หลังการลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่าง พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กับตัวแทนภาคีเครือข่ายเกษตรกรสวนยาง
สวนปาล์ม 16 จังหวัดภาคใต้(ประจวบคีรีขันธ์และเพชรบุรี) ที่ชั้น 2 ศาลา 100 ปี วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
โดยมีตัวแทนเกษตรกรบางส่วนไม่ยอมรับมาตรการการช่วยเหลือของรัฐบาลและไม่ร่วมลงนาม อาทิ ตัวแทนจาก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง สุราษฏร์ธานี และ จ.ตรัง ประกาศเตรียมเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลอีกรอบนั้น

เมื่อวันที่ 15 ก.ย.นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางจังหวัดได้ประเมินสถานการณ์ตลอด
ทุกชั่วโมง พร้อมส่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือผู้นำชุมชนเข้าไปเจรจา เพื่อหาทางออกร่วมกัน ซึ่งทางจังหวัดจะไม่ใช้ความรุนแรง
ส่วนในเรื่องของการรักษาความสงบเรียบร้อยคงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช

ในขณะที่กลุ่มเกษตรกรที่ปิดถนนเอเชีย 41 บริเวณบ้านเตาปูน ต.ทุ่งโพธิ์ อ.จุฬาภรณ์ ได้มีการออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 1 ลงนามโดย
ยอดชาย ดีเจริญ โดยเนื้อหาของแถลงการณ์ระบุ เนื่องด้วยได้มีการชุมนุมปิดถนนที่บ้านตูลและควนหนองหงส์ และไม่มีการตอบรับใด ๆ
ที่เป็นน่าพอใจจากรัฐบาล จึงได้มีการปิดถนนเอเซียบริเวณบ้านเตาปูนอีกครั้ง และขอยืนข้อเสนอดังนี้

1. ราคายางแผ่นดิบ กก.ละ 120 บาท

2. ปาล์มทะลาย กก.ละ 7 บาท

3.ให้นายกรัฐมนตรีเข้าประชุมสภาทุกครั้ง หากไม่ได้ตามคำเรียกร้อง

จะปิดถนนปักหลักการชุมนุมต่อไปเรื่อย ๆ โดยจะไม่มีการไปเจรจาที่ไหนเด็ดขาด ถ้ามีการเจรจาให้มาเจรจาต่อหน้าประชาชน
ที่บริเวณการชุมนุมบ้านเตาปูนเท่านั้น

ทางด้านนายวีรศักดิ์ ปนสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานแขวงการทางนครศรีธรรมราช ที่ 2 นครศรีธรรมราช กล่าวว่า การปิดถนนครั้งนี้
ในขณะนี้มีประชาชนมาชุมนุมประมาณ 500 คน เจ้าหน้าที่ต้องอำนวยความสะดวกในการให้ผู้สัญจรไปมาใช้ทางสำรองซึ่งในส่วนของ
ผู้ที่ใช้ถนนเอเซีย 41 เดินทางขาล่องใต้ เมื่อมาถึงสามแยกสวนผักให้เลี้ยวซ้ายเข้าตัวเมืองนครศรีธรรมราช  ส่วนผู้ที่เดินทางขาขึ้นจาก
จังหวัดพัทลุง มีการปิดถนนบริเวณสี่แยกควนหนองหงส์ เมื่อมาถึงบ้านไม้เสียบ สามารถผ่านเข้าไปทางตัว อ.ชะอวด ก่อนแยกไปทาง
บ้านตูล –บ่อล้อ เข้าตัวเมืองนครศรีธรรมราช หรือเลี้ยวซ้ายที่สี่แยกควนหนองหงษ์ เพื่อเข้าสู่ ต.กะปาง อ.ทุ่งสง ได้.
cr:http://m.dailynews.co.th/thailand/233187