ก่อนอื่นต้องบอกเลยนะครับว่าเรื่องที่ผมจะเล่าให้ฟังนี้คือเรื่องจริง 100% ที่ผมประสบพบเจอกับการกู้สินเชื่อกับ ธนาคารธนชาติ
เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อปลายเดือนสิงหาคม ปี 2556 ผมได้ไปยื่นเรื่องกู้สินเชื่อซื้อบ้านกับทางธนาคารธนชาติที่สาขาซีคอนแสควร์โซนโลตัส ราคาบ้านแค่ 2 ล้าน 5 แสนบาท ผมดาวน์ 8 แสนบาท ดังนั้นวงเงินกู้ก็เพียง 1 ล้าน 7 แสนบาทเท่านั้นเอง ในวันนั้น และได้ส่งเอกสารด้วยตัวเองไปให้กับเจ้าหน้าที่สินเชื่อในวันเดียวกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจเช็คเอกสารแล้วพบว่าครบถ้วน และเจ้าหน้าที่ได้บอกว่าทางธนาคารจะส่งเรื่องไปให้สำนักงานใหญ่ทันที ใช้เวลา process ประมาณ 2 อาทิตย์ ก็พอเข้าใจได้นะครับ ว่าอยู่ในสาขา 1 อาทิตย์ อยู่ในสำนักงานใหญ่ 1 อาทิตย์ แต่เมื่อเวลาผ่านไป 1 อาทิตย์แล้ว ไม่มีใครในธนาคารธนชาติติดต่อเรากลับมาเลย ซึ่งจริงๆน่าจะมีเจ้าหน้าที่สักคนแจ้งมาว่าธนาคารได้รับเรื่องแล้วกำลังส่งไปให้สำนักงานใหญ่ เงียบเหมือนเป่าสาก!! ทางเรารู้สึกว่าผิดปกติเลยไปสอบถามที่สาขาอีกครั้งเพื่อสอบถามว่าเอกสารของเราไปอยู่ในขั้นตอนไหนแล้ว ก็ไม่มีใครตอบได้ บอกให้เรากลับไปก่อน เดี๋ยวให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไป เราก็กลับบ้านไป ก็ยังไม่มีใครติดต่อเรามาสักที ก็เลยโทรไปตามอีกครั้ง ผมจึงได้ให้ภรรยาผมโทรไปถามความคืบหน้าที่ call center 1770 เด๋วผมจะให้ภรรยาผมมาเล่าต่อนะครับ
ดิชั้นเป็นชื่อผู้กู้ครั้งนี้ ดิชั้นจึงได้โทรไปที่ call center เพื่อถามความคืบหน้า ตอนที่คุยกับ call center นั้น ดิชั้นพยายามจะถามว่าตอนนี้ process ไปถึงไหนแล้ว อยากทราบความคืบหน้า เจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าจะรับเรื่องไว้และติดต่อกลับใน 3 วัน ดิชั้นจึงแจ้งไปว่าดิชั้นส่งเอกสารมาเป็นอาทิตย์แล้วยังต้องรออีก 3 วัน ซึ่งเนื่องจากดิชั้นทำธุรกิจต้องการจะนำเงินไปซื้อ home office อยากทราบผลให้เร็วที่สุดเนื่องจากตอนนี้ก็เสียเงินในการเช่าที่เพื่อทำงานต่อเดือนเป็นจำนวนมาก ดิชั้นจึงถามไปว่าาจะขอคุยกับใครที่เกี่ยวกับสินเชื่อโดยตรงเลยได้มั้ย จะได้รู้เรื่องว่าเป็นยังไง เพราะดิชั้นได้กู้เงินกับธนาคารธนชาติแค่แห่งเดียว ทาง call center จึงให้เบอร์โทรศัพท์ของสาขาสวนมะลิ ที่เป็นสาขาที่ดูแลสินเชื่อ (จากคำบอกของพนักงานา) ดิชั้นก็ได้โทรไปและเล่าเรื่องให้ฟัง ซึ่งคนรับเรื่องเป็นผู้หญิงไม่ทราบชื่อ แต่ว่าพูดกับดิชั้นว่า คุณไม่ได้กู้ที่สาขานี้แล้วจะทราบได้ยังไง แล้วเหมือนสายก็ตัดไป สักพักก็เป็นพนักงานอีกคนมารับสาย ทราบภายหลังว่าเป็น call center ดิชั้นจึงขอให้ช่วยต่อสายไปที่เดิมเพราะว่าสายตัดไป พนักงานพยายามพยายามต่อสายแต่ก็สายไม่ว่าง จนรอสายนานประมาณ 10 นาที พนักงาน call center ก็บอกดิชั้นว่าทางนั้นแจ้งว่าให้ดิชั้นโทรไปอีกเบอร์นึง ซึ่งดิชั้นรู้สึกว่าพนักงานคนนั้นไม่มีมารยาทมาก ถ้าเค้าต้องการบอกให้ดิชั้นโทรไปที่อื่น พนักงานท่านนั้นควรบอกดิชั้นเองไม่ใช่ตัดสายไปและฝาก call center มาบอก แสดงถึงมารยาทที่แย่มากของพนักงานสินเชื่อสาขาสวนมะลิ และไม่มีความรักองค์กร ถ้าคุณอยู่ธนาคารเดียวกันคุณควรจะช่วยกันประสานงานให้ลูกค้า กลับโยนเรื่องกันไปมา สุดท้ายดิชั้นจึงโทรศัพท์ไปตามเบอร์ที่ทราบมา และได้คุยกับพนักงานชาย (ไม่ทราบชื่อ) ซึ่งได้ถามหมายเลขบัตรประชาชน จึงทราบว่าเรื่องของดิชั้นนั้นยังไม่ได้เข้าในระบบเลย ระหว่างนั้น พนักงานสินเชื่อก็ได้โทรมาหาดิชั้นและได้ขอโทษว่า เอกสารของดิชั้นไม่ครบจึงยังไม่ได้ดำเนินเรื่องให้ ทั้งที่เวลาผ่านไปเป็นอาทิตย์แล้ว ดิชั้นจึงถามพนักงานว่าทำไมคุณไม่โทรมาตามเอกสาร พนักงานก็ยอมรับผิดว่าเห็นเอกสารไม่ครบจึงเก็บเข้าแฟ้มไปเลย ไม่ได้สนใจ และขอโทษดิชั้น และแจ้งว่าจะดำเนินเรื่องให้เร็วที่สุด ซึ่งดิชั้นก็ยอมรับคำชี้แจง และพนักงานท่านนั้นก็แจ้งว่าจะทำเรื่องแบบเร่งรัดที่สุด หลังจากนั้นอีก 2-3 วันก็มีการติดต่อมาหาดิชั้นว่าเอกสารไม่ครบดิชั้นจึงคัดสำเนาจากกรมธุรกิจการค้ามาให้ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 5 วัน เพราะครั้งแรกดิชั้นคัดสำเนามาผิดฉบับจึงต้องทำใหม่ และได้ส่งเอกสารทั้งหมดให้กับธนาคารตอนเย็นวันจันทร์ ซึ่งเอกสารที่ได้จากกรมธุรกิจการค้าก็เป็นเอกสารตัวจริงที่ได้รับมา พร้อมใบเสร็จ ดิชั้นจึงไม่ได้เซ็นต์รับรองสำเนา หลังจากการโทรไปร้องเรียนที่ call center หลายครั้งถึงความคืบหน้า สุดท้ายผู้จัดการสาขาได้โทรศัพท์มาหาดิชั้นโดยตรงและรับเรื่องว่าจะส่งให้ภายในวันถัดจากวันที่เอกสารครบ คือ วันอังคารที่ผ่านมา ดิชั้นจึงรอให้ทางธนาคารติดต่อกลับ และไม่ได้ติดต่อไปอีก
จนถึงวันที่ 27 กันยายน วันศุกร์ สามีดิชั้นได้โทรไปถามความคืบหน้าของการกู้เงิน แต่พนักงานสินเชื่อกลับบอกว่าดิชั้นยังเซ็นต์เอกสารไม่ครบ จึงยังไม่ดำเนินเรื่องให้ ต้องให้ดิชั้นไปเซ็นต์รับรองเอกสารก่อน ซึ่งทั้งที่เอกสารนั้นเป็นเอกสารที่เป็นตัวจริง ผู้จัดการก็ได้แจ้งกับดิชั้นเองเลยว่าดิชั้นไม่จำเป็นต้องเซ็นต์รับรอง และเอกสารให้ไปตั้งแต่วันจันทร์ วันศุกร์ถ้าไม่โทรไปถามคงไม่ทราบว่าเอกสารยังไม่ครบ ไม่มีการติดต่อหรือตามเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น ทุกอย่างทราบจากการโทรไปสอบถามเอง สรุปว่าผ่านมาหนึ่งเดือนเรื่องสินเชื่อของดิชั้นก็ยังไม่ไปถึงไหน ดิชั้นจะไม่ว่าเลยถ้าทางธนาคาร reject มา แต่คุณช่วยทำให้ครบกระบวนการได้มั้ย และพนักงานสินเชื่อคนเดิมยังบอกกับดิชั้นอีกว่า เวลากู้เงิน ให้กู้หลายๆ ธนาคาร บางคนเดินทั่วห้าง กู้ทุกธนาคาร ดิชั้นจึงตอบเค้าไปว่าการที่ดิชั้นมากู้คุณธนาคารเดียวไม่ดีหรือคะ หรือว่าคุณอยากทำงานไปจนจบ แล้วดิชั้นปฏิเสธไม่เอาสินเชื่อของธนาคารคุณ คุณก็จะทำงานเหนื่อยโดยไม่ได้ผลออะไร สุดท้ายกลายเป็นความผิดของดิชั้นที่ไม่ไปขอสินเชื่อเผื่อไว้หลายๆ ธนาคาร มามัวแต่รอการทำงานของคุณ ซึ่งช้ามาก ต้องคอยโทรตามคุณ ว่าเรื่องไปถึงไหนแล้ว เพราะถ้าไม่ตามดิชั้นก็จะไม่ทราบอะไรเลย ถ้าคุณทำกระบวนการได้เร็วภายใน 7 วันอย่างที่คุณบอกแต่แรก ถ้าดิชั้นถูก reject ดิชั้นคงไปกู้ธนาคารอื่นหรือหาเงินทางอื่นมาซื้อ หรือถ้าดิชั้นได้รับสินเชื่อดิชั้นจะได้วางแผนในการดำเนินธุรกิจของดิชั้นต่อไป สุดท้ายคงต้องติดตามกันต่อไปว่าธนาคารนี้จะทำงานช้ายิ่งกว่า เวียง วัง คลัง นา สมัยอยุยา หรือเปล่า และระหว่างนี้ดิชั้นก็จะไม่ไปยื่นกู้ที่ธนาคารอื่น จะรอจนกว่าจะรู้ผล ถึงจะ reject ก็ไม่เป็นไร แต่อยากรุ้ว่าคุณจะทำงานกันได้แย่กันไปถึงไหน และใช้เวลาเท่าไหร่กว่าที่จะทราบผลค่ะ
ยังไม่จบนะคะ รอฟังตอนต่อไป เราจะนำเสนอเป็น ซีรี่ จนกว่าเราจะทราบผล มาดูความห่วยแตกของธนาคารแห่งนี้กัน.... โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ
ขอเงินกู้สินเชื่อซื้อบ้าน ธนาคารธนชาติ ช้ายิ่งกว่าราชการ เวียงวังคลังนา ในสมัยโบราณซะอีก
เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อปลายเดือนสิงหาคม ปี 2556 ผมได้ไปยื่นเรื่องกู้สินเชื่อซื้อบ้านกับทางธนาคารธนชาติที่สาขาซีคอนแสควร์โซนโลตัส ราคาบ้านแค่ 2 ล้าน 5 แสนบาท ผมดาวน์ 8 แสนบาท ดังนั้นวงเงินกู้ก็เพียง 1 ล้าน 7 แสนบาทเท่านั้นเอง ในวันนั้น และได้ส่งเอกสารด้วยตัวเองไปให้กับเจ้าหน้าที่สินเชื่อในวันเดียวกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจเช็คเอกสารแล้วพบว่าครบถ้วน และเจ้าหน้าที่ได้บอกว่าทางธนาคารจะส่งเรื่องไปให้สำนักงานใหญ่ทันที ใช้เวลา process ประมาณ 2 อาทิตย์ ก็พอเข้าใจได้นะครับ ว่าอยู่ในสาขา 1 อาทิตย์ อยู่ในสำนักงานใหญ่ 1 อาทิตย์ แต่เมื่อเวลาผ่านไป 1 อาทิตย์แล้ว ไม่มีใครในธนาคารธนชาติติดต่อเรากลับมาเลย ซึ่งจริงๆน่าจะมีเจ้าหน้าที่สักคนแจ้งมาว่าธนาคารได้รับเรื่องแล้วกำลังส่งไปให้สำนักงานใหญ่ เงียบเหมือนเป่าสาก!! ทางเรารู้สึกว่าผิดปกติเลยไปสอบถามที่สาขาอีกครั้งเพื่อสอบถามว่าเอกสารของเราไปอยู่ในขั้นตอนไหนแล้ว ก็ไม่มีใครตอบได้ บอกให้เรากลับไปก่อน เดี๋ยวให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไป เราก็กลับบ้านไป ก็ยังไม่มีใครติดต่อเรามาสักที ก็เลยโทรไปตามอีกครั้ง ผมจึงได้ให้ภรรยาผมโทรไปถามความคืบหน้าที่ call center 1770 เด๋วผมจะให้ภรรยาผมมาเล่าต่อนะครับ
ดิชั้นเป็นชื่อผู้กู้ครั้งนี้ ดิชั้นจึงได้โทรไปที่ call center เพื่อถามความคืบหน้า ตอนที่คุยกับ call center นั้น ดิชั้นพยายามจะถามว่าตอนนี้ process ไปถึงไหนแล้ว อยากทราบความคืบหน้า เจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าจะรับเรื่องไว้และติดต่อกลับใน 3 วัน ดิชั้นจึงแจ้งไปว่าดิชั้นส่งเอกสารมาเป็นอาทิตย์แล้วยังต้องรออีก 3 วัน ซึ่งเนื่องจากดิชั้นทำธุรกิจต้องการจะนำเงินไปซื้อ home office อยากทราบผลให้เร็วที่สุดเนื่องจากตอนนี้ก็เสียเงินในการเช่าที่เพื่อทำงานต่อเดือนเป็นจำนวนมาก ดิชั้นจึงถามไปว่าาจะขอคุยกับใครที่เกี่ยวกับสินเชื่อโดยตรงเลยได้มั้ย จะได้รู้เรื่องว่าเป็นยังไง เพราะดิชั้นได้กู้เงินกับธนาคารธนชาติแค่แห่งเดียว ทาง call center จึงให้เบอร์โทรศัพท์ของสาขาสวนมะลิ ที่เป็นสาขาที่ดูแลสินเชื่อ (จากคำบอกของพนักงานา) ดิชั้นก็ได้โทรไปและเล่าเรื่องให้ฟัง ซึ่งคนรับเรื่องเป็นผู้หญิงไม่ทราบชื่อ แต่ว่าพูดกับดิชั้นว่า คุณไม่ได้กู้ที่สาขานี้แล้วจะทราบได้ยังไง แล้วเหมือนสายก็ตัดไป สักพักก็เป็นพนักงานอีกคนมารับสาย ทราบภายหลังว่าเป็น call center ดิชั้นจึงขอให้ช่วยต่อสายไปที่เดิมเพราะว่าสายตัดไป พนักงานพยายามพยายามต่อสายแต่ก็สายไม่ว่าง จนรอสายนานประมาณ 10 นาที พนักงาน call center ก็บอกดิชั้นว่าทางนั้นแจ้งว่าให้ดิชั้นโทรไปอีกเบอร์นึง ซึ่งดิชั้นรู้สึกว่าพนักงานคนนั้นไม่มีมารยาทมาก ถ้าเค้าต้องการบอกให้ดิชั้นโทรไปที่อื่น พนักงานท่านนั้นควรบอกดิชั้นเองไม่ใช่ตัดสายไปและฝาก call center มาบอก แสดงถึงมารยาทที่แย่มากของพนักงานสินเชื่อสาขาสวนมะลิ และไม่มีความรักองค์กร ถ้าคุณอยู่ธนาคารเดียวกันคุณควรจะช่วยกันประสานงานให้ลูกค้า กลับโยนเรื่องกันไปมา สุดท้ายดิชั้นจึงโทรศัพท์ไปตามเบอร์ที่ทราบมา และได้คุยกับพนักงานชาย (ไม่ทราบชื่อ) ซึ่งได้ถามหมายเลขบัตรประชาชน จึงทราบว่าเรื่องของดิชั้นนั้นยังไม่ได้เข้าในระบบเลย ระหว่างนั้น พนักงานสินเชื่อก็ได้โทรมาหาดิชั้นและได้ขอโทษว่า เอกสารของดิชั้นไม่ครบจึงยังไม่ได้ดำเนินเรื่องให้ ทั้งที่เวลาผ่านไปเป็นอาทิตย์แล้ว ดิชั้นจึงถามพนักงานว่าทำไมคุณไม่โทรมาตามเอกสาร พนักงานก็ยอมรับผิดว่าเห็นเอกสารไม่ครบจึงเก็บเข้าแฟ้มไปเลย ไม่ได้สนใจ และขอโทษดิชั้น และแจ้งว่าจะดำเนินเรื่องให้เร็วที่สุด ซึ่งดิชั้นก็ยอมรับคำชี้แจง และพนักงานท่านนั้นก็แจ้งว่าจะทำเรื่องแบบเร่งรัดที่สุด หลังจากนั้นอีก 2-3 วันก็มีการติดต่อมาหาดิชั้นว่าเอกสารไม่ครบดิชั้นจึงคัดสำเนาจากกรมธุรกิจการค้ามาให้ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 5 วัน เพราะครั้งแรกดิชั้นคัดสำเนามาผิดฉบับจึงต้องทำใหม่ และได้ส่งเอกสารทั้งหมดให้กับธนาคารตอนเย็นวันจันทร์ ซึ่งเอกสารที่ได้จากกรมธุรกิจการค้าก็เป็นเอกสารตัวจริงที่ได้รับมา พร้อมใบเสร็จ ดิชั้นจึงไม่ได้เซ็นต์รับรองสำเนา หลังจากการโทรไปร้องเรียนที่ call center หลายครั้งถึงความคืบหน้า สุดท้ายผู้จัดการสาขาได้โทรศัพท์มาหาดิชั้นโดยตรงและรับเรื่องว่าจะส่งให้ภายในวันถัดจากวันที่เอกสารครบ คือ วันอังคารที่ผ่านมา ดิชั้นจึงรอให้ทางธนาคารติดต่อกลับ และไม่ได้ติดต่อไปอีก
จนถึงวันที่ 27 กันยายน วันศุกร์ สามีดิชั้นได้โทรไปถามความคืบหน้าของการกู้เงิน แต่พนักงานสินเชื่อกลับบอกว่าดิชั้นยังเซ็นต์เอกสารไม่ครบ จึงยังไม่ดำเนินเรื่องให้ ต้องให้ดิชั้นไปเซ็นต์รับรองเอกสารก่อน ซึ่งทั้งที่เอกสารนั้นเป็นเอกสารที่เป็นตัวจริง ผู้จัดการก็ได้แจ้งกับดิชั้นเองเลยว่าดิชั้นไม่จำเป็นต้องเซ็นต์รับรอง และเอกสารให้ไปตั้งแต่วันจันทร์ วันศุกร์ถ้าไม่โทรไปถามคงไม่ทราบว่าเอกสารยังไม่ครบ ไม่มีการติดต่อหรือตามเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น ทุกอย่างทราบจากการโทรไปสอบถามเอง สรุปว่าผ่านมาหนึ่งเดือนเรื่องสินเชื่อของดิชั้นก็ยังไม่ไปถึงไหน ดิชั้นจะไม่ว่าเลยถ้าทางธนาคาร reject มา แต่คุณช่วยทำให้ครบกระบวนการได้มั้ย และพนักงานสินเชื่อคนเดิมยังบอกกับดิชั้นอีกว่า เวลากู้เงิน ให้กู้หลายๆ ธนาคาร บางคนเดินทั่วห้าง กู้ทุกธนาคาร ดิชั้นจึงตอบเค้าไปว่าการที่ดิชั้นมากู้คุณธนาคารเดียวไม่ดีหรือคะ หรือว่าคุณอยากทำงานไปจนจบ แล้วดิชั้นปฏิเสธไม่เอาสินเชื่อของธนาคารคุณ คุณก็จะทำงานเหนื่อยโดยไม่ได้ผลออะไร สุดท้ายกลายเป็นความผิดของดิชั้นที่ไม่ไปขอสินเชื่อเผื่อไว้หลายๆ ธนาคาร มามัวแต่รอการทำงานของคุณ ซึ่งช้ามาก ต้องคอยโทรตามคุณ ว่าเรื่องไปถึงไหนแล้ว เพราะถ้าไม่ตามดิชั้นก็จะไม่ทราบอะไรเลย ถ้าคุณทำกระบวนการได้เร็วภายใน 7 วันอย่างที่คุณบอกแต่แรก ถ้าดิชั้นถูก reject ดิชั้นคงไปกู้ธนาคารอื่นหรือหาเงินทางอื่นมาซื้อ หรือถ้าดิชั้นได้รับสินเชื่อดิชั้นจะได้วางแผนในการดำเนินธุรกิจของดิชั้นต่อไป สุดท้ายคงต้องติดตามกันต่อไปว่าธนาคารนี้จะทำงานช้ายิ่งกว่า เวียง วัง คลัง นา สมัยอยุยา หรือเปล่า และระหว่างนี้ดิชั้นก็จะไม่ไปยื่นกู้ที่ธนาคารอื่น จะรอจนกว่าจะรู้ผล ถึงจะ reject ก็ไม่เป็นไร แต่อยากรุ้ว่าคุณจะทำงานกันได้แย่กันไปถึงไหน และใช้เวลาเท่าไหร่กว่าที่จะทราบผลค่ะ
ยังไม่จบนะคะ รอฟังตอนต่อไป เราจะนำเสนอเป็น ซีรี่ จนกว่าเราจะทราบผล มาดูความห่วยแตกของธนาคารแห่งนี้กัน.... โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ