าน
ทุกอย่างเป็นไปตามเหตุปัจจัย
หากผู้ถือปฏิบัติมีความระลึกนึกรู้ว่าเราทำอะไรอยู่ สิ่งที่กินเข้าไปคืออะไร เข้าใจจุดประสงค์ของตัวเอง ไม่หลงกับหน้าตาของอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์เทียม ทำด้วยความตั้งใจด้วยเจตนาอันดี ท่านก็ได้บุญในส่วนนี้แน่นอน
ดูอีกฟาก มังสวิรัติ ในประเด็นสุขภาพ มังสวิรัติ ดูจะดีต่อสุขภาพกว่า (แต่ก็แหละขึ้นอยู่กับผู้ประกอบอาหารด้วย ถ้าเป็นผัดผักมันๆ มังสวิรัติก็ไม่ต่างกัน) เนื่องจากอาหารมังสวิรัติ สามารถที่จะกินหรือเลือกกินอาหารธรรมดาๆได้เพียงแค่ไม่ใส่เนื้อสัตว์ ไม่ต้องถูกบังคับเหมือนกับการกินอาหารเจที่ส่วนใหญ่เป็นแป้งเคลือบด้วยน้ำมันเยิ้มๆ
และประเด็นเทศกาล มังสวิรัติก็ไม่ต้องรอเทศกาล สามารถทำได้ตลอดทุกวัน ทุกมื้อ อยู่ที่เราว่าเราปรารถนาจะมังสวิรัติเมื่อไหร่ เพียงแต่ถ้าคุณจะหาร้านมังสวิรัติก็หายากแน่นอน แต่มังสวิรัติก็ไม่ใช่เรื่องยึดติดว่าต้องเป็นจากร้านอาหารมังสวิรัติเท้าันั้น เพราะเพียงแค่คุณไม่กินเนื้อสัตว์ก็ถือว่าเป็นมังสวิรัติแล้ว (แบบไม่เคร่งจนเกินไปจนกลายเป็นยึดติดกับรูปแบบ)
ไม่ได้เปิดประเด็นด้วยเจตนาเพื่อโจมตีหรืออยากนิยมยกย่องฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งครับ
และผมก็ไม่ได้ถือปฏิบัติทั้งเจและมังสวิรัติ
หากเห็นผิดเข้าใจผิด ยินดีน้อมรับความเห็นอันถูกควรครับ