การเซ็นต์ค้ำประกัน = การยอมรับผิดชอบแทนผู้กู้อย่างเต็มที่ เมื่อผู้กู้ไม่มีปัญญาจ่าย หรือชิ่งหนี
ทำไมบางคน ยังมีภาระหนี้สินอยู่แท้ๆ ถึงได้กล้าไปรับผิดชอบหนี้สินของคนอื่นครับ ผมว่ามันอันตรายมากๆ เช่น
นาย ก ค้ำประกันให้นาย ข
ไม่นาน นาย ข ชิ่งหนีหนี้
นาย ก ไม่ทราบว่านาย ข หนีหนี้
สถาบันการเงินก็ปล่อยให้ดอกเบี้ยมันวิ่งๆไปเกือบ 10 ปี จนใกล้หมดอายุความ ดอกทบต้น แล้วกลายเป็นเงิน 3-4 เท่าของเงินต้น แล้วจึงค่อยมาฟ้องนาย ก ให้จ่ายหนี้ ฟ้องยึดทรัพย์
เคสแบบนี้น่าจะมีเยอะ ผมจึงอยากรู้ว่า ทำไมถึงยังกล้าไปเซนต์ค้ำให้คนอื่นครับ พร้อมที่จะรับผิดชอบหนี้สินแทนคนอื่นทุกบาททุกสตางค์แล้วเหรอ
โดยส่วนตัว ถ้าผมเซนต์ค้ำให้ใคร ผมจะต้องติดตามการจ่ายหนี้ ว่าคนที่ผมค้ำให้นั้น เค้าได้ไปชำระหนี้ทุกๆงวดตรงเวลารึเปล่า ถ้าเค้าไม่มีเงินไปชำระ ผมก็คงต้องไปจ่ายแทนเค้า ดังนั้นคนที่ผมกล้าค้ำให้ก็ต้องเป็นคนในครอบครัว หรือคนที่เคยมีบุญคุณเท่านั้น
แล้วทุกท่านละ ไปเซนต์ค้ำประกันให้เพื่อน ให้ญาติที่ไม่สนิท โดยรับทราบเงื่อนไขการยอมจ่ายหนี้แทนแล้วหรือยังครับ
อยากทราบเหตุผลของคนที่กล้าไปเซ็นต์คำประกันซื้อรถหรือเงินกู้ให้คนอื่น
ทำไมบางคน ยังมีภาระหนี้สินอยู่แท้ๆ ถึงได้กล้าไปรับผิดชอบหนี้สินของคนอื่นครับ ผมว่ามันอันตรายมากๆ เช่น
นาย ก ค้ำประกันให้นาย ข
ไม่นาน นาย ข ชิ่งหนีหนี้
นาย ก ไม่ทราบว่านาย ข หนีหนี้
สถาบันการเงินก็ปล่อยให้ดอกเบี้ยมันวิ่งๆไปเกือบ 10 ปี จนใกล้หมดอายุความ ดอกทบต้น แล้วกลายเป็นเงิน 3-4 เท่าของเงินต้น แล้วจึงค่อยมาฟ้องนาย ก ให้จ่ายหนี้ ฟ้องยึดทรัพย์
เคสแบบนี้น่าจะมีเยอะ ผมจึงอยากรู้ว่า ทำไมถึงยังกล้าไปเซนต์ค้ำให้คนอื่นครับ พร้อมที่จะรับผิดชอบหนี้สินแทนคนอื่นทุกบาททุกสตางค์แล้วเหรอ
โดยส่วนตัว ถ้าผมเซนต์ค้ำให้ใคร ผมจะต้องติดตามการจ่ายหนี้ ว่าคนที่ผมค้ำให้นั้น เค้าได้ไปชำระหนี้ทุกๆงวดตรงเวลารึเปล่า ถ้าเค้าไม่มีเงินไปชำระ ผมก็คงต้องไปจ่ายแทนเค้า ดังนั้นคนที่ผมกล้าค้ำให้ก็ต้องเป็นคนในครอบครัว หรือคนที่เคยมีบุญคุณเท่านั้น
แล้วทุกท่านละ ไปเซนต์ค้ำประกันให้เพื่อน ให้ญาติที่ไม่สนิท โดยรับทราบเงื่อนไขการยอมจ่ายหนี้แทนแล้วหรือยังครับ