เมื่อประมาณสมัยมัธยม 3-4 ปีที่แล้ว ได้ดูอนิเมชั่นเรื่อง Legend of The Guardians: The Owls of Ga Hoole แล้วรู้สึกว่า หูยยยยยทำไมนกพันธ์นี้สวยงามจัง นกอะไรเนี่ยไปหาข้อมูล อ้าว....นกแสกที่ชอบเป็นตำนานบ้านเราเองหรอเนี่ยยย แต่เรื่องแค่นี้หยุดความคลั่งไคล้ต่อนกพันธ์นี้ของผมไม่ได้หรอก
ไม่รู้ว่าช้าไปเกี่ยวกับนกตระกูลนี้ไปหรือเปล่าที่จะเขียนเอาตอนนี้ แต่ไม่เป็นไรบางคนอาจจะส่วนน้อยที่ยังมีความเชื่อเรื่องนกผี นกยมทูตพวกนี้อยู่ แต่แค่อยากจะมาบอกว่าเจ้านกตัวเนี้ย น่ารักและน่าเกรงขามไปพร้อมๆกันเลยนะ(สำหรับผมน่ะนะ)
Family Tytonidae
วงศ์นี้มี3ประเภท
1.นกแสก
2.นกแสกแดง
3.นกแสกทุ่งหญ้า
ปัจจุบันนกแสกจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตอนนี้กลายเป็นนกหายากไปซะแล้วT^T
ลักษณะของนกแสก
ขนาดตัวปานกลางถึงใหญ่ มีใบหน้าคล้ายรูปหัวใจสีขาว(อ๊ายยย นกแห่งความรัก) มีขอบสีน้ำตาล-น้ำตาลเข้ม ตาคล้ำสีน้ำตาลแดง ปีกยาว คอสั้น หางสั้น ตรงล่างปีกกับข้างล่างลำตัวเป็นสีน้ำตาลอ่อนออกไปทางขาว มีจุดสีน้ำตาลและสีเทาอยู่ทั่วลำตัว บนลำตัวเป็นมีสีเหลืองทองเข้ม และมีจุดสีน้ำตาลเข้ม ปลายนิ้วเป็นกรงเล็บ จงอยปากและกรงเล็บค่อนข้างแข็งแรง ส่วนใหญ่เพศเมียจะตัวใหญ่ว่าเพศผู้เล็กน้อย
ลักษณะนิสัย
นกแสกมักออกหากินตอนเวลากลางคืน รักสงบ ไม่มีนิสัยดุร้ายและก้าวร้าว จึงชอบอาศัยอยู่ที่เงียบไร้ผู้คน เช่นบ้านร้าง วัดร้าง ป่าช้า โพรงไม้ หรือสถานที่เงียบๆ
การล่าและอาหาร
โปรดปรานที่สุดคือหนู นกแสกกินสัตว์ขนาดเล็ก แมลง หรือบางครั้งก็กินกระทั่งซากสัตว์ โฉบเหยื่ออย่างเงียบกริบและรวดเร็ว ไร้เสียงกรีดร้องใดๆของเหยื่อเมื่อตกอยู่ในกรงเล็บของ Barn Owl เจี๊ยกกกกกก! เวอร์ไป- - อย่างไรก็ดีนกแสกเป็นนกที่มีปราสาทหูและตาดีมาก จึงคล่องแคล่วว่องไวพอสมควร
ความเชื่อเกี่ยวกับนกแสก
นกแสกนับว่าเป็นนกจำพวกนกเค้าแมวที่อาจนับได้ว่าใกล้ชิดกับมนุษย์มากที่สุด ด้วยความที่มีถิ่นอาศัยใกล้หรืออยู่ในชุมชนของมนุษย์ จึงทำให้มีความเชื่อในบางวัฒนธรรมว่า เป็นนกที่ส่งสัญญาณเตือนถึงความตาย เช่น ในความเชื่อของไทย เชื่อว่า หากนกแสกบินข้ามหลังคาบ้านผู้ใดหรือไปเกาะที่หลังคาบ้านใคร หรือส่งเสียงร้องด้วย จะต้องมีบุคคลในที่แห่งนั้นถึงแก่ความตาย จึงทำให้เชื่อกันว่าเป็นนกผีหรือนกปีศาจ
ด้วยลักษณะนิสัยอินดี้ รักสงบ ชอบที่เงียบๆ ทำตัวลับๆด้วยละมั้งจึงทำให้นกตัวนี้นั้นน่าลึกลับ!!! ก็แค่ความเชื่อนะครับอย่าไปทำร้ายมันนะ
ประโยชน์ของนกแสก
ในการวิจัยในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทีมนักวิชาการใช้เวลา 4 ปี เพื่อสร้างรังนกแสกจำนวน 15 รัง 2 ปีต่อมาประชากรนกแสกเพิ่มอย่างรวดเร็ว จึงสร้างรังเพิ่มเป็น 154 รัง พบว่านกแสกประมาณ 300 ตัว สามารถกำจัดหนูได้ประมาณ 210,000 ตัวต่อปี หรือนกแสก 1 ตัว จะกินหนู 1-2 ตัวต่อคืน หรือประมาณ 350-700 ตัวต่อปี ซึ่งการกำจัดหนูจำนวนนี้จะต้องใช้สารเคมีออกฤทธิ์ช้าแบบก้อนขี้ผึ้งสำเร็จรูป รวมทั้งค่าแรงคน จะใช้เงินทุนประมาณ 700-1,400 บาท พูดง่ายๆ ก็คือนกแสก 1 ตัว จะช่วยให้ชาวสวนประหยัดเงินทุนได้ 700-1,400 บาทต่อปีนั่นเอง
แน่นอนว่าการสูญเสียนกแสก 1 ตัวก็เท่ากับเพิ่มปริมาณศัตรูพืชอย่างหนูจำนวน 700 ตัว
จริงๆแล้วก็อยากได้มาเลี้ยงสักตัวนะแหม๋ เคยไปต่างจังหวัดแล้วมีนกแสกมาร้องชาวบ้านจัดทีมไล่ล่าทั้งปืนผาหน้าไม้เต็มไปหมด เฮ้อออออหน่ายใจจริงๆ จะไปทำมันทำไมT^T
แหล่งที่มา :
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=501525 ,
http://lms.thaicyberu.go.th/officialtcu/main/advcourse/presentstu/course/ww526/tmmyuri2007/tmmyuri2007-web2/contents/birds.htm ,
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%81 ,
http://www.greenworld.or.th/columnist/green-news/2090
"Family Tytonidae" นกแสกที่คนไทยนั้นกลัวนัก กลัวหนา....
เมื่อประมาณสมัยมัธยม 3-4 ปีที่แล้ว ได้ดูอนิเมชั่นเรื่อง Legend of The Guardians: The Owls of Ga Hoole แล้วรู้สึกว่า หูยยยยยทำไมนกพันธ์นี้สวยงามจัง นกอะไรเนี่ยไปหาข้อมูล อ้าว....นกแสกที่ชอบเป็นตำนานบ้านเราเองหรอเนี่ยยย แต่เรื่องแค่นี้หยุดความคลั่งไคล้ต่อนกพันธ์นี้ของผมไม่ได้หรอก
ไม่รู้ว่าช้าไปเกี่ยวกับนกตระกูลนี้ไปหรือเปล่าที่จะเขียนเอาตอนนี้ แต่ไม่เป็นไรบางคนอาจจะส่วนน้อยที่ยังมีความเชื่อเรื่องนกผี นกยมทูตพวกนี้อยู่ แต่แค่อยากจะมาบอกว่าเจ้านกตัวเนี้ย น่ารักและน่าเกรงขามไปพร้อมๆกันเลยนะ(สำหรับผมน่ะนะ)
Family Tytonidae
วงศ์นี้มี3ประเภท
1.นกแสก
2.นกแสกแดง
3.นกแสกทุ่งหญ้า
ปัจจุบันนกแสกจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตอนนี้กลายเป็นนกหายากไปซะแล้วT^T
ลักษณะของนกแสก
ขนาดตัวปานกลางถึงใหญ่ มีใบหน้าคล้ายรูปหัวใจสีขาว(อ๊ายยย นกแห่งความรัก) มีขอบสีน้ำตาล-น้ำตาลเข้ม ตาคล้ำสีน้ำตาลแดง ปีกยาว คอสั้น หางสั้น ตรงล่างปีกกับข้างล่างลำตัวเป็นสีน้ำตาลอ่อนออกไปทางขาว มีจุดสีน้ำตาลและสีเทาอยู่ทั่วลำตัว บนลำตัวเป็นมีสีเหลืองทองเข้ม และมีจุดสีน้ำตาลเข้ม ปลายนิ้วเป็นกรงเล็บ จงอยปากและกรงเล็บค่อนข้างแข็งแรง ส่วนใหญ่เพศเมียจะตัวใหญ่ว่าเพศผู้เล็กน้อย
ลักษณะนิสัย
นกแสกมักออกหากินตอนเวลากลางคืน รักสงบ ไม่มีนิสัยดุร้ายและก้าวร้าว จึงชอบอาศัยอยู่ที่เงียบไร้ผู้คน เช่นบ้านร้าง วัดร้าง ป่าช้า โพรงไม้ หรือสถานที่เงียบๆ
การล่าและอาหาร
โปรดปรานที่สุดคือหนู นกแสกกินสัตว์ขนาดเล็ก แมลง หรือบางครั้งก็กินกระทั่งซากสัตว์ โฉบเหยื่ออย่างเงียบกริบและรวดเร็ว ไร้เสียงกรีดร้องใดๆของเหยื่อเมื่อตกอยู่ในกรงเล็บของ Barn Owl เจี๊ยกกกกกก! เวอร์ไป- - อย่างไรก็ดีนกแสกเป็นนกที่มีปราสาทหูและตาดีมาก จึงคล่องแคล่วว่องไวพอสมควร
ความเชื่อเกี่ยวกับนกแสก
นกแสกนับว่าเป็นนกจำพวกนกเค้าแมวที่อาจนับได้ว่าใกล้ชิดกับมนุษย์มากที่สุด ด้วยความที่มีถิ่นอาศัยใกล้หรืออยู่ในชุมชนของมนุษย์ จึงทำให้มีความเชื่อในบางวัฒนธรรมว่า เป็นนกที่ส่งสัญญาณเตือนถึงความตาย เช่น ในความเชื่อของไทย เชื่อว่า หากนกแสกบินข้ามหลังคาบ้านผู้ใดหรือไปเกาะที่หลังคาบ้านใคร หรือส่งเสียงร้องด้วย จะต้องมีบุคคลในที่แห่งนั้นถึงแก่ความตาย จึงทำให้เชื่อกันว่าเป็นนกผีหรือนกปีศาจ
ด้วยลักษณะนิสัยอินดี้ รักสงบ ชอบที่เงียบๆ ทำตัวลับๆด้วยละมั้งจึงทำให้นกตัวนี้นั้นน่าลึกลับ!!! ก็แค่ความเชื่อนะครับอย่าไปทำร้ายมันนะ
ประโยชน์ของนกแสก
ในการวิจัยในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทีมนักวิชาการใช้เวลา 4 ปี เพื่อสร้างรังนกแสกจำนวน 15 รัง 2 ปีต่อมาประชากรนกแสกเพิ่มอย่างรวดเร็ว จึงสร้างรังเพิ่มเป็น 154 รัง พบว่านกแสกประมาณ 300 ตัว สามารถกำจัดหนูได้ประมาณ 210,000 ตัวต่อปี หรือนกแสก 1 ตัว จะกินหนู 1-2 ตัวต่อคืน หรือประมาณ 350-700 ตัวต่อปี ซึ่งการกำจัดหนูจำนวนนี้จะต้องใช้สารเคมีออกฤทธิ์ช้าแบบก้อนขี้ผึ้งสำเร็จรูป รวมทั้งค่าแรงคน จะใช้เงินทุนประมาณ 700-1,400 บาท พูดง่ายๆ ก็คือนกแสก 1 ตัว จะช่วยให้ชาวสวนประหยัดเงินทุนได้ 700-1,400 บาทต่อปีนั่นเอง
แน่นอนว่าการสูญเสียนกแสก 1 ตัวก็เท่ากับเพิ่มปริมาณศัตรูพืชอย่างหนูจำนวน 700 ตัว
จริงๆแล้วก็อยากได้มาเลี้ยงสักตัวนะแหม๋ เคยไปต่างจังหวัดแล้วมีนกแสกมาร้องชาวบ้านจัดทีมไล่ล่าทั้งปืนผาหน้าไม้เต็มไปหมด เฮ้อออออหน่ายใจจริงๆ จะไปทำมันทำไมT^T
แหล่งที่มา : http://www.oknation.net/blog/print.php?id=501525 ,http://lms.thaicyberu.go.th/officialtcu/main/advcourse/presentstu/course/ww526/tmmyuri2007/tmmyuri2007-web2/contents/birds.htm ,http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%81 ,http://www.greenworld.or.th/columnist/green-news/2090