หลังปล่อยให้แฟนๆรอคอยมาอย่างยาวนาน ล่าสุด Bridget Jones's Diary, Mad About The Boy ของนักเขียนดัง "เฮเลน ฟีลดิง" ได้เปิดเผยออกมาแล้วทางไทม์ แม็กกาซีน โดยระบุว่ารักสมหวังของ "บริดเจ็ท โจนส์" กลายเป็นเรื่องดราม่าหนัก เมื่อเจ้าตัวต้องเป็นแม่ม่ายเพราะพระเอกของเรื่อง "มาร์ค ดาร์ซี" ตายแล้ว !!
ทิ้งให้รอคอยนานกว่า 15 ปี หลังจากที่บริดเจ็ท โจนส์ สาวอวบวัยกลางคนอาภัพรักได้สมหวังสักทีกับ มาร์ค ดาร์ซี หนุ่มในฝัน แต่แล้วเรื่องราวในภาคล่าสุดนี้กลับทำให้แฟนหนังสือและแฟนภาพยนตร์ต้องตื่นตะลึง เมื่อมีการประกาศว่า นักเขียนให้ชีวิตของบริดเจ็ท โจนส์กลับไปสู่ความโชคร้ายอีกครั้งเมื่อคู่ชีวิตของเธอต้องตายลง
บริดเจ็ท โจนส์ เป็นนวนิยายที่ตัวละครสะท้อนภาพลักษณ์ของสาวลอนดอนวัยกลางคนในยุค 90s เป็นอย่างดี ที่กังวลทั้งเรื่องของน้ำหนักตัว, ชีวิตการทำงาน, การติดบุหรี่ และการดื่มหนัก ซึ่งตัวละครของบริดเจ็ท โจนส์นี้ได้รับความนิยมและเป็นที่โปรดปรานของสาวๆไปแล้วทั่วโลก
โดยหนังสือเรื่องนี้ยังเคยได้รับการโหวตจากผู้อ่าน ว่าเป็นหนึ่งในสิบนวนิยายที่ควรหามาอ่านในศตวรรษที่20ด้วย เช่นเดียวกับหนังสือเรื่องอื่นๆอย่าง Nineteen Eighty-Four ของ จอร์จ ออร์เวล หรือ The Diary of a Young Girl ของ แอนน์ แฟรงค์
การกลับมาครั้งนี้ของ บริดเจ็ท โจนส์ หลังห่างหายไปตั้งแต่ปี 1999 บริดเจ็ท ในวัย 51 ปีตอนนี้กลับกลายเป็นม่ายและวิตกกังวลเรื่องริ้วรอยแห่งวัย ซึ่งนับได้ว่าใกล้เคียงอย่างมากกับชีวิตจริงของ ผู้แต่งอย่าง เฮเลน ฟีลดิง ซึ่งมีอายุ 55 ปี เป็นม่าย มีลูก 2 คน หลังยุติความสัมพันธ์กับ เควิน เคอร์รัน ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ไปเมื่อปี 2009 อย่างไรก็ตามเจ้าตัวก็ปฏิเสธว่าไม่ได้อิงกับชีวิตจริงของเธอแต่อย่างใด
ซึ่งการผจญภัยครั้งใหม่นี้ของบริดเจ็ท โจนส์ ในวัย 50 ปี ยังระบุด้วยว่า เป็นการใช้ชีวิตม่ายของบริดเจ็ทที่มาพบกับ ร็อกซ์เตอร์ แฟนหนุ่มเด็กกว่าในวัย 30 ปี ทางทวิตเตอร์ ซึ่งเป็นช่วง 5 ปี หลังการเสียชีวิตของ มาร์ค ดาร์ซี ซึ่งการเสียชีวิตของเขาจะปรากฏในหนังสือซึ่งเป็นเรื่องราวย้อนหลัง และยังไม่มีการเปิดเผยล่วงหน้าใดๆทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม ผู้อ่านที่ต่างลุ้นว่าเรื่องราวของบริเจ็ท ครั้งนี้จะเป็นอย่างไรต้องรอติดตามกันต่อไป โดยมีรายงานว่า Bridget Jones's Diary, Mad About The Boy จะออกมาวางแผงในวันที่ 10 ต.ค. นี้
ทางด้านแฟนๆที่ทราบข่าวเรื่องราวภาคต่อของบริดเจ็ท ที่สื่อพร้อมใจรายงานว่า มาร์ค ดาร์ซี ต้องเสียชีวิตลง ทำเอาแฟนคลับของหนังสือและภาพยนตร์เรื่องนี้ ต่างก็รับไม่ได้ไปตามๆกัน โดยบรรดาแฟนคลับต่างระบายความในใจลงในทวิตเตอร์ โดยระบุว่า "ไม่นะ !! ต้องไม่ใช่ มาร์ค ดาร์ซี!" , "ไม่ชอบเลยที่มาร์ค ดาร์ซี ต้องตายในบริดเจ็ท โจนส์ เล่มใหม่", "มาร์ค ดาร์ซี ตาย ทำไมถึงทำร้ายจิตใจของแฟนๆบริดเจ็ท โจนส์ได้ขนาดนี้", "มาร์ค ดาร์ซีตาย บริดเจ็ท โจนส์ เป็นแม่ม่าย !! นี่มันมากเกินไปแล้วสำหรับเช้าวันหยุดแบบนี้", "โอ้ พระเจ้า เพิ่งได้ยินเรื่องราวของบริดเจ็ท โจนส์ ตอนใหม่ หัวใจฉันสลายเลย", "ตอนนี้เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าอยากจะอ่านบริดเจ็ท โจนส์เล่ม 3 อีกไหม"
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9560000122849
แฟนคลับรับไม่ได้ "บริดเจ็ต โจนส์" ภาค 3 ต้องเป็นม่าย เมื่อแต่งให้พระเอกของเรื่อง "มาร์ค ดาร์ซี" ตาย!
ทิ้งให้รอคอยนานกว่า 15 ปี หลังจากที่บริดเจ็ท โจนส์ สาวอวบวัยกลางคนอาภัพรักได้สมหวังสักทีกับ มาร์ค ดาร์ซี หนุ่มในฝัน แต่แล้วเรื่องราวในภาคล่าสุดนี้กลับทำให้แฟนหนังสือและแฟนภาพยนตร์ต้องตื่นตะลึง เมื่อมีการประกาศว่า นักเขียนให้ชีวิตของบริดเจ็ท โจนส์กลับไปสู่ความโชคร้ายอีกครั้งเมื่อคู่ชีวิตของเธอต้องตายลง
บริดเจ็ท โจนส์ เป็นนวนิยายที่ตัวละครสะท้อนภาพลักษณ์ของสาวลอนดอนวัยกลางคนในยุค 90s เป็นอย่างดี ที่กังวลทั้งเรื่องของน้ำหนักตัว, ชีวิตการทำงาน, การติดบุหรี่ และการดื่มหนัก ซึ่งตัวละครของบริดเจ็ท โจนส์นี้ได้รับความนิยมและเป็นที่โปรดปรานของสาวๆไปแล้วทั่วโลก
โดยหนังสือเรื่องนี้ยังเคยได้รับการโหวตจากผู้อ่าน ว่าเป็นหนึ่งในสิบนวนิยายที่ควรหามาอ่านในศตวรรษที่20ด้วย เช่นเดียวกับหนังสือเรื่องอื่นๆอย่าง Nineteen Eighty-Four ของ จอร์จ ออร์เวล หรือ The Diary of a Young Girl ของ แอนน์ แฟรงค์
การกลับมาครั้งนี้ของ บริดเจ็ท โจนส์ หลังห่างหายไปตั้งแต่ปี 1999 บริดเจ็ท ในวัย 51 ปีตอนนี้กลับกลายเป็นม่ายและวิตกกังวลเรื่องริ้วรอยแห่งวัย ซึ่งนับได้ว่าใกล้เคียงอย่างมากกับชีวิตจริงของ ผู้แต่งอย่าง เฮเลน ฟีลดิง ซึ่งมีอายุ 55 ปี เป็นม่าย มีลูก 2 คน หลังยุติความสัมพันธ์กับ เควิน เคอร์รัน ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ไปเมื่อปี 2009 อย่างไรก็ตามเจ้าตัวก็ปฏิเสธว่าไม่ได้อิงกับชีวิตจริงของเธอแต่อย่างใด
ซึ่งการผจญภัยครั้งใหม่นี้ของบริดเจ็ท โจนส์ ในวัย 50 ปี ยังระบุด้วยว่า เป็นการใช้ชีวิตม่ายของบริดเจ็ทที่มาพบกับ ร็อกซ์เตอร์ แฟนหนุ่มเด็กกว่าในวัย 30 ปี ทางทวิตเตอร์ ซึ่งเป็นช่วง 5 ปี หลังการเสียชีวิตของ มาร์ค ดาร์ซี ซึ่งการเสียชีวิตของเขาจะปรากฏในหนังสือซึ่งเป็นเรื่องราวย้อนหลัง และยังไม่มีการเปิดเผยล่วงหน้าใดๆทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม ผู้อ่านที่ต่างลุ้นว่าเรื่องราวของบริเจ็ท ครั้งนี้จะเป็นอย่างไรต้องรอติดตามกันต่อไป โดยมีรายงานว่า Bridget Jones's Diary, Mad About The Boy จะออกมาวางแผงในวันที่ 10 ต.ค. นี้
ทางด้านแฟนๆที่ทราบข่าวเรื่องราวภาคต่อของบริดเจ็ท ที่สื่อพร้อมใจรายงานว่า มาร์ค ดาร์ซี ต้องเสียชีวิตลง ทำเอาแฟนคลับของหนังสือและภาพยนตร์เรื่องนี้ ต่างก็รับไม่ได้ไปตามๆกัน โดยบรรดาแฟนคลับต่างระบายความในใจลงในทวิตเตอร์ โดยระบุว่า "ไม่นะ !! ต้องไม่ใช่ มาร์ค ดาร์ซี!" , "ไม่ชอบเลยที่มาร์ค ดาร์ซี ต้องตายในบริดเจ็ท โจนส์ เล่มใหม่", "มาร์ค ดาร์ซี ตาย ทำไมถึงทำร้ายจิตใจของแฟนๆบริดเจ็ท โจนส์ได้ขนาดนี้", "มาร์ค ดาร์ซีตาย บริดเจ็ท โจนส์ เป็นแม่ม่าย !! นี่มันมากเกินไปแล้วสำหรับเช้าวันหยุดแบบนี้", "โอ้ พระเจ้า เพิ่งได้ยินเรื่องราวของบริดเจ็ท โจนส์ ตอนใหม่ หัวใจฉันสลายเลย", "ตอนนี้เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าอยากจะอ่านบริดเจ็ท โจนส์เล่ม 3 อีกไหม"
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9560000122849