สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 26
วัดนี้เป็นวัดที่มีความสำคัญกับบรรพบุรุษผมเลยล่ะครับ เพราะเจดีย์ต้นตระกูลผมอยู่ที่นี่
ผมเห็นมาตั้งแต่เด็กแล้วครับคนพวกนี้ เดิมทีตรงท่าน้ำมีขายกันเต็มเลยครับ จนหาท่าเรือไม่เจอ และสกปรกมาก ภายหลังทางวัดมีไปปรับปรุงและไล่ผู้ค้าออก และทำเป็นทางเดินปัจจุบัน (เคยได้ยินว่าตอนทางวัดไล่นี่ ผู้ค้ารวมตัวประท้วงกันเลยทีเดียว) แต่ตอนนี้กลับมาแต่ใช้โชว์ป้ายแทน
แต่ร้านค้าบางเจ้าก็ดีนะครับ ผมจะมีร้านดอกไม้ประจำ ที่คนขายเป็นสาวประเภทสอง เวลามาทำบุญไหว้บรรพบุรุษที น้องเขาทำดอกไม้สวยมากๆ และขายในราคายุติธรรม
ที่จอดรถเดิมที่เป็นลานดินข้างโรงเรียนสตรีวัดระฆัง ผมไปจอดทุกทีไม่ค่อยเสียตัง แต่ส่วนใหญ่คนโบกมักจะโบกให้จอดตรงต้นไม้ก่อนที่จะเลี้ยวขวา (เก็บตัง) แต่ตอนนี้ลานดินตรงนั้นไม่ให้จอดแล้วล่ะครับ ต้องจอดที่อาคารจอดรถเท่านั้น
ซึ่งเดิมอาคารจอดรถก็เป็นลานจอดนี่ล่ะครับ เก็บตังตามปกติ (บางทีก็มั่วชั่วโมงก็มี แต่แย้งได้ ) ภายหลังจึงมีการทำอาคารจอดรถและเป็นที่ปฏิบัติธรรมด้วย (อยู่ชั้นบนสุด)
วัดระฆัง เคยมีเรื่องราวช่วงที่ขยายถนนทางเข้าวัด เพราะเดิมทีทางเข้าแคบมากแค่พอรถสวนได้อย่างละเลน ต่อมาจึงมีการเวณคืนที่ดินฝั่งเดียวกับวัดเพื่อขยายถนน แต่ก็มีบ้านหลังหนึ่งที่ดื้อไม่ยอมย้าย เหลือหลังเดียวโดดๆ ตั้งนานนนนเหมือนกัน กว่าจะไปได้
ปล. ที่จขกท. ว่าคนโบกกับคนแจกบัตรรู้จักกันนั้น เรื่องจริงครับ คือชาวบ้านแถวนั้นล่ะครับ รู้จักกันหมด
ปล. 2 สมัยที่เป็นลานจอดจะตรงกันข้ามเลยนะครับ ตอนนั้นจะมีแต่โบกให้คนเข้าไปจอด บอกข้างในไม่มีแล้ว แต่พอเราเข้าไปก็ทำหน้าเซ็งๆ แบบนั้นเลย (เพราะผมไปทำบูญที่ตึกริมน้ำ ไปจอดในนั้นประจำ)
ปล. 3 เรื่องธูปเทียนดอกไม้ สำหรับท่านที่ไปถ้าไม่คิดไรมาก ข้างในวัดเลยครับ ถูกกว่าด้วย และถือว่าทำบุญเผื่อแม่ชีด้วย เพราะแม่ชีในวัดอยู่ได้เพราะเงินบริจาคตรงนี้ล่ะครับ
ผมเห็นมาตั้งแต่เด็กแล้วครับคนพวกนี้ เดิมทีตรงท่าน้ำมีขายกันเต็มเลยครับ จนหาท่าเรือไม่เจอ และสกปรกมาก ภายหลังทางวัดมีไปปรับปรุงและไล่ผู้ค้าออก และทำเป็นทางเดินปัจจุบัน (เคยได้ยินว่าตอนทางวัดไล่นี่ ผู้ค้ารวมตัวประท้วงกันเลยทีเดียว) แต่ตอนนี้กลับมาแต่ใช้โชว์ป้ายแทน
แต่ร้านค้าบางเจ้าก็ดีนะครับ ผมจะมีร้านดอกไม้ประจำ ที่คนขายเป็นสาวประเภทสอง เวลามาทำบุญไหว้บรรพบุรุษที น้องเขาทำดอกไม้สวยมากๆ และขายในราคายุติธรรม
ที่จอดรถเดิมที่เป็นลานดินข้างโรงเรียนสตรีวัดระฆัง ผมไปจอดทุกทีไม่ค่อยเสียตัง แต่ส่วนใหญ่คนโบกมักจะโบกให้จอดตรงต้นไม้ก่อนที่จะเลี้ยวขวา (เก็บตัง) แต่ตอนนี้ลานดินตรงนั้นไม่ให้จอดแล้วล่ะครับ ต้องจอดที่อาคารจอดรถเท่านั้น
ซึ่งเดิมอาคารจอดรถก็เป็นลานจอดนี่ล่ะครับ เก็บตังตามปกติ (บางทีก็มั่วชั่วโมงก็มี แต่แย้งได้ ) ภายหลังจึงมีการทำอาคารจอดรถและเป็นที่ปฏิบัติธรรมด้วย (อยู่ชั้นบนสุด)
วัดระฆัง เคยมีเรื่องราวช่วงที่ขยายถนนทางเข้าวัด เพราะเดิมทีทางเข้าแคบมากแค่พอรถสวนได้อย่างละเลน ต่อมาจึงมีการเวณคืนที่ดินฝั่งเดียวกับวัดเพื่อขยายถนน แต่ก็มีบ้านหลังหนึ่งที่ดื้อไม่ยอมย้าย เหลือหลังเดียวโดดๆ ตั้งนานนนนเหมือนกัน กว่าจะไปได้
ปล. ที่จขกท. ว่าคนโบกกับคนแจกบัตรรู้จักกันนั้น เรื่องจริงครับ คือชาวบ้านแถวนั้นล่ะครับ รู้จักกันหมด
ปล. 2 สมัยที่เป็นลานจอดจะตรงกันข้ามเลยนะครับ ตอนนั้นจะมีแต่โบกให้คนเข้าไปจอด บอกข้างในไม่มีแล้ว แต่พอเราเข้าไปก็ทำหน้าเซ็งๆ แบบนั้นเลย (เพราะผมไปทำบูญที่ตึกริมน้ำ ไปจอดในนั้นประจำ)
ปล. 3 เรื่องธูปเทียนดอกไม้ สำหรับท่านที่ไปถ้าไม่คิดไรมาก ข้างในวัดเลยครับ ถูกกว่าด้วย และถือว่าทำบุญเผื่อแม่ชีด้วย เพราะแม่ชีในวัดอยู่ได้เพราะเงินบริจาคตรงนี้ล่ะครับ
แสดงความคิดเห็น
ถ้าไปจอดรถแถววัดระฆังฯ ระวังเจอหลอกนะครับ [เตือนภัยสังคม]
ผมไปทำธุระแถวศิริราชครับ ก็เลยกะไปจอดที่ตึกจอดรถที่เพิ่งสร้างเสร็จในซอยวัดระฆัง ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดตึกจอดรถนี้เป็นทรัพย์สินของวัดระฆังฯ ครับ ซึ่งปัจจุบันมีตึกจอดรถ (6 ชั้นมั๊งครับ) เปิดให้บริการอยู่ (ถ้าผมเข้าใจผิดก็ขออภัยนะครับ)
http://goo.gl/maps/FIqSP พิกัดตามลิ๊งค์นี้เลยครับ ตรงนี้เลยเป๊ะๆ รูปยังเป็นรูปเก่าอยู่ครับตอนยังสร้างไม่เสร็จ ซึ่งปัจจุบันตึกจอดรถนี้สร้างเสร็จแล้ว
พอผมขับรถเข้าซอยวัดระฆังไป รถผมถึงหน้าตึกจอดรถ เตรียมหมุนพวกมาลัยเข้าตึกจอดรถ ก็มีคนโบกให้หยุด คนโบกให้หยุดก็บอกผมว่า "ที่จอดเต็มแล้วให้ผมตรงไปจอดข้างหน้า"ซึ่งผมไม่เชื่อหรอกครับ ผมก็ยิ้มๆ ไป แล้วก็เลี้ยวเข้าตึกจอดรถ ไอ้คนโบกก็ทำหน้าไม่พอใจ
พอผมวนรถขึ้นไปบนตึกจอดรถปรากฎว่า ที่จอดเพียบเลยครับ = ="
หลังจากผมจอดรถเสร็จ ผมก็ลงตึกจอดรถมา ก็พบว่า ไอ้คนโบกให้จอดหน้าตึกมันก็ยังบอกรถทุกคันที่จะมาจอดในตึกว่า "ที่จอดเต็มแล้ว" ... ซึ่งก็มีคนหลงเชื่อครับ แล้วคนโบกมันก็ชี้ให้ไปจอดในจุดจอดที่เตรียมไว้แถวๆ หน้าวัดระฆัง(มั๊ง) ... แล้วก็เชื่อกันหลายคันมากครับ = ="
พอผมเดินออกจากตึกไอ้คนโบกก็มองผม สบตากัน 1 วิ (ไม่ได้เป็นลักษณะมองจ้องแบบหาเรื่องนะครับ ผมก็มองไปแบบมันโกหกหน้าด้านๆ เลยนี่หว่า ส่วนไอ้คนโบกมันก็ทำหน้าเซ็งๆ ไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรมาก) แทนที่จะสลดใจที่โดนจับได้ กลายเป็นทำหน้าเซ็งใส่ผมซะงั้น
ผมก็ไม่ได้อะไรมากครับ กลัวโดนทำร้าย เพราะดูๆ แล้ว ตรงนั้นเค้ามีพวกเยอะครับ
ที่น่าสงสัยก็คือ
- คนโบกให้จอดแล้วบอกรถทุกคันว่าที่จอดเต็ม น่าจะรู้จักเจ้าหน้าที่ที่แจกบัตรเข้าตึกจอดรถนะครับ เพราะ จุดที่คนโบกให้จอดก็อยู่หน้าตึกเลย ส่วนเจ้าหน้าที่แจกบัตรเข้าตึกจอดก็ ระยะห่างกันแค่ 5 เมตร เจ้าอาวาส หรือ เจ้าหน้าที่วัดเค้ารู้ปัญหานี้กันไหมครับเนี่ย?
- ส่วนเมียคนโบก ก็ขายถังสังฆทานตรงหน้าตึกจอดนั่นแหละครับ น่าจะพวกๆ เดียวกันหมด
ผมหละเคืองจริงๆ แถวนั้นก็อยู่ใกล้เขตวัดระฆังฯ แต่มีคนมาทำนิสัยแบบนี้
ปล... เสียดายที่ผมรีบเลยไม่ได้แอบถ่ายรูปมาให้ แต่คราวหน้า ผมคงไม่พลาดครับ
คำถามคือ
ร้องเรียนหน่วยงานไหนได้บ้างครับ
ขอ tag รถยนต์ กับ วัด เพิ่มนะครับ