ช่วยตีความประโยคนี้ของไอน์สไตน์หน่อยครับ

"มีสองอย่างที่ไม่มีที่สิ้นสุด จักรวาลกับความโง่เขลาของมนุษย์ แต่ผมยังไม่แน่ใจเรื่องจักรวาล"

ผมตีความได้ว่า ไอน์สไตน์เหมือนต้องการจิกกัดว่าความโง่เขลาของมนุษย์มันไม่มีที่สิ้นสุด โดยที่ไอน์สไตน์นั้นไม่แน่ใจเรื่องจักรวาล (ไม่แน่ใจว่าจักรวาลนั้นไม่มีที่สิ้นสุดจริงหรือเปล่า=จักรวาลอาจจะมีจุดสิ้นสุดก็ได้) แต่ไอน์สไตน์ไม่กังขาเลยกับคำว่าความโง่เขลาของมนุษย์ (แปลว่ายังไงไอน์สไตน์ก็คิดว่าความโง่เขลาของมนุษย์ไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ ยิ่งกว่าจักรวาลเสียอีก)

แต่เพื่อนๆผมส่วนใหญ่มันจะตีความได้ประมานว่า ไอน์สไตน์ต้องการเปรียบเทียบว่าความโง่เขลาของมนุษย์กว้างใหญ่พอๆกับจักรวาล คือความไม่สิ้นสุดนั้นเสมอกัน
หรือบางคนก็ตีความได้ว่า ความไม่มีที่สิ้นสุดของจักรวาลอยู่เหนือกว่าความโง่เขลาของมนุษย์

ส่วนตัวจากประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมา ผมให้ความโง่เขลาของมนุษย์ชนะเลิศครับ เลยตีความได้แบบที่บอกไปข้างต้น
มีใครเข้าใจเหมือนผมหรือมีใครคิดต่างบ้าง ขอรับฟังความคิดเห็นหน่อยครับ

จากบทความสมาคมนิวเคลียร์แห่งประเทศไทย Nuclear Society of Thailand Articles
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 14
ทำไมตีความกันยากลำบากขนาดนั้นละครับ

เค้าแค่อยากจะบอกว่า ความโง่ของคนเรานั้นไร้ขีดจำกัด

ส่วนเรื่องจักวาลนั้นก็แค่เป็นการเปรียบเทียบเท่านั้นเอง ราว ๆ ว่าจักวาลนั้นรู้กันว่าเป็นอนันต์ แต่จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้

แต่ที่แน่ ๆ ละก็ ความโง่ของมนุษย์นี่แหละไร้ขอบเขตจริง ๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่