อันเนื่องมาจากกาเมสุมิจฉาจาร
เนื่องจากผมได้เห็นกระทู้ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาความสัมพันธ์ทางเพศบ่อยๆ หลายครั้งที่มีผู้แสดงความเห็นและอ้างถึงศีลที่เนื่องด้วย “กาเมสุมิจฉาจาร” และมีผู้ตั้งข้อสงสัยมากว่า อย่างไหนเรียกว่า กาเมสุมิจฉาจาร บ้างก็บอกว่าผู้ชายมีภรรยาแล้ว มีสัมพันธ์กับหญิงอื่นเป็นกาเมสุมิจฉาจาร อันน่าจะคลาดเคลื่อนจากพระพุทธโอวาทที่มีมาในพระไตรปิฎกอยู่ในบางกรณี
จึงขอแสดงความเห็นประกอบหลักฐานในพระไตรปิฎกและอรรถกถา ดังนี้
จาก พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์
พระพุทธเจ้าตรัสว่า
กาเมสุ มิจฺฉาจารี โข ปน โหติ ยา ตา มาตุรกฺขิตา ปิตุรกฺขิตา มาตาปิตุรกฺขิตา ภาตุรกฺขิตา ภคินิรกฺขิตา าติรกฺขิตา โคตฺตรกฺขิตา ธมฺมรกฺขิตา สสฺสามิกา สปริทณฺฑา อนฺตมโส มาลาคุฬปริกฺขิตฺตาปิ ตถารูปาสุ จาริตฺต อาปชฺชิตา โหติ
แปลว่า
เป็นผู้ประพฤติผิดในกามทั้งหลาย คือ ถึงความสมสู่ในพวกหญิงที่มารดารักษา ที่บิดา
รักษา ที่มารดาและบิดารักษา ที่พี่น้องชายรักษา ที่พี่น้องสาวรักษา ที่ญาติรักษา ที่โคตรรักษา ที่ธรรมรักษา ที่มีสามี ที่กฏหมายคุ้มครอง ที่สุดแม้หญิงที่เขาคล้องแล้วด้วยพวงมาลัย (หญิงที่เขาหมั้นไว้)
พระพุทธโอวาทนี้กำหนดชัดเจน หมายเอาความสมสู่ในเฉพาะพวกหญิงทั้งหลายดังกล่าวข้างต้นเท่านั้น ไม่ได้ตรัสถึงชายลักษณะต่างๆ ทำนองเดียวกัน เช่น ชายที่มารดารักษา ที่บิดารักษา ฯลฯ
ก็สอนกันเอง ยอมรับกันเอง แล้วจะมาโวยวายอะไรครับ
เนื่องจากผมได้เห็นกระทู้ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาความสัมพันธ์ทางเพศบ่อยๆ หลายครั้งที่มีผู้แสดงความเห็นและอ้างถึงศีลที่เนื่องด้วย “กาเมสุมิจฉาจาร” และมีผู้ตั้งข้อสงสัยมากว่า อย่างไหนเรียกว่า กาเมสุมิจฉาจาร บ้างก็บอกว่าผู้ชายมีภรรยาแล้ว มีสัมพันธ์กับหญิงอื่นเป็นกาเมสุมิจฉาจาร อันน่าจะคลาดเคลื่อนจากพระพุทธโอวาทที่มีมาในพระไตรปิฎกอยู่ในบางกรณี
จึงขอแสดงความเห็นประกอบหลักฐานในพระไตรปิฎกและอรรถกถา ดังนี้
จาก พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์
พระพุทธเจ้าตรัสว่า
กาเมสุ มิจฺฉาจารี โข ปน โหติ ยา ตา มาตุรกฺขิตา ปิตุรกฺขิตา มาตาปิตุรกฺขิตา ภาตุรกฺขิตา ภคินิรกฺขิตา าติรกฺขิตา โคตฺตรกฺขิตา ธมฺมรกฺขิตา สสฺสามิกา สปริทณฺฑา อนฺตมโส มาลาคุฬปริกฺขิตฺตาปิ ตถารูปาสุ จาริตฺต อาปชฺชิตา โหติ
แปลว่า
เป็นผู้ประพฤติผิดในกามทั้งหลาย คือ ถึงความสมสู่ในพวกหญิงที่มารดารักษา ที่บิดา
รักษา ที่มารดาและบิดารักษา ที่พี่น้องชายรักษา ที่พี่น้องสาวรักษา ที่ญาติรักษา ที่โคตรรักษา ที่ธรรมรักษา ที่มีสามี ที่กฏหมายคุ้มครอง ที่สุดแม้หญิงที่เขาคล้องแล้วด้วยพวงมาลัย (หญิงที่เขาหมั้นไว้)
พระพุทธโอวาทนี้กำหนดชัดเจน หมายเอาความสมสู่ในเฉพาะพวกหญิงทั้งหลายดังกล่าวข้างต้นเท่านั้น ไม่ได้ตรัสถึงชายลักษณะต่างๆ ทำนองเดียวกัน เช่น ชายที่มารดารักษา ที่บิดารักษา ฯลฯ