เขื่อนแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างเดียวหรือ
ปัญหาน้ำท่วมกำลังเป็นปัญหาทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนกันทั่วหน้า เกือบทั่วประเทศทั้งภาคเหนือภาคอีสานภาคกลางภาคตะวันออกและภาคใต้ เรียกกันว่าเดือดร้อนกันทั่วหน้า
แต่ตอนนี้มีข่าวการคัดค้านสร้างเขื่อนแม่วงก์โดยอ้างว่าไม่สามารถป้องกันน้ำท่วมได้ และจะทำลายป่าไม้และสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่น้ำจะท่วม โดยเฉพาะเสือ นกยูง อีกประเด็นหนึ่งคือรัฐบาลยังไม่ได้ทำศึกษา EHIA คือยังไม่ได้ศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติและสุขภาพ
กลุ่มคนประท้วงการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ (ส่วนใหญ่จะเป็นพวกเอ็นจีโอและคนนอกพื้นที่) จะอ้างถึงป่าที่จะถูกน้ำท่วมจากการทำเขื่อน และสัตว์เช่นเสือ นกยูง และอื่น ๆ ที่เป็นที่อยู่ของสัตว์ป่าเหล่านั้น โดยให้ความสำคัญกับป่าและสัตว์ และยังทำลายการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ
ส่วนกลุ่มที่สนับสนุนให้สร้างเขื่อนแม่วงก์ (ส่วนใหญ่จะเป็นชาวบ้านในพื้นที่) บอกว่าเขื่อนแม่วงก์จะช่วยป้องกันน้ำท่วมที่เกินขึ้นทุก ๆ ปีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และทำให้เกิดความเดือดร้อน ทำลายพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้าน และในหน้าแล้งก็ไม่มีน้ำใช้ เมื่อสร้างเขื่อนแล้วยังสามารถเก็บกักน้ำไว้ใช้ทางการเกษตร และทำให้เกิดการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
โดยสรุปจะเห็นความเห็นที่แตกต่างกันทั้งสองกลุ่มมองต่างมุมกัน ฝ่ายค้านมองไปที่ป่าและสัตว์ป่า ฝ่ายสนับสนุนมองถึงความเดือดร้อนและประโยชน์ของการสร้างเขื่อน
ในความเห็นส่วนตัวของผมสนับสนุนการสร้างเขื่อนเหมือนเหตุผลของชาวบ้าน ส่วนผลกระทบที่ฝ่ายคัดค้านนั้นก็ไม่กระทบมากมายอย่างที่พูด ในส่วนที่เป็นป่าจะถูกนำน้ำจะท่วมไม่มากขึ้นอยู่กับความสูงของสันเขื่อน ส่วนป่าไม่นั้นส่วนใหญ่ก็ไม่ใช้ป่าที่อุดมสมบูรณ์ส่วนมากจะเป็นป่าไม้เบญจพรรณ ส่วนเรื่องสัตว์ป่าโดยเฉพาะเสือที่ฝ่ายคัดค้านอ้างถึงมากที่สุด สำหรับเรื่องนี้ยิ่งไม่น่าเป็นห่วงเพราะเขื่อนแม่วงก์อยู่ติดกับป่าสงวนหลายแห่งเสือพวกนี้ก็สามารถย้ายถิ่นไปอยู่ที่ป่าอื่นได้ สัตว์อีกพวกหนึ่งคือนกยูงซึ่งไม่ทราบว่ามีจำนวนกี่ตัวอาจถูกน้ำท่วมตายหรือบางตัวก็อาจหนีน้ำไปอยู่ที่อื่นได้ และเราอาจจะจับไปปล่อยที่อื่นก็ทำได้ แต่เมื่อเทียบกับผลที่ได้รับจากการสร้างเขื่อนผมว่าคุมค้ามากกว่านกยูงที่ต้องตายไป เพราะเขื่อนจะเกิดประโยชน์แก่ประชาชนไปอีกชั่วลูกชั่วหลาน
ปัญหาเขื่อนแม่วงก์
ปัญหาน้ำท่วมกำลังเป็นปัญหาทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนกันทั่วหน้า เกือบทั่วประเทศทั้งภาคเหนือภาคอีสานภาคกลางภาคตะวันออกและภาคใต้ เรียกกันว่าเดือดร้อนกันทั่วหน้า
แต่ตอนนี้มีข่าวการคัดค้านสร้างเขื่อนแม่วงก์โดยอ้างว่าไม่สามารถป้องกันน้ำท่วมได้ และจะทำลายป่าไม้และสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่น้ำจะท่วม โดยเฉพาะเสือ นกยูง อีกประเด็นหนึ่งคือรัฐบาลยังไม่ได้ทำศึกษา EHIA คือยังไม่ได้ศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติและสุขภาพ
กลุ่มคนประท้วงการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ (ส่วนใหญ่จะเป็นพวกเอ็นจีโอและคนนอกพื้นที่) จะอ้างถึงป่าที่จะถูกน้ำท่วมจากการทำเขื่อน และสัตว์เช่นเสือ นกยูง และอื่น ๆ ที่เป็นที่อยู่ของสัตว์ป่าเหล่านั้น โดยให้ความสำคัญกับป่าและสัตว์ และยังทำลายการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ
ส่วนกลุ่มที่สนับสนุนให้สร้างเขื่อนแม่วงก์ (ส่วนใหญ่จะเป็นชาวบ้านในพื้นที่) บอกว่าเขื่อนแม่วงก์จะช่วยป้องกันน้ำท่วมที่เกินขึ้นทุก ๆ ปีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และทำให้เกิดความเดือดร้อน ทำลายพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้าน และในหน้าแล้งก็ไม่มีน้ำใช้ เมื่อสร้างเขื่อนแล้วยังสามารถเก็บกักน้ำไว้ใช้ทางการเกษตร และทำให้เกิดการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
โดยสรุปจะเห็นความเห็นที่แตกต่างกันทั้งสองกลุ่มมองต่างมุมกัน ฝ่ายค้านมองไปที่ป่าและสัตว์ป่า ฝ่ายสนับสนุนมองถึงความเดือดร้อนและประโยชน์ของการสร้างเขื่อน
ในความเห็นส่วนตัวของผมสนับสนุนการสร้างเขื่อนเหมือนเหตุผลของชาวบ้าน ส่วนผลกระทบที่ฝ่ายคัดค้านนั้นก็ไม่กระทบมากมายอย่างที่พูด ในส่วนที่เป็นป่าจะถูกนำน้ำจะท่วมไม่มากขึ้นอยู่กับความสูงของสันเขื่อน ส่วนป่าไม่นั้นส่วนใหญ่ก็ไม่ใช้ป่าที่อุดมสมบูรณ์ส่วนมากจะเป็นป่าไม้เบญจพรรณ ส่วนเรื่องสัตว์ป่าโดยเฉพาะเสือที่ฝ่ายคัดค้านอ้างถึงมากที่สุด สำหรับเรื่องนี้ยิ่งไม่น่าเป็นห่วงเพราะเขื่อนแม่วงก์อยู่ติดกับป่าสงวนหลายแห่งเสือพวกนี้ก็สามารถย้ายถิ่นไปอยู่ที่ป่าอื่นได้ สัตว์อีกพวกหนึ่งคือนกยูงซึ่งไม่ทราบว่ามีจำนวนกี่ตัวอาจถูกน้ำท่วมตายหรือบางตัวก็อาจหนีน้ำไปอยู่ที่อื่นได้ และเราอาจจะจับไปปล่อยที่อื่นก็ทำได้ แต่เมื่อเทียบกับผลที่ได้รับจากการสร้างเขื่อนผมว่าคุมค้ามากกว่านกยูงที่ต้องตายไป เพราะเขื่อนจะเกิดประโยชน์แก่ประชาชนไปอีกชั่วลูกชั่วหลาน