เข้ามาส่องๆ เรื่องราวเพื่อนๆ ในพันทิพมาเยอะ แต่เพิ่งสมัครล็อคอินได้สัปดาห์กว่าๆ
วันนี้มาขอแบ่งปันเรื่องราวของตัวเองบ้าง เมื่อตอนแอ๊ดมิทเมื่อเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา
(ปัจจุบันอายุ 35 ปี แต่งงานและมีลูกสาวแล้ว 1 คน อายุ 7 ขวบ)
เริ่มเรื่องเลยหล่ะกันนะคะ เรื่องราวมันอาจยาวซักนิด แต่อยากให้อ่านกันค่ะ
เราเป็นคนมีประจำเดือนมามาก ต้องใช้ผ้าอนามัยแผ่นใหญ่เท่านั้น
ขนาดว่าใหญ่แล้วแต่ก็ยังหลุดรอดผ้าอนามัยทุกที และก็มีปวดท้องประจำเดือนด้วย
เดือนกันยายน 2555 มีการตรวจสุขภาพประจำปีของบริษัท ตรวจพบมีภาวะโลหิตจาง คำแนะนำคือตรวจว่าเป็นธารัสซีเมียหรือไม่
(ตรวจพบมา 2 ปีแต่เรายังคงเฉยๆ และเฉย)
จนกระทั่งเดือนเมษายน 2556 เรามีตกขาวมามาก ชนิดเรียกว่าใส่แคร์ฟรีก็ยังทะลักทะล้น
เลยไปพบคุณหมอที่เคยฝากท้องและคลอดลูก
คุณหมอตรวจภายในและอัลตร้าซาวด์เจอเนื้องอกในมดลูก เราไม่ได้ถามคุณหมอว่าขนาดเท่าไหร่
คุณหมอถามว่าเราหายไปไหนมา ไม่เห็นมาหาหมอ เราบอกแกมเล่นๆ ว่า ก็หนูไมไ่ด้เป็นอะไรนี่ เลยไมไ่ด้มาหาหมอ
หมอบอกครั้งสุดท้ายที่เจอเรา มีเนื้องอกแล้วแต่ก้อนเล็ก ไม่คิดว่ามันจะเจริญเติบโตได้เร็วขนาดนี้
ณหมอนัดตรวจติดตามความเคลื่อนไหวอีกทีในเดือนกรกฎาคม
ขนาดรู้ว่าตัวเองเป็นเนื้องอก ยังหัวเราะคิกคักๆ คุยกับหมอเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
(สำหรับเราคิดว่าเนื้องอกเป็นเรื่องธรรมชาติที่ใครๆ ก็เป็นกัน อิอิ)
**ตอนนั้นยังคิดอยู่เลยว่า ถ้ามาพบหมออีกครั้งแล้วหมอให้ผ่าตัด จะบอกหมอว่าให้รอถึงปีใหม่ก่อนได้มั้ย
เพราะเพิ่งจะย้ายประกันสังคมไปรพ. อื่นเมื่อต้นปีนี้เอง สมัครประกันสังคมที่นี่รพ. นี้มาเกือบ 10 ปีแต่ไม่ได้ใช้บริการเลย
ส่วนใหญ่ที่มาจะจ่ายเงินสดแล้วเอาไปเบิกค่ารักษาพยาบาลที่บริษัทเอา**
จริงๆ รู้ตัวก่อนแล้วว่าตัวเอง
น่าจะเป็นเนื้องอก เพราะตอนเช้าๆ หลังตื่นนอน
จะรู้สึกว่าหน้าท้องจะตึงๆ เอามือลูบที่ท้องจะพบกับลูกที่ลอยนูนดันขึ้นมาบนหน้าท้อง
และอาการทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาตั้งแต่ต้น มันช่าย.....เลย
(ที่คิดว่าตัวเองเป็นเพราะเซริ์จข้อมูลจากเน็ตและถามกูรูที่เคยเป็นและถูกผ่าตัดเนื้องอกมาแล้ว)
อาการที่เราเป็นเหมือนเค้าเด๊ะทุกประการ
แต่หารู้ไม่ว่าไอ้ทุกอย่างที่เราคิดว่ามันปกติ และเฉยเมยกับมันมาเรื่อยๆ มันเกือบคร่าชีวิตเราไปจากครอบครัว
ผ่าตัดเนื้องอกมดลูก(จากเรื่องเล็กจนกลายเป็นเรื่องใหญ่จนเกือบไม่รอด)
วันนี้มาขอแบ่งปันเรื่องราวของตัวเองบ้าง เมื่อตอนแอ๊ดมิทเมื่อเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา
(ปัจจุบันอายุ 35 ปี แต่งงานและมีลูกสาวแล้ว 1 คน อายุ 7 ขวบ)
เริ่มเรื่องเลยหล่ะกันนะคะ เรื่องราวมันอาจยาวซักนิด แต่อยากให้อ่านกันค่ะ
เราเป็นคนมีประจำเดือนมามาก ต้องใช้ผ้าอนามัยแผ่นใหญ่เท่านั้น
ขนาดว่าใหญ่แล้วแต่ก็ยังหลุดรอดผ้าอนามัยทุกที และก็มีปวดท้องประจำเดือนด้วย
เดือนกันยายน 2555 มีการตรวจสุขภาพประจำปีของบริษัท ตรวจพบมีภาวะโลหิตจาง คำแนะนำคือตรวจว่าเป็นธารัสซีเมียหรือไม่
(ตรวจพบมา 2 ปีแต่เรายังคงเฉยๆ และเฉย)
จนกระทั่งเดือนเมษายน 2556 เรามีตกขาวมามาก ชนิดเรียกว่าใส่แคร์ฟรีก็ยังทะลักทะล้น
เลยไปพบคุณหมอที่เคยฝากท้องและคลอดลูก
คุณหมอตรวจภายในและอัลตร้าซาวด์เจอเนื้องอกในมดลูก เราไม่ได้ถามคุณหมอว่าขนาดเท่าไหร่
คุณหมอถามว่าเราหายไปไหนมา ไม่เห็นมาหาหมอ เราบอกแกมเล่นๆ ว่า ก็หนูไมไ่ด้เป็นอะไรนี่ เลยไมไ่ด้มาหาหมอ
หมอบอกครั้งสุดท้ายที่เจอเรา มีเนื้องอกแล้วแต่ก้อนเล็ก ไม่คิดว่ามันจะเจริญเติบโตได้เร็วขนาดนี้
ณหมอนัดตรวจติดตามความเคลื่อนไหวอีกทีในเดือนกรกฎาคม
ขนาดรู้ว่าตัวเองเป็นเนื้องอก ยังหัวเราะคิกคักๆ คุยกับหมอเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
(สำหรับเราคิดว่าเนื้องอกเป็นเรื่องธรรมชาติที่ใครๆ ก็เป็นกัน อิอิ)
**ตอนนั้นยังคิดอยู่เลยว่า ถ้ามาพบหมออีกครั้งแล้วหมอให้ผ่าตัด จะบอกหมอว่าให้รอถึงปีใหม่ก่อนได้มั้ย
เพราะเพิ่งจะย้ายประกันสังคมไปรพ. อื่นเมื่อต้นปีนี้เอง สมัครประกันสังคมที่นี่รพ. นี้มาเกือบ 10 ปีแต่ไม่ได้ใช้บริการเลย
ส่วนใหญ่ที่มาจะจ่ายเงินสดแล้วเอาไปเบิกค่ารักษาพยาบาลที่บริษัทเอา**
จริงๆ รู้ตัวก่อนแล้วว่าตัวเองน่าจะเป็นเนื้องอก เพราะตอนเช้าๆ หลังตื่นนอน
จะรู้สึกว่าหน้าท้องจะตึงๆ เอามือลูบที่ท้องจะพบกับลูกที่ลอยนูนดันขึ้นมาบนหน้าท้อง
และอาการทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาตั้งแต่ต้น มันช่าย.....เลย
(ที่คิดว่าตัวเองเป็นเพราะเซริ์จข้อมูลจากเน็ตและถามกูรูที่เคยเป็นและถูกผ่าตัดเนื้องอกมาแล้ว)
อาการที่เราเป็นเหมือนเค้าเด๊ะทุกประการ
แต่หารู้ไม่ว่าไอ้ทุกอย่างที่เราคิดว่ามันปกติ และเฉยเมยกับมันมาเรื่อยๆ มันเกือบคร่าชีวิตเราไปจากครอบครัว