ไม่แน่ใจว่าแท็กถูกห้องหรือเปล่า แต่อยากเล่าให้ฟังค่ะ......
เป็นประสบการณ์จากการใช้บริการรถ TAXI ค่ะ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 ก.ย. 56 (แหะ ๆ ความรู้สึกช้า เพิ่งนึกได้ว่าน่าจะมาแชร์ให้คนอื่น ๆ ฟังบ้าง)
ซึ่ง จขก. มีความจำเป็นต้องใช้บริการ TAXI เนื่องจาก ต้องไปประชุม ณ โรงแรมเดอะทวิล ทาวเวอร์ (ไปกี่ทีก็จำไม่ได้)
อีกทั้ง ที่ตั้งของโรงแรม ไม่ใช่เส้นทางบริการของ รถไฟลอยฟ้า และรถไฟฟ้าใต้ดิน
TAXI จึงเป็นทางที่ต้องเลือกของ จขก. ค่ะ
จขก. เรียกใช้บริการรถ TAXI คันนั้นเมื่อวันที่ 21 ก.ย. 56 เป็นวันเสาร์ เวลาประมาณ 10.00 น. ตรงสถานีรถไฟฟ้าราชเทวี
คนขับอายุน่าจะประมาณ 40 กว่า ๆ ค่ะ บอก TAXI ว่าจะไปโรงแรมเดอะทวิล ทาวเวอร์ แล้วขึ้นไปนั่งเบาะหลังวางมาดเป็นคุณนายเลยค่ะ ไม่กล้าบอก TAXI ว่าไปโรงแรมไม่ถูก ตั้งใจว่าไม่ชวนคุยด้วย (ปกติ เราเป็นช่างพูด จนเกือบจะกลายเป็นเพ้อเจ้อ....อันนี้เพื่อนบอก )
กลัวเจอ TAXI บ้าการเมืองค่ะ ไม่อยากต้องแก้ปัญหาตามที่เพื่อน ๆ ในพันทิพย์แนะนำ 555555555
แต่ ๆๆๆ.. มันมีสาเหตุให้เราต้องคุยกันค่ะ เพราะระหว่างที่รถเรากำลังเคลื่อนตัวออก มีรถเก๋งป้ายแดงบีบแตรไล่รถของเรา
ทั้ง ๆ ที่วันนั้นถนนค่อนข้างโล่ง เพราะเป็นวันเสาร์ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะมาบีบแต่ไล่ทำไม...
TAXI เลยพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงปกติ ไม่มีทีท่าว่าหรือว่าน้ำเสียงที่ไม่พอใจเลยนะคะ ประมาณว่า เดี่ยวนี้ ความเจริญทางด้านวัตถุพุ่งปรี๊ด
แต่ความเจริญทางด้านจิตใจของคนกลับลดน้อยลง
อึ้งค่ะ....อุตส่าห์ตั้งใจว่าจะเงียบ เมื่อ TAXI ชวนคุย เข้าทางเลยค่ะ ผสมโรงไปด้วยเลย ว่าเห็นด้วย แล้วก็แสดงตัวตนของเราออกมาเลยค่ะ ไม่แอ๊บแล้ว....คุยกะแท็กซี่ยังกะรู้จักกันมาซัก 20 ปี
สาระสำคัญที่เราคุยกับ TAXI นั้น มีประมาณว่า “สำหรับเค้า ใครอยากปาดหน้า ปาดไปเลย ใครรีบก็แซงไปก่อน เค้ากลัวจิตใจคนสมัยนี้ อะไรที่ยอมได้ก็ยอมๆ กันไป ไม่อยากมีเรื่อง กลัวผิดใจกันเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วคู่กรณีชักปืนออกมายิงตายมันไม่คุ้ม แล้วยังบอกว่า ไม่อยากให้คนเรามุ่งพัฒนาเฉพาะวัตถุ จนหลงลืมพัฒนาจิตใจ อยากให้ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงมาใช้ในชีวิต ที่สำคัญ เค้าบอกว่า ไม่อยากให้คนสมัยนี้ติดโทรศัพท์ให้มาก เพราะที่เคยเจอคือ ผู้โดยสารขึ้นรถแท็กซี่แล้ว ไม่สนใจอะไรเลย... นั่งปุ๊บ...เปิดปั๊บ..แล้วก็จิ้มแต่มือถือ เค้าบอกว่ามันไม่ปลอดภัย ทำให้การระวังตัวต่าง ๆ ลดลง เค้าบอกหลายครั้งที่เค้าเห็นคนข้ามถนนไปจิ้มโทรศัพท์ไป ไม่ระวังรถเลย มันอันตรายมาก” (โชคดีที่เราใช้โทรศัพท์รุ่นที่ใช้เฉพาะ โทรออกกับรับสายเข้า เนื่องจาก เป็นคนโลว์เทคโนโลยี)
อึ้งอีกรอบ.......เมื่อถึงโรงแรมเดอะทวิล ทาวเวอร์ ค่ารถ 43 บาท (จำแม่นเลยค่ะ) เรายื่นเอาแบงค์ 50 มาถือไว้ ตั้งใจเลยค่ะว่าไม่เอาตังค์ทอน ชอบคนขับ (ปกติเราไม่ยอมค่ะ.......งก) คนขับหันมาบอกโดยยังไม่เห็นเงินที่เราถือนะคะ ว่า 40 บาทก็พอ ซึ่งเมื่อเรายื่นเงินให้บอกคนขับว่า หนูให้พี่ 50 บาท ไม่ต้องทอนหนูชอบพี่ พี่โดนใจหนูอย่างแรง เค้าไม่ยอมค่ะ เค้าบอกว่าจะเอา 40 บาท ก็พอแล้ว
แล้วเค้ารีบทอนเงิน 10 บาทให้เราเลยค่ะ เรา ขอบคุณเค้าไปหลายครั้งมาก ลงจากรถแล้วพยายามจดจำเลขทะเบียนรถ
แต่จำไม่ได้ (เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีค่ะ) จำได้แต่เป็นรถแท็กซี่สีชมพู.......
ลงจากรถเข้าห้องประชุมแล้วยังรู้สึกประทับใจมากมายค่ะ.....ประทับใจแนวคิดของคนขับและการปฏิบัติตัวต่อผู้โดยสาร.......อยากให้ทุกครั้งที่ใช้บริการรถแท็กซี่ได้เจอคนขับแบบนี้ ซึ่งมันคงเป็นไปไม่ได้...เราเพราะคนเรามีหลายประเภท
อยากให้ผู้โดยสารที่ต้องใช้บริการรถแท็กซี่รู้ว่า เมื่อนั่งบนรถ หรืออยู่ในที่สาธารณะ ให้พยายามสนใจสิ่งรอบข้างมากกว่ามือถือในมือคุณ
สุดท้าย......อยากฝากไปถึงพี่คนขับแท็กซี่ ที่อาจจะไม่มีโอกาสได้ใช้บริการพี่อีก....หรือ...ไม่แน่...หากวาสนาเราต้องกัน.....อาจจะได้ใช้บริการอีกแต่หนูคงจำพี่ไม่ได้แล้วและพี่ก็คงจำหนูไม่ได้เช่นกัน.....ขอให้พี่โชคดี มีลูกค้าเยอะ ๆ เจอแต่ลูกค้าดีๆ และเพื่อนร่วมถนนดีๆ ค่ะ....
ประสบการณ์ดี ๆ กับ TAXI โดนใจ
เป็นประสบการณ์จากการใช้บริการรถ TAXI ค่ะ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 ก.ย. 56 (แหะ ๆ ความรู้สึกช้า เพิ่งนึกได้ว่าน่าจะมาแชร์ให้คนอื่น ๆ ฟังบ้าง)
ซึ่ง จขก. มีความจำเป็นต้องใช้บริการ TAXI เนื่องจาก ต้องไปประชุม ณ โรงแรมเดอะทวิล ทาวเวอร์ (ไปกี่ทีก็จำไม่ได้)
อีกทั้ง ที่ตั้งของโรงแรม ไม่ใช่เส้นทางบริการของ รถไฟลอยฟ้า และรถไฟฟ้าใต้ดิน
TAXI จึงเป็นทางที่ต้องเลือกของ จขก. ค่ะ
จขก. เรียกใช้บริการรถ TAXI คันนั้นเมื่อวันที่ 21 ก.ย. 56 เป็นวันเสาร์ เวลาประมาณ 10.00 น. ตรงสถานีรถไฟฟ้าราชเทวี
คนขับอายุน่าจะประมาณ 40 กว่า ๆ ค่ะ บอก TAXI ว่าจะไปโรงแรมเดอะทวิล ทาวเวอร์ แล้วขึ้นไปนั่งเบาะหลังวางมาดเป็นคุณนายเลยค่ะ ไม่กล้าบอก TAXI ว่าไปโรงแรมไม่ถูก ตั้งใจว่าไม่ชวนคุยด้วย (ปกติ เราเป็นช่างพูด จนเกือบจะกลายเป็นเพ้อเจ้อ....อันนี้เพื่อนบอก )
กลัวเจอ TAXI บ้าการเมืองค่ะ ไม่อยากต้องแก้ปัญหาตามที่เพื่อน ๆ ในพันทิพย์แนะนำ 555555555
แต่ ๆๆๆ.. มันมีสาเหตุให้เราต้องคุยกันค่ะ เพราะระหว่างที่รถเรากำลังเคลื่อนตัวออก มีรถเก๋งป้ายแดงบีบแตรไล่รถของเรา
ทั้ง ๆ ที่วันนั้นถนนค่อนข้างโล่ง เพราะเป็นวันเสาร์ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะมาบีบแต่ไล่ทำไม...
TAXI เลยพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงปกติ ไม่มีทีท่าว่าหรือว่าน้ำเสียงที่ไม่พอใจเลยนะคะ ประมาณว่า เดี่ยวนี้ ความเจริญทางด้านวัตถุพุ่งปรี๊ด
แต่ความเจริญทางด้านจิตใจของคนกลับลดน้อยลง
อึ้งค่ะ....อุตส่าห์ตั้งใจว่าจะเงียบ เมื่อ TAXI ชวนคุย เข้าทางเลยค่ะ ผสมโรงไปด้วยเลย ว่าเห็นด้วย แล้วก็แสดงตัวตนของเราออกมาเลยค่ะ ไม่แอ๊บแล้ว....คุยกะแท็กซี่ยังกะรู้จักกันมาซัก 20 ปี
สาระสำคัญที่เราคุยกับ TAXI นั้น มีประมาณว่า “สำหรับเค้า ใครอยากปาดหน้า ปาดไปเลย ใครรีบก็แซงไปก่อน เค้ากลัวจิตใจคนสมัยนี้ อะไรที่ยอมได้ก็ยอมๆ กันไป ไม่อยากมีเรื่อง กลัวผิดใจกันเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วคู่กรณีชักปืนออกมายิงตายมันไม่คุ้ม แล้วยังบอกว่า ไม่อยากให้คนเรามุ่งพัฒนาเฉพาะวัตถุ จนหลงลืมพัฒนาจิตใจ อยากให้ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงมาใช้ในชีวิต ที่สำคัญ เค้าบอกว่า ไม่อยากให้คนสมัยนี้ติดโทรศัพท์ให้มาก เพราะที่เคยเจอคือ ผู้โดยสารขึ้นรถแท็กซี่แล้ว ไม่สนใจอะไรเลย... นั่งปุ๊บ...เปิดปั๊บ..แล้วก็จิ้มแต่มือถือ เค้าบอกว่ามันไม่ปลอดภัย ทำให้การระวังตัวต่าง ๆ ลดลง เค้าบอกหลายครั้งที่เค้าเห็นคนข้ามถนนไปจิ้มโทรศัพท์ไป ไม่ระวังรถเลย มันอันตรายมาก” (โชคดีที่เราใช้โทรศัพท์รุ่นที่ใช้เฉพาะ โทรออกกับรับสายเข้า เนื่องจาก เป็นคนโลว์เทคโนโลยี)
อึ้งอีกรอบ.......เมื่อถึงโรงแรมเดอะทวิล ทาวเวอร์ ค่ารถ 43 บาท (จำแม่นเลยค่ะ) เรายื่นเอาแบงค์ 50 มาถือไว้ ตั้งใจเลยค่ะว่าไม่เอาตังค์ทอน ชอบคนขับ (ปกติเราไม่ยอมค่ะ.......งก) คนขับหันมาบอกโดยยังไม่เห็นเงินที่เราถือนะคะ ว่า 40 บาทก็พอ ซึ่งเมื่อเรายื่นเงินให้บอกคนขับว่า หนูให้พี่ 50 บาท ไม่ต้องทอนหนูชอบพี่ พี่โดนใจหนูอย่างแรง เค้าไม่ยอมค่ะ เค้าบอกว่าจะเอา 40 บาท ก็พอแล้ว
แล้วเค้ารีบทอนเงิน 10 บาทให้เราเลยค่ะ เรา ขอบคุณเค้าไปหลายครั้งมาก ลงจากรถแล้วพยายามจดจำเลขทะเบียนรถ
แต่จำไม่ได้ (เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีค่ะ) จำได้แต่เป็นรถแท็กซี่สีชมพู.......
ลงจากรถเข้าห้องประชุมแล้วยังรู้สึกประทับใจมากมายค่ะ.....ประทับใจแนวคิดของคนขับและการปฏิบัติตัวต่อผู้โดยสาร.......อยากให้ทุกครั้งที่ใช้บริการรถแท็กซี่ได้เจอคนขับแบบนี้ ซึ่งมันคงเป็นไปไม่ได้...เราเพราะคนเรามีหลายประเภท
อยากให้ผู้โดยสารที่ต้องใช้บริการรถแท็กซี่รู้ว่า เมื่อนั่งบนรถ หรืออยู่ในที่สาธารณะ ให้พยายามสนใจสิ่งรอบข้างมากกว่ามือถือในมือคุณ
สุดท้าย......อยากฝากไปถึงพี่คนขับแท็กซี่ ที่อาจจะไม่มีโอกาสได้ใช้บริการพี่อีก....หรือ...ไม่แน่...หากวาสนาเราต้องกัน.....อาจจะได้ใช้บริการอีกแต่หนูคงจำพี่ไม่ได้แล้วและพี่ก็คงจำหนูไม่ได้เช่นกัน.....ขอให้พี่โชคดี มีลูกค้าเยอะ ๆ เจอแต่ลูกค้าดีๆ และเพื่อนร่วมถนนดีๆ ค่ะ....