ภาพยนตร์เรื่อง Warcraft มาพร้อมความคาดหวังสูงจากแฟนๆ ของเกมคอมพิวเตอร์ชื่อดังและผู้สนใจจักรวาลแฟนตาซี และด้วยงบประมาณอันสูงถึง 160 ล้านดอลลาร์ มันจึงเป็นความท้าทายมหาศาลสำหรับผู้กำกับดันแคนโจนส์ในการนำเสนอจักรวาลเวาว์อันยิ่งใหญ่นี้สู่จอภาพยนตร์
ศักยภาพสำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้มาจากการสร้างโลกจำลองอย่างพิถีพิถัน การออกแบบฉากและบรรยากาศของทั้งดินแดนแห่งมนุษย์และดินแดนของออร์กนั้นล้ำสมัยและสมจริงอย่างประณีต ด้วยความพิถีพิถันในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ตั้งแต่สิ่งก่อสร้าง เครื่องแต่งกาย อาวุธ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ทำให้โลกเวาว์มีชีวิตชีวามากขึ้น ประกอบกับฝีมือการสร้างภาพเคลื่อนไหวดิจิทัลชั้นเยี่ยม ทำให้ตัวละครมนุษย์และออร์กมีรูปร่างหน้าตาเฉพาะตัวและดูสมจริงราวกับเป็นสิ่งมีชีวิต
หนึ่งในจุดแข็งของ Warcraft อยู่ที่การแสดงที่น่าประทับใจของนักแสดงนำ ทราวิสฟิมเมลเป็นคาแรคเตอร์กษัตริย์ลิคกิ้งที่ดุดัน แต่ก็มีความเป็นมนุษย์และเป็นผู้นำที่ดี โทบี้เคบ
เบลล์แสดงบทเนื้อเรื่องหลักเป็นออร์กผู้นำชื่อดูลอธาน ถ่ายทอดความรักครอบครัวและความมุ่งมั่นเพื่อนำพาผองเผ่าของตนหนีภัยจากดินแดนเดิมได้อย่างแสนประทับใจ ส่วนเบนฟอสเตอร์และโรเบิร์ตคาซินสกี้ก็รับบทผู้นำฝ่ายมนุษย์ได้อย่างโดดเด่นเช่นกัน
แม้เนื้อเรื่องจะไม่ได้สดใหม่หรือซับซ้อนมากนัก แต่ก็นำเสนอได้อย่างน่าติดตาม มีการผูกเรื่องราวของมนุษย์และออร์กเข้าด้วยกันอย่างลงตัว สิ่งที่ดีก็คือภาพยนตร์ไม่ได้มองข้ามการสร้างมิติทางอารมณ์ความรู้สึกของตัวละคร ทำให้ผู้ชมเข้าถึงและเห็นใจได้ทั้งสองฝ่าย จุดอ่อนส่วนหนึ่งคือช่วงต้นดำเนินเรื่องค่อนข้างช้า แต่ก็ถูกชดเชยด้วยฉากแอ็คชั่นสงครามกองทัพมนุษย์และออร์กที่สมจริงและตื่นเต้นระทึกใจอย่างยิ่ง ฉากเหล่านี้คือหัวใจหลักของความบันเทิงในภาพยนตร์แฟนตาซีแอ็คชั่นเรื่องนี้
สรุปคือ Warcraft เป็นภาพยนตร์แฟนตาซีที่น่าตื่นตาตื่นใจด้วยการสร้างสรรค์งดงามและคุณภาพการผลิตในระดับสูง แม้เนื้อหาอาจดูคุ้นชิน แต่ก็นำเสนอได้อย่างสนุกและลึกซึ้ง คู่ควรแก่การเป็นจุดเริ่มต้นให้กับภาพยนตร์แฟรนไชส์ไซไฟคุณภาพใหม่
คะแนน: 7.5/10
Warcraft ภาพยนตร์แฟนตาซีที่น่าตื่นตาตื่นใจด้วยการสร้างสรรค์งดงามและคุณภาพการผลิตในระดับสูง
ภาพยนตร์เรื่อง Warcraft มาพร้อมความคาดหวังสูงจากแฟนๆ ของเกมคอมพิวเตอร์ชื่อดังและผู้สนใจจักรวาลแฟนตาซี และด้วยงบประมาณอันสูงถึง 160 ล้านดอลลาร์ มันจึงเป็นความท้าทายมหาศาลสำหรับผู้กำกับดันแคนโจนส์ในการนำเสนอจักรวาลเวาว์อันยิ่งใหญ่นี้สู่จอภาพยนตร์
ศักยภาพสำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้มาจากการสร้างโลกจำลองอย่างพิถีพิถัน การออกแบบฉากและบรรยากาศของทั้งดินแดนแห่งมนุษย์และดินแดนของออร์กนั้นล้ำสมัยและสมจริงอย่างประณีต ด้วยความพิถีพิถันในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ตั้งแต่สิ่งก่อสร้าง เครื่องแต่งกาย อาวุธ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ทำให้โลกเวาว์มีชีวิตชีวามากขึ้น ประกอบกับฝีมือการสร้างภาพเคลื่อนไหวดิจิทัลชั้นเยี่ยม ทำให้ตัวละครมนุษย์และออร์กมีรูปร่างหน้าตาเฉพาะตัวและดูสมจริงราวกับเป็นสิ่งมีชีวิต
หนึ่งในจุดแข็งของ Warcraft อยู่ที่การแสดงที่น่าประทับใจของนักแสดงนำ ทราวิสฟิมเมลเป็นคาแรคเตอร์กษัตริย์ลิคกิ้งที่ดุดัน แต่ก็มีความเป็นมนุษย์และเป็นผู้นำที่ดี โทบี้เคบ
เบลล์แสดงบทเนื้อเรื่องหลักเป็นออร์กผู้นำชื่อดูลอธาน ถ่ายทอดความรักครอบครัวและความมุ่งมั่นเพื่อนำพาผองเผ่าของตนหนีภัยจากดินแดนเดิมได้อย่างแสนประทับใจ ส่วนเบนฟอสเตอร์และโรเบิร์ตคาซินสกี้ก็รับบทผู้นำฝ่ายมนุษย์ได้อย่างโดดเด่นเช่นกัน
แม้เนื้อเรื่องจะไม่ได้สดใหม่หรือซับซ้อนมากนัก แต่ก็นำเสนอได้อย่างน่าติดตาม มีการผูกเรื่องราวของมนุษย์และออร์กเข้าด้วยกันอย่างลงตัว สิ่งที่ดีก็คือภาพยนตร์ไม่ได้มองข้ามการสร้างมิติทางอารมณ์ความรู้สึกของตัวละคร ทำให้ผู้ชมเข้าถึงและเห็นใจได้ทั้งสองฝ่าย จุดอ่อนส่วนหนึ่งคือช่วงต้นดำเนินเรื่องค่อนข้างช้า แต่ก็ถูกชดเชยด้วยฉากแอ็คชั่นสงครามกองทัพมนุษย์และออร์กที่สมจริงและตื่นเต้นระทึกใจอย่างยิ่ง ฉากเหล่านี้คือหัวใจหลักของความบันเทิงในภาพยนตร์แฟนตาซีแอ็คชั่นเรื่องนี้
สรุปคือ Warcraft เป็นภาพยนตร์แฟนตาซีที่น่าตื่นตาตื่นใจด้วยการสร้างสรรค์งดงามและคุณภาพการผลิตในระดับสูง แม้เนื้อหาอาจดูคุ้นชิน แต่ก็นำเสนอได้อย่างสนุกและลึกซึ้ง คู่ควรแก่การเป็นจุดเริ่มต้นให้กับภาพยนตร์แฟรนไชส์ไซไฟคุณภาพใหม่
คะแนน: 7.5/10