คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
ส่วนใหญ่ต้องเติมเงินเข้าระบบไปก่อนค่ะ
พอเราจ่ายบิลเงินเราก็จะถูกหักเข้าระบบ เราก็ต้องเอาเงินลูกค้าไปเติม(ส่วนใหญ่จะใส่ไปล่วงหน้าเย๊อะๆ)
ถ้าเป็นพวกค้ายมือถือที่ที่เป็นดีเลอร์ จะได้ค่าตอบเเทนตามยอด+บริษัทช่วยค่าเช่าที่ ( ทรูพาสเนอร์ ดีเเทคช็อบ เทเลวิส)
ส่วนบิลค่าบัตร ต่างๆเจ้าของจะได้ตรงค่าSeverค่ะ(ส่วนเเบ่งจาก 5-15) ถ้าเป็นร้านอย่าง โลตัล
จะยอมฟรีให้เเต่เค้าได้ปริมาณลูกค้าเข้าห้าง คนเย๊อะค่าที่ก็เเพงขึ้น คนเย๊อะโอกาศขายก็เพิ่มขึ้นค่ะ
บริการพวกนี้เงินหมุนเป็นเเสนๆน่ะค่ะ คิดเล่นๆ บิลล่ะ 5บาท วันล่ะ5000 -10000 คน คูณจำนวนสาขาเข้าไปอีกค่ะ
พอเราจ่ายบิลเงินเราก็จะถูกหักเข้าระบบ เราก็ต้องเอาเงินลูกค้าไปเติม(ส่วนใหญ่จะใส่ไปล่วงหน้าเย๊อะๆ)
ถ้าเป็นพวกค้ายมือถือที่ที่เป็นดีเลอร์ จะได้ค่าตอบเเทนตามยอด+บริษัทช่วยค่าเช่าที่ ( ทรูพาสเนอร์ ดีเเทคช็อบ เทเลวิส)
ส่วนบิลค่าบัตร ต่างๆเจ้าของจะได้ตรงค่าSeverค่ะ(ส่วนเเบ่งจาก 5-15) ถ้าเป็นร้านอย่าง โลตัล
จะยอมฟรีให้เเต่เค้าได้ปริมาณลูกค้าเข้าห้าง คนเย๊อะค่าที่ก็เเพงขึ้น คนเย๊อะโอกาศขายก็เพิ่มขึ้นค่ะ
บริการพวกนี้เงินหมุนเป็นเเสนๆน่ะค่ะ คิดเล่นๆ บิลล่ะ 5บาท วันล่ะ5000 -10000 คน คูณจำนวนสาขาเข้าไปอีกค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ทำไมใคร ๆ ก็แย่งกันทำ ธุรกิจรับชำระค่าบริการกันจัง ?
บางธนาคารก็ ลดค่าธรรมเนียม แค่ 5 บาท / รายการ !!
ตั้งข้อสังเกตว่า ธุรกิจส่วนของการรับชำระ ค่าบริการต่าง ๆ นี้ ผู้ให้บริการ ได้ " เงินสด " เข้าไปในระบบ และสามารถ นำเงินสดนั้นไปใช้ได้ก่อน แล้วค่อยจ่าย ให้กับ ต้นสังกัดใช่หรือเปล่าครับ ??? ผมสงสัยตรงนี้แหละ ถึงทำให้ แต่ละราย แข่งกันอยากได้ " เงินสด " ตรงนี้กันจัง ใครพอจะทราบบ้างครับ .... สังเกตว่ารายหลาย ออกโปรโมชั่น จ่ายบิล ลุ้นรับรางวัล สร้อยทอง เงินสด หรือ รถยนต์กันเลยทีเดียว ไม่น่าเชื่อ ...