ฝนโบกขรพรรษ ที่ปรากฎในพระไตรปิฎก เป็นปรากฎการเดียวกับ ฝนเลือด หรือไม่

ขออนุญาติก๊อปข้อความจากเน็ตครับ

"น้ำฝนโบกขรพรรษนั้น
มีสีแดงหลั่งไหลเสียงสนั่นลั่นออกไปไกล
เหมือนเสียงสายฝนธรรมดา ถ้าผู้ใดปรารถนาจะ
ให้เปียกกาย จึงจะเปียกกาย ถ้าไม่ปรารถนาแล้ว
แม้แต่เม็ดหนึ่งก็มิได้เปียกตัว
เหมือนหยาดน้ำตกลงในใบบัว แล้ว
ก็กลิ้งตกลงไปมิได้ติดอยู่ให้เปียก ดังนั้น จึงได้
นามขนานขานเรียกว่า"ฝนโบกขรพรรษ" เป็น
มหัศจรรย์
ครั้งนั้น พระภิกษุสงฆ์ทั้งหลายก็ชวนกัน
พิศวง ต่างองค์ก็สนทนาว่า มิได้
เคยเห็นมาแต่ก่อนกาล พระองค์จึง
มีพุทธบรรหารตรัสว่า"ฝนโบกขรพรรษนี้ มิใช่
จะตกในที่ชุมนุมพระประยูรญาติในครั้งนี้เท่านั้น
ก็หาไม่ ในอดีตสมัย เมื่อตถาคตเสวยพระชาติ
เป็น พระเวสสันดร บรมโพธิสัตว์
ฝนโบกขรพรรษก็เคยได้ตกลงใน
ที่ชุมนุมพระประยูรญาติเหมือนครั้งนี้" แล้ว
สมเด็จพระมหามุนีจึงได้
ทรงพระแสดงพระธรรมเทศนา
เรื่องมหาเวสสันดรชาดก"

ตามข้อความที่ปรากฎนั้นจะเห็นว่าคุณสมบัติข้อหนึ่งของ ฝนโบกขรพรรษ นั้นเป็นปรากฎการฝนตกที่เม็ดน้ำฝนมีสีแดง  และอนุมานว่าเป็นปรากฎการธรรมชาติที่ไม่เกิดขึ้นบ่อย จากข้อมูลตามที่พระภิกษุสงฆ์ในสมัยนั้น สนทนากันว่าไม่เคยพบเจอกันมาก่อนในอดีตกาล

แล้วฝนโบกขรพรรษ จะเป็นปรากฎการเดียวกับฝนเลือดอย่างนั้นหรือ???

            ฝนเลือด("red rain" หรือ "blood rain" ) คือฝนที่ตกลงมานั้นมีสีแดงคล้ายกับเลือด ซึ่งปรากฏการณ์ธรรมชาติแบบนี้เคยเกิดขึ้นหลายครั้ง จากที่มีการบันทึกเอาไว้นั้น พบว่าครั้งหนึ่งในอดีตก็เคยเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2473 ทางตอนใต้ของเกาะอังกฤษ กินอาณาเขตถึง 20,000 ตารางไมล์ ผู้คนต่างตกอกตกใจกลัวกันใหญ่

         แต่เมื่อนักอุตอนิยมวิทยาเก็บตัวอย่างน้ำฝนสีแดงนี้ไปตรวจวิเคราะห์แล้ว จึงพบว่ามันคือน้ำฝนที่มีฝุ่นสีแดงผสมอยู่ ซึ่งฝุ่นสีแดงนี้เป็นฝุ่นจากทะเลทรายซาฮาร่า โดยมันเป็นฝุ่นทรายแดงที่ละเอียดยิ่งกว่าแป้งซะอีก จึงถูกลมพายุพัดหอบขึ้นไปบนท้องฟ้า แล้วปลิว ไปกับลมประจำฤดูกาลคือลมตะวันออกเฉียงใต้ของยุโรป พัดพาหอบผ่านมาทางประเทศสเปน โปรตุเกส ข้ามทะเลมาเป็นระยะทางกว่า 2,000 ไมล์ กลายมาเป็นลมมรสุมพัดเข้าสู่ฝั่งตอนใต้ของเกาะอังกฤษ กระทบลมหนาวกลายเป็นฝนตกลงมาเป็นสีแดง
          นอกจากนี้แล้วยังมีบันทึกว่า เคยเกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติ "ฝนเลือด"ในประเทศออสเตรเลีย

          จากการศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติม ยังพบรายงานการพบปรากฏการฝนเลือด ในอินเดียและลาว ด้วย

คลิปกระกอบกระทู้

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ลิ้งเพิ่มเติม

http://channel.nationalgeographic.com/channel/videos/its-raining-blood/embed/?vWidth=640&vHeight=391



          จะเห็นได้ว่า ทั้งสองปรากฎการ มีความสอดคล้องในประเด็นสีของน้ำฝนที่เป็นสีแดงเหมือนกัน แต่ต่างกันแค่การทำให้เปียก เพราะปรากฎการฝนเลือดนั้นเหมือนฝนทั้วไป แต่ปรากกฎการโบกขรพรรษ นั้นสามารถทำให้เปียกหรือไม่เปียกก็ได้ และสถานที่เกิดปรากฎการก็สอดคล้องกันคือเกิดใน ชมภูทวีปซึ่งปัจจุบันก็คือเขตประเทศอินเดียและเนปาล

               ที่ตั้งกระทู้นี้เพื่อเป็นข้อเปรียบเทียบปรากฎการทั้งสอง ว่ามีส่วนคล้ายคลึงและเกือบจะเป็นปรากฎการเดียวกัน ทั้งนี้ จขกท ไม่ได้มีเจตนาลบหลู่พุทธศาสนาแต่อย่างไร  แต่เพื่อเป็นข้อสังเกตุว่า หากพุทธศาสนาเกิดในอินเดีย ก็ควรมีร่องรอยหลักฐานหรือปรากฎการธรรมชาติ ที่สืบสาวมาได้ถึงปัจจุบัน เชิญเพื่อนๆแสดงความคิดเห็นครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่