รมช.พาณิชย์โชว์ห่วยครับ ไม่มีความรู้เหมาะสมกับตำแหน่งจริงๆ -*-

จากข่าวไทยรัฐตามลิงค์นี้ http://m.thairath.co.th/content/eco/370575

รบกวนอ่านข่าวก่อนนะครับ
____
“ณัฐวุฒิ” โชว์กึ๋นแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานภาคอุตสาหกรรม หนุนใช้แรงงานผู้ขังต้อง 2.7 แสนคนทั่วประเทศ ย้ำลดต้นทุนการผลิตด้านค่าแรง เหตุจ่ายแค่วันละ 200 บาท หนำซ้ำยังสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างอนาคตให้ผู้ต้องขัง...

เมื่อวันที่ 18 ก.ย. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ ได้หารือกับกรมราชทัณฑ์ เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานให้กับภาคอุตสาหกรรมโดยใช้แรงงานของผู้ต้องขังผลิตสินค้า และลดต้นทุนการผลิตให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม 16 กลุ่มที่ใช้แรงงานเข้มข้น หรือใช้แรงงานจำนวนมาก เช่น รองเท้า เสื้อผ้า เครื่องประดับ ฯลฯ ซึ่งกรมราชทัณฑ์เห็นด้วย และพร้อมให้ความร่วมมือ โดยจะคิดค่าตอบแทนวันละ 200 บาท สำหรับแรงงานไร้ฝีมือ ต่ำกว่าค่าจ้างขั้นต่ำที่คิดอยู่วันละ 300 บาท แต่หากเป็นแรงงานฝีมือก็จะมีค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นอีก

สำหรับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) รายใดต้องการให้รัฐบาลเข้าไปแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานก็แจ้งความจำนงต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าทุกจังหวัด จากนั้นกระทรวงพาณิชย์จะประสานงานกับกรมราชทัณฑ์ ให้ผู้ประกอบการส่งงานเข้าไปให้ผู้ต้องขังในเรือนจำที่อยู่ใกล้สถานประกอบการ เพื่อให้ผู้ต้องขังผลิตสินค้าให้ ซึ่งผู้ประกอบการอาจนำเครื่องมือ และเครื่องจักรที่จำเป็นในการผลิตเข้ามาติดตั้งในเรือนจำ

“ผู้ต้องขังบางคนก็เป็นแรงงานฝีมืออยู่แล้ว เช่น ช่างไม้ ช่างยนต์ ช่างไฟ ก็สามารถทำงานได้ ส่วนผู้ที่ยังไม่มีความชำนาญเฉพาะด้านก็จะให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานเข้ามาช่วย ฝึกอบรม และพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อให้สามารถทำงานได้ตามที่ผู้ประกอบการต้องการ ส่วนการนำเครื่องจักรไปตั้งในเรือนจำนั้น สามารถทำได้ แต่เครื่องไม้เครื่องมืออื่นๆ ก็ต้องแล้วแต่กฎระเบียบของเรือนจำว่าอะไรเอาเข้าไปได้หรือไม่ได้” นายณัฐวุฒิกล่าว

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าว นอกจากจะช่วยแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลน และลดต้นทุนด้านการผลิตของผู้ประกอบการแล้ว ยังเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างโอกาสให้กับผู้ต้องขัง ทำให้สามารถวางแผนชีวิตภายหลังการพ้นโทษ อีกทั้งยังเป็นการลดความเครียดในระหว่างต้องขัง อย่างไรก็ตาม หากผู้ต้องขังคนใดมีฝีมือดี เมื่อพ้นโทษ ผู้ประกอบการก็สามารถจ้างไปทำงานให้ต่อได้.

โดย: ทีมข่าวเศรษฐกิจ

19 กันยายน 2556, 03:00 น.
___

ตามความเห็นของรมช.พาณิชย์ ลักษณะการใช้นักโทษทำงานโดยได้รับค่าแรงน้อยกว่าค่าแรงขั้นต่ำนี่คือการใช้แรงงานบังคับครับ ผิดหลักสิทธิแรงงานระดับร้ายแรง และถ้าส่วนเกี่ยวข้องบ้าจี้รับลูกต่อนี่จะส่งผลกระทบการลงทุนบ้านเราแน่นอน

ถ้าใครตามข่าวคงพอรู้ว่าบ้านเราโดนจับตาเรื่องการค้ามนุษย์อยู่แล้ว(บ้านเราโดนจับตาเรื่องการใช้แรงงานบังคับกลุ่มต่างด้าว ยังไม่โดนเรื่องการใช้แรงงานนักโทษ ณ ตอนนี้ครับ) เราอยู่ในบัญชีเฝ้าระวังการค้ามนุษย์ของสหรัฐในกลุ่ม Tier 2 (ต่ำกว่า Tier 2) และมีความเสี่ยงสูงมากที่จะโดนปรับลงไปอยู่ใน Tier 3 ระดับเดียวกับพม่า ซึ่งถ้าโดนปรับลดชั้นมันจะมีผลกับสิทธิทางการค้าต่างๆที่เราได้จากสหรัฐ ณ ปัจจุบัน

ปัญหาหนักจริงๆคือหากตกไป Tier 3 จริงๆความเสี่ยงสูงสุดในอนาคตคือกฎหมาย Custom Reauthorization ผ่าน ซึ่งถ้ากฎหมายนี้ผ่านผู้นำเข้าสินค้าจากประเทศไทยจะโดนปรับครับ ใช่ครับ ผู้นำเข้าสินค้าจากประเทศไทยไปสหรัฐอเมริกา ผลกระทบที่คาดการณ์ได้ทันทีคือการส่งออกไทยไปอเมริกาจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง กลุ่มที่จะซวยกว่าเพื่อนคืออาหารทะเล เพราะเป็นกลุ่มที่โดน NGO เล่นอยู่ในปัจจุบัน รองลงมาคือกลุ่มที่ใช้แรงงานในการผลิตมาก การ์เมนต์ อาหาร พวกนี้ได้รับผลกระทบแบบเลี่ยงไม่ได้แน่นอนครับเพราะมันจะกลายเป็นต้นทุนของผู้นำเข้าที่สูงขึ้น

ทั้งนี้หน่วยงานเกี่ยวข้องพยายามเต็มที่แล้วที่จะทำให้ไทยออกจากบัญชีเฝ้าระวังการค้ามนุษย์ของสหรัฐ รอบนี้จริงๆเราต้องโดนปรับไปอยู่ Tier 3 แล้วแต่ว่าเรามีแผนที่จะลดปัญหาการค้ามนุษย์ในไทยลงจึงยังได้สิทธิอยู่ในบัญชีเฝ้าระวัง Tier 2 อยู่ เพราะฉะนั้นทางนึงที่รมช.พาณิชย์จะช่วยได้คืออยู่เฉยๆครับ อย่าออกไอเดียสั่วๆที่จะทำลายงานใหญ่ที่รัฐและเอกชนร่วมมือกันอยู่ครับ!!

ป.ล. อันนี้ผมไม่ว่ารัฐบาลนะครับเพราะรู้อยู่ว่าเรื่องนี้พยายามกันเต็มที่แล้ว แต่ขอว่าตัวบุคคลคนเดียวที่อาจทำให้ซวยยกประเทศครับ!!
ป.ล.2 สรุปสั้นๆสำหรับคนที่คิดว่ายาวไปไม่อ่าน ไอเดียของณัฐวุฒิอาจทำลายภาคการส่งออกไทยได้ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่