กระทู้แตกประเด็นมาจาก http://ppantip.com/topic/31016701/comment44-4

อรุณสวัสดิ์ครับ  คุณปลื้ม  คุณธราธิป  เฮียเอ็นโด P_ปรัชญา คุณหน่อง คุณหยงอัน   คุณm-ko อ.หวานใจกัปตัน  คุณDriverblue
คุณไผ่หวานจัง คุณumineko คุณเต่าหยวนเปียว คุณอมหุ้นแล้วยิ้ม คุณคนน่ารักที่อยากรวย   คุณหมอนัมซาน  คุณเรือนลำใย  คุณC_yada  คุณพ่อน้องไอซ์ คุณAQUA คุณแอ่นแอ๊น   คุณAttention Please  คุณ Mali_Mama คุณถามฟ้า_ไม่ตอบ คุณ AQUA  คุณมั่วมั่วกันไป คุณมดพัทยา คุณสมชาย บางพลี คุณฒ-อ่อนแอ  คุณ P_ปรัชญา คุณไผ่หวานจัง น้องNai1515  คุณyai-cho  คุณ ปลิงไทยก้าวไกลไประดับโลก  คุณ :::GANTZ:::  คุณ PeterMc  คุณrestart  คุณมะยมขม คุณ ลองถ่าย คุณXceed Abb  คุณBIRTH_JA  คุณต็อตโตะจัง คุณสาวหน้านิ่ง ตาดุ คุณหอยทากตัวน้อย  คุณTCJ  คุณตุ๊กตาสวย คุณMaximum Changmin คุณM011 คุณhappy-lucky  คุณข้าวสวยจัสมิน คุณ WJB  .. และเพื่อนสมาขิกคุยโขมงที่รักทุกท่านครับ  

ขอให้โชคดีในการลงทุนทุกท่านครับ
ขออนุญาตเปิดกระทู้พูดคุยสนทนากันประสาพี่ๆน้องๆกัน

ดาวโจนส์ร่วง 49.71 จุด นักลงทุนยังกังวลเฟดชะลอ QE


ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 กันยายน 2556) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,401.38 จุด ลดลง 49.71 จุด หรือ -0.32% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,765.29 จุด ลดลง 9.44 จุด หรือ -0.25% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,701.84 จุด ลดลง 8.07 จุด หรือ -0.47%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเพดานหนี้สินของรัฐบาลสหรัฐ หลังจากนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์กล่าวว่า คณะกรรมการเฟดมีมติอย่างเฉียดฉิวที่จะไม่ลดวงเงินในการประชุมเมื่อวันที่ 17-18 กันยายนที่ผ่านมา และคาดว่าในการประชุมเดือนตุลาคมนี้ อาจจะมีการปรับลดขนาด QE ลงเล็กน้อย

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เฟดคนอื่นๆก็ได้ออกมาแสดงความเห็นเช่นกันว่า เฟดยังคงมีแนวโน้มอย่างมากที่จะปรับลดมาตรการ QE ตราบใดที่เศรษฐกิจยังคงปรับตัวดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เนื่องจากตลาดได้รับแรงหนุนจากรายงานของ เอชเอสบีซี โฮลดิงส์ที่ระดับว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้นแตะ 51.2 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน จาก 50.1 ในเดือนส.ค. ส่งสัญญาณเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวต่อเนื่อง

ทองปิดร่วง$5.5 ซิตี้กรุ๊ปมองแนวโน้มขาลง


ทองปิดร่วง 5.5 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,327 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังซิตี้กรุ๊ปมองแนวโน้ม "ขาลง" คาดสิ้นปีมีโอกาสร่วงแตะ 1,250 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 5.5 ดอลลาร์ หรือ 0.41% ปิดที่ 1,327 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำร่วงลงหลังจากซิตี้กรุ๊ปได้แสดงความคิดเห็นในรายงานล่าสุดว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจเดินหน้าใช้มาตรการ QE นั้น จะช่วยหนุนตลาดทองคำแค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น และสัญญาทองคำยังคงมีแนวโน้มขาลง พร้อมกับคาดการณ์ว่าราคาทองอาจร่วงลงต่ำกว่าระดับ 1,250 ดอลลาร์/ออนซ์ก่อนสิ้นปีนี้ เนื่องจากคาดว่าข้อมูลเศรษฐกิจจะส่งสัญญาณแข็งแกร่งขึ้น

ขณะที่มอร์แกน สแตนลีย์ คาดว่าราคาทองคำจะอยู่ที่ 1,200 -1,350 ดอลลาร์ในปีหน้า ก่อนที่จะมีแนวโน้มปรับตัวลง และโกลด์แมน แซคส์ คาดว่าสัญญาทองคำจะร่วงลงไปอยู่ต่ำกว่าระดับ 1,000 ดอลลาร์ในปีหน้า

สัญญาทองคำร่วงลงต่อเนื่องจากวันศุกร์ หลังจากนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลงในการประชุมเดือนต.ค.หลังจากที่ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ราคาทองพุ่งขึ้นถึง 4.5% จากการที่เฟดมีมติคงโครงการซื้อพันธบัตรวงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือนต่อไปหลังเสร็จสิ้นการประชุมระหว่างวันที่ 17-18 ก.ย.

น้ำมันปิดร่วง$1.16 คลายกังวลปัญหาอุปทาน


น้ำมันปิดร่วง 1.16 ดอลลาร์ อยู่ที่ระดับ 103.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังคลายกังวลทางอุปทานในตะวันออกกลาง

ราคาน้ำมันดิ่งลงแรง หลังนักลงทุนคลายกังวลต่อความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่อาจส่งผลกระทบต่ออุปทานทางพลังงาน สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐ งวดส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 1.16 ดอลลาร์ ปิดที่ 103.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.06 ดอลลาร์ ปิดที่ 108.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล