ปัจจุบันอายุ 33 ปีครับ แต่งงานแล้วยังไม่มีลูก ทำงานใน Law Firm เป็นที่ปรึกษากฎหมายตำแหน่ง Senior Associate งานที่รับผิดชอบก็ทั่วไปเลยครับ ตามที่ลูกค้าต้องการมาปรึกษา บรรยากาศในที่ทำงานโอเคครับ เจ้านายโอเคด้วย อาจมีเจ้าอารมณ์บ้างแต่เฉยๆ ครับ โอกาสขึ้นเป็น partner ก็มี แต่คงเป็นแค่ตำแหน่งครับ ไม่น่าได้มีส่วนรับรู้ตัวเลขทางบัญชีอะไร เพราะแนวธุรกิจครอบครัว (อันนี้ดูจากคนที่เพิ่งขึ้นเป็น partner ครับ) สวัสดิการก็มี

-    เงินเดือนประมาณ 80,000 บาท
-    ค่ารักษาพยาบาล (มีประกันให้)
-    สำรองเลี้ยงชีพ (2%)
-    โบนัส 1 เดือน
-    เบิกค่ารถเฉพาะเวลาเดินทางไปงานลูกความเท่านั้น

ตอนนี้มีข้อเสนอจาก Law Firm ที่ตั้งอยู่ต่างจังหวัดและในต่างประเทศ แต่กำลังจะมาเปิดที่กรุงเทพ เคยไปสัมภาษณ์แล้วกับเจ้าของที่เป็นฝรั่งก็โอเคทุกอย่าง ตกลงรับแล้วเหลือแค่ว่าเราจะเอาหรือเปล่า โดยเงื่อนไขเป็นดังนี้

-    ตำแหน่ง Managing Partner ง่ายๆ เลยคือ เริ่มทำใหม่หมดเลย ตอนนี้เช่า office แล้ว เหลือรอตกแต่งเริ่มดำเนินการเดือนธันวาคมนี้ ระหว่างนี้ต้องหาคนมาช่วย คือ บัญชี เลขา นักกฎหมาย ต้องหาใหม่หมด เหมือนกับว่าเราบริหาร แต่ฝรั่งออกเงินลงทุนให้ทั้งหมด มีวางระบบ IT ทั้งหมด เราเจ้าไปแต่ตัว แล้วบริหารจัดการ หาลูกค้า ไปประชุม สัมนา อะไรพวกนี้ครับ โดยทางฝรั่งก็จะส่งลูกค้ามาให้เราทำเรื่อยๆ แต่งานหลักๆ คงมีงาน marketing ด้วยครับ
-    เงินเดือนประมาณ 100,000 บาท
-    ค่ารักษาพยาบาล (เบิกตามจริง ยังไม่มีประกันให้)
-    ค่า commission 20% ของลูกค้าที่หาได้ ไม่มีโบนัส
-    ในปีที่สองหากทำงานได้ดี ก็มีสิทธิเข้าไปถือหุ้นได้ แล้วกินเงินปันผลเอา
-    ค่าน้ำมัน ค่าที่จอดรถ ค่าโทรศัพท์ (มีโทรศัพท์ให้) ค่าเดินทาง ที่พัก ค่าอาหาร ที่ใช้ในธุรกิจประชุมกับลูกค้า เบิกได้หมด

ถ้าเงื่อนไขแบบนี้ควรย้ายมั้ยครับ แล้วเงินเดือนควรเรียกเท่าไรดี ความยากของที่ใหม่คือเรื่องการหาลูกค้านี่ล่ะครับ เพราะการแข่งขันที่สูงมากครับ แต่ฝรั่งก็บอกทำนองว่าปีแรกไม่ได้ซีเรียสมาก ไม่กำไร ไม่ขาดทุนก็โอเค  คือมองค่อนข้างเข้าใจ เพราะมี law firm อยู่ที่ต่างจังหวัดครับ
โดยส่วนตัวก็เป็นความฝันครับ เพรามีคนลงทุนให้เราจัดการ แต่อีกใจก็ลังเลว่ามันจะมั่นคงมั้ยครับ ขอความเห็นด้วยครับ