"คือหัตถาครองพิภพ"...ความรักของแม่ ที่มีคุณค่าและเสน่หานุภาพ สองมือของแม่ที่สรรปั้นทุกสิ่งอย่างได้เพื่อลูก (พ.ศ.2538)

ความรักของแม่ ที่มีคุณค่าและเสน่หานุภาพ
ที่จะทำให้เลือดในอกเป็นได้ทั้งพระอรหันต์ กษัตริย์ คนดี คนชั่ว คนเลวหรือคนบาป
แต่สุดท้ายทุกชีวิตย่อมพ่ายแพ้แก่คำว่า “ชะตากรรม” หรือ กรรมที่ตามติดกันมาแต่ชาติก่อน
สองมือของแม่ที่สรรปั้นทุกสิ่งอย่างเพื่อลูก แม้จะแลกมาด้วยการกระทำผิดที่ร้ายแรง
ถ้าหากลูกรัก อยู่เป็นสุขสวัสดี ตัวของแม่ก็ข่มตาหลับลงได้เช่นกัน


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



“คือหัตถาครองพิภพ” (ช่อง 7 / พ.ศ.2538)



บทประพันธ์ : น้ำอบ (อิราวดี นวมานนท์)
บทโทรทัศน์ : ศัลยา
กำกับการแสดง : สยาม สังวริบุตร
ผลิตโดย : บริษัท ดาราวีดีโอ จำกัด

เรื่องย่อ :

เรื่องราวเริ่มต้นในรัชสมัยรัชกาลที่ ๖ "สะบันงา" สาวน้อยวัย ๑๖ ถูกนำมามอบให้อยู่รับใช้ “คุณหญิงศรี”...
ภริยาพระราชทานของ “เจ้าพระยาสมิติภูมิ” (หรืออดีตมิสเตอร์สมิทธิ์ ชายชาวอังกฤษผู้เข้ามารับราชการในกรุงสยามตั้งแต่รัชกาลที่ ๕ จนได้รับบรรดาศักดิ์เป็นเจ้าพระยาสมิติภูมิ) คุณหญิงศรีนั้นพอใจสะบันงา ด้วยเห็นว่าเป็นเด็กซื่อและมีแววเฉลียวฉลาด เมื่อน้องชายต่างบิดาของเธอ... “ศุกล”  มีท่าทีว่าชอบพอสาวน้อยเธอก็สนับสนุน แต่ก็ติดอยู่ที่ท่านพระยา สามีของท่านก็พึงพอใจสะบันงาเช่นกัน

ในวันที่ศุกลนัดหมายจะพาสะบันงาหนี พระยาสมิติภูมิได้สั่งให้ลูกน้องจัดการกำจัดศุกลเสีย แต่คุณหญิงศรีซึ่งเพิ่งให้กำเนิดลูกสาวได้ไปเห็นเหตุการณ์เข้า จึงถูกทำร้ายปางตาย และได้รับการช่วยเหลือจาก “นางเมี้ยน” หญิงรับใช้ผู้ภักดี พาไปรักษาตัวจนหายดีแต่ก็กลายเป็นคนวิกลวิการ หน้าตาอัปลักษณ์ไป จึงเกิดเป็นข่าวร่ำลือว่าคุณหญิงศรีนั้นหนีตามน้องชายต่างบิดาไป สะบันงาแม้ไม่เชื่อตามนั้นแต่เธอก็ยังคลางแคลงใจในการหายไปโดยไร้ร่องรอยของศุกล ต่อมานางเมี้ยนได้พาคุณหญิงศรีกลับมาขออาศัยอยู่ที่สวนกล้วยท้ายบ้าน และบอกกับใคร ๆ ว่าคุณหญิงศรีเป็นพี่สาวที่พิการและสติไม่ดี จึงไม่อยากยุ่งกับใคร



สะบันงาได้รับความรักและการยกย่องจากท่านพระยาสมิติภูมิ แต่เธอก็ยังคงเจียมตัว เฝ้าซื่อสัตย์ต่อคุณหญิงศรีอยู่เสมอ ไม่ยอมรับตำแหน่งคุณหญิง ต่อมาเธอก็ให้กำเนิดทายาทให้กับพระยาสมิติภูมิ เป็นหญิงสาม ชายหนึ่ง... “พริ้มเพรา” “แพรวพรรณราย” “พราวพิลาส” และ “พฤกษ์” ตามลำดับ นอกจากนี้ ก่อนที่เธอจะมีบุตรชายคนสุดท้องนั้น แม่เดือนเมียบ่าวอีกคนหนึ่งของท่านพระยาก็ให้กำเนิดบุตรชายหนึ่งคนคือ "พจน์"ในขณะที่ธิดาสาวของคุณหญิงศรี “พริสซิลล่” กลายเป็นเด็กปัญญาอ่อนและถูกฆาตกรรมจนเสียชีวิตในวัยแรกรุ่น

วันหนึ่ง เด็ก ๆ พากันไปเล่นท้ายสวนและขุดพบกระดูกที่บ่งบอกว่าเป็นโครงกระดูกของศุกล เพราะมีแหวนทองเป็นหลักฐาน สะบันงาจึงคาดคั้นถามความกับสามีของเธอ ในขณะที่เธอรู้สึกโล่งใจที่ได้รู้ความจริงว่าที่แท้ศุกลมิได้ผิดสัญญาต่อเธอ เจ้าพระยาก็เกิดอาการโรคหัวใจกำเริบและสิ้นลมจากไปในที่สุด

สะบันงาได้รู้ความจริงว่าคุณหญิงศรียังมีชีวิตอยู่ เธอไปกราบคุณหญิงศรี คุณหญิงก็บอกให้เธอดำรงตำแหน่ง "คุณหญิง" ให้สมภาคภูมิเถิด เพราะเธอต้องทำหน้าที่ในการครองบ้าน ครองคนต่อไป...



ส่วนชะตาชีวิตของลูก ๆ แต่ละคนของสะบันงานั้น แตกต่างกันตามแต่กรรมจะกำหนด...พฤกษ์ถูกพี่ต่างแม่ฆ่า (ท่านพระยาเคยมีเมียบ่าวชื่อ “สังวร” แต่เมื่อเธอท้องก็ถูกคุณหญิงศรีกลั่นแกล้งและขับไล่ออกจากบ้าน เมื่อสังวรคลอดลูกชายหล่อนก็ฝากความแค้นนี้ไว้กับลูกชายเต็มที่ก่อนจะตายจากไปด้วยโรคร้าย เมื่อเติบโตขึ้นเด็กหนุ่มจึงกลับมาที่บ้านเจ้าพระยาแล้วทำการแก้แค้นโดยการจับพฤกษ์ไปทรมานจนเสียชีวิต ส่วนตัวเขาเองก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงตาย)

พริ้มเพรานั้นแม้จะได้ไปร่ำเรียนถึงเมืองนอก แต่เมื่อกลับมาก็หันไปเอาดีทางธรรม ถือศีลบวชชีอยู่ที่วัดป่าในแถบอีสานตลอดชีวิต

แพรวพรรณรายเป็นตัวแทนบิดาไปรับมอบมรดกจาก “ป้าเลดี้แรนดอล”เป็นไร่ชามูลค่ามหาศาลในเมืองดาร์จิลิง ประเทศอินเดีย และพบรักกับผู้จัดการไร่ซึ่งเป็นหลานชายของท่านลอร์ด สามีของป้า

พราวพิลาส มีสัมพันธ์กับ "ศีล" เด็กหนุ่มที่ท่านพระยาอุปการะไว้และให้ดูแลกิจการการค้าของตระกูล ภายหลังความสัมพันธ์นี้กลายเป็นปัญหาใหญ่เพราะศีลนั้นแต่งงานแล้วกับเมขลา...หญิงสาวผู้ทะเยอทะยาน เพื่อนร่วมชั้นของพริ้มเพรา

Cr: Bloggang : แม่ไก่



ขอขอบคุณเจ้าของภาพ และคลิปประกอบในกระทู้ด้วยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่