หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมเวลาใช้งานสมาร์ทโฟน Android หรือแม้กระทั่งแท็ปเล็ต แล้วรู้สึกว่า ช้า หน่วง อืด พาลจะด่าแบรนด์ผู้ผลิตว่าห่วย

แต่รู้ไหมว่า อาการหน่วง อืด ช้า เกิดจากการจัดสรรทรัพยากรของระบบที่ไม่มีประสิทธิภาพ หากเทียบก็เหมือนกับการใช้งาน Windows บนคอมพิวเตอร์ ที่เกิดอาการช้า อืด เมื่อใช้งานไปนานๆ เพราะไม่ได้จัดการเคลียร์แรม แอพที่รันนั้นจะต้องเคลียร์แรม และการเปิดแอพบน Android หากเราไม่ใช้งาน ก็จะเป็นการพักการทำงานไว้ แต่ยังไม่ได้ปิดการทำงานจริงๆ ตรงนี้ทำให้หลายคนเสียค่าใช้บริการ data เพราะการปิดแอพไม่สนิทนั่นเอง

การทำงานแบบ Multi-Tasking บน Android นั้น การปิดโปรแกรม ไม่ใช่การกดปุ่ม Home แล้วจะปิด เพราะมันเป็นเพียงการพักแอพไว้ด้านหลัง (Background) เท่านั้น หากจะปิดแอพ จะต้องกดปุ่ม Back ไปเรื่อยๆ จนแอพสอบถามเราว่าต้องการปิดแอพหรือไม่

อีกวิธีในการจัดการแอพบน Android คือการ Kill Task เพื่อปิดแอพที่เราไม่ได้ใช้งาน คล้ายกับ Task Manager บน Windows อีกวิธีคือการ Force Stop แอพ เพื่อปิดแอพในกรณีที่แอพไม่สามารถปิดได้ด้วยวิธีปกติ เพราะมันยังกินแรมอยู่นั่นเอง หรือทำงานแบบ backgroud หรือถ้าเจอแอพที่เราไม่ได้ใช้งานก็จัดการลบซะ

ส่วนตัวผมมองว่า การใช้งาน Android ควรจะเข้าใจในความเป็น OS นี้ จะต้องทำการ Factory Reset เป็นประจำ คล้ายกับการลงวินโดวส์ใหม่ แต่ข้อมูลจะหายหมด จะต้องใช้แอพ Backup ข้อมูลทั้งหมดไว้ก่อน สำหรับผมใช้การเสียบมือถือเข้าคอม แล้วทำการ Import รูปภาพเข้าไปยังคอมพิวเตอร์ จากนั้นทำการ Factory Reset

การเน้นลูกเล่น Widget หรือ Live Wallpaper ต่างก็มีผลกับการทำงานของตัวเครื่อง เพราะดึงการใช้งานหน่วยความจำด้วย และด้วยเอ็ฟเฟ็กต์มากมาย อย่างเช่นการแสดงผล Live Wallpaper ก็มีส่วน อีกทั้งสิ้นเปลืองแบตเตอรี่ด้วย

ข้อมูลจาก http://gplay.in.th/2013/09/why-android-too-slow-and-lag/