จขกท เพิ่งมีโอกาสได้ดู The great gatsby ตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวังอะไรไว้เลย เพราะชื่อเรื่องบอกตรงๆมันดูปัญญาอ่อน เหมือนหนังเด็กๆ หนังน่ารักเรื่องนึง ก็กะดูๆจบๆไป

แต่ภายใต้ชื่อหนังที่ไม่ค่อยสื่ออะไรเลยนั้น หนังความยาวเกือบสองชั่วโมงครึ่งเรื่องนี้ค่อยๆถ่ายทอดมุมมองของความรักที่ยิ่งใหญ่ของผู้ชายคนนึงที่มีต่อผู้ญอีกคน ได้อย่างแยบยลและยิ่งใหญ่ราวกับหนังแฟนตาซีผจญภัย

พล๊อตเรื่องไม่มีอะไรน่าแปลกใหม่เลย แต่กลับเป็นสิ่งที่เราได้เจอในละครหลังข่าวทั่วๆไป
หนังดำเนินเรื่องในยุคยุโรปสมัยเก่า เรื่องเริ่มจากพระเอก ได้เจอกับ Gatsby
และ Gatsby หลงรักสาวคนนึงที่มีครอบครัวอยู่แล้ว ก็หาทางแย่ง โดยมีพระเอกเป็นตัวช่วยและเป็นคนคอยเล่าเรื่อง
ตัว Gatsby เองมีชีวิตวัยเด็กที่รันทดและยากจน แต่ต่อมาก็ถีบตัวเองจนรวย  พล๊อตเรื่องมันมีแค่นี้จริงๆ

แต่การเล่าเรื่องของหนังที่ถ่ายทอดออกมามันมีอะไรที่สุดยอดและไม่ใช่หนังโรแมนติกดราม่าเลย การถ่ายทำ ภาพและเสียงประกอบ ราวกับดูหนังแฟนตาซี มันดูมีเสน่ห์ ยิ่งใหญ่ อลังการและชวนติดตามมาก

หนังค่อยๆเผยอารมณ์พีคขึ้นไปเรื่อยๆ จากที่หนังเล่าเรื่องมาทีละนิดๆ ให้เราอินไปกับความวิลิศสมาหราของฉาก ของการใช้ชีวิตของ Gatsby

แต่เชื่อหรือไม่ชีวิตของ Gatsby ที่ดูยิ่งใหญ่อลังการ ดูน่าอิจฉา แต่หนังแอบใส่อารมณ์เปลี่ยวเหงา น่าสงสาร แกมสิ้นหวังไว้ให้คนดูรู้สึกว่าในก้นบึ้งของชายหนุ่มคนนี้มันช่างน่าสงสารมากๆ

ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน อะไรที่เราคิดว่าสวยหรู บางทีเบื้องหลังอาจไม่เป็นเช่นนั้น

ปล  ดูจบแล้วทึ่งและรู้สึกว่าฝรั่งนี่เค้าทำหนังออกมาได้ละเมียดละไม อลังการ และสื่ออารมณ์ได้ถึงใจจริงๆ ชอบครับ เป็นหนังโรแมนติกดราม่าที่ชอบที่สุดเลยในรอบปีนี้ รู้สึกเหมือนดูหนังรักที่เหมือนได้ดูหนังแฟนตาซีไปด้วยในตัว