สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 40
ในฐานะที่เกลือกกลั้วกับพนักงานรับใช้บนเครื่องบิน
แต่เป้นคนรับใช้ที่ชายหนุ่มหญิงสาวมากมายอยากเป็น
ก่อนเป็นก็ต้องใช้ความสามารถสมัครเข้าไป
เมื่อได้เป็นก็อาจใช้แต่ความสามารถเรื่องภาษา และหัวใจรักงานบริการ
................
บางคนบอกว่าเป็นแอร์นานๆแล้ว แล้วจะโง่ลง ก็คงใช่และคงไม่ใช่ มันอยู่ที่คนแต่ละคน
งานแบบนี้อาจไม่ค่อยมีหนทางเติบโต และเปลี่ยนสายงานไม่ได้ ก็ใช่อีก
..ย้อนไปแต่แรกเริ่ม คนที่มาสมัครงานนี้ต้องมีความสามารถ...
ฉะนั้น คนเหล่านี้ไม่ใช่คนโง่ ...( ถึงจะทำงาน ที่บางคนเรียกว่างานโง่เพราะไม่ได้ใช้สมอง ทำนานๆจะโง่ลง)
...แต่จากการที่เขาและเธอได้ไปเปิดหูเปิดตายังหลายๆประเทศ ได้สัมผัสสิ่งต่างๆมากมาย
ทำให้เขาและเธอ มีมุมมอง มีความรู้ ที่คนมนุษย์เงินบริษัททั่วไปภายในประเทศไม่ได้สัมผัส
และเขาและเธอเหล่านั้น ก็นำสิ่งที่ได้เรียนรู้ที่เห็นมา มาใช้ประกอบธูรกิจส่วนตัวได้
เงินเดือนอาจน้อย แต่เบี้ยเลี้ยงเยอะ ถ้าไม่ฟุ่มเฟือย
เขาและเธอสามารถเก็บเงินสร้างตัวได้มากมายในเวลาที่รวดเร็วด้วย
แถมสามารถสร้างธูรกิจส่วนตัวไว้รองรับยามเกษียณแบบสบายๆ
..................
แต่บางความเห็นลืมไปมั้งว่า อาชีพอื่นๆทำไปนานๆก็โง่ลงได้
เคยเห็นพนักงานบริษัทแก่ๆ ทำงานแบบไม่รับความรู้ใหม่ๆบ้างไหม
เคยเห็นข้าราชการ เช้าชามเที่ยงสองชาม เย็นสามชามไหม ซังกะตายและขี้เกียจ
พอไม่มีเงินก็ทำตัวเลวรับสินบนไหม
.....................
แค่จะบอกว่า คนจะโง่ ไม่ได้อยู่ที่งานที่ทำอยู่
แต่มันอยู๋ที่สมองและจิตวิญญาณของคนๆนั้น
ว่า มีความใฝ่รู้ในสิ่งใหม่ๆหรือไม่ ถ้ามีเขาก็หาความรู้หาลู่ทางใหม่ๆให้ชีวิต
ถ้าไม่มี พอใจกับที่เป็นอยู่แล้ว เขาก็ไม่ได้โง่ เพียงแต่เขาไม่ไปไหนเท่านั้นเอง
แต่เป้นคนรับใช้ที่ชายหนุ่มหญิงสาวมากมายอยากเป็น
ก่อนเป็นก็ต้องใช้ความสามารถสมัครเข้าไป
เมื่อได้เป็นก็อาจใช้แต่ความสามารถเรื่องภาษา และหัวใจรักงานบริการ
................
บางคนบอกว่าเป็นแอร์นานๆแล้ว แล้วจะโง่ลง ก็คงใช่และคงไม่ใช่ มันอยู่ที่คนแต่ละคน
งานแบบนี้อาจไม่ค่อยมีหนทางเติบโต และเปลี่ยนสายงานไม่ได้ ก็ใช่อีก
..ย้อนไปแต่แรกเริ่ม คนที่มาสมัครงานนี้ต้องมีความสามารถ...
ฉะนั้น คนเหล่านี้ไม่ใช่คนโง่ ...( ถึงจะทำงาน ที่บางคนเรียกว่างานโง่เพราะไม่ได้ใช้สมอง ทำนานๆจะโง่ลง)
...แต่จากการที่เขาและเธอได้ไปเปิดหูเปิดตายังหลายๆประเทศ ได้สัมผัสสิ่งต่างๆมากมาย
ทำให้เขาและเธอ มีมุมมอง มีความรู้ ที่คนมนุษย์เงินบริษัททั่วไปภายในประเทศไม่ได้สัมผัส
และเขาและเธอเหล่านั้น ก็นำสิ่งที่ได้เรียนรู้ที่เห็นมา มาใช้ประกอบธูรกิจส่วนตัวได้
เงินเดือนอาจน้อย แต่เบี้ยเลี้ยงเยอะ ถ้าไม่ฟุ่มเฟือย
เขาและเธอสามารถเก็บเงินสร้างตัวได้มากมายในเวลาที่รวดเร็วด้วย
แถมสามารถสร้างธูรกิจส่วนตัวไว้รองรับยามเกษียณแบบสบายๆ
..................
แต่บางความเห็นลืมไปมั้งว่า อาชีพอื่นๆทำไปนานๆก็โง่ลงได้
เคยเห็นพนักงานบริษัทแก่ๆ ทำงานแบบไม่รับความรู้ใหม่ๆบ้างไหม
เคยเห็นข้าราชการ เช้าชามเที่ยงสองชาม เย็นสามชามไหม ซังกะตายและขี้เกียจ
พอไม่มีเงินก็ทำตัวเลวรับสินบนไหม
.....................
แค่จะบอกว่า คนจะโง่ ไม่ได้อยู่ที่งานที่ทำอยู่
แต่มันอยู๋ที่สมองและจิตวิญญาณของคนๆนั้น
ว่า มีความใฝ่รู้ในสิ่งใหม่ๆหรือไม่ ถ้ามีเขาก็หาความรู้หาลู่ทางใหม่ๆให้ชีวิต
ถ้าไม่มี พอใจกับที่เป็นอยู่แล้ว เขาก็ไม่ได้โง่ เพียงแต่เขาไม่ไปไหนเท่านั้นเอง
ความคิดเห็นที่ 18
สิ่งที่เสียไปคือ ชีวิต สุขภาพ และสมอง
เคยมีคนบอกยิ่งเป็นแอร์ยิ่งโง่ลง หลังจากอายุ 30 ปลายถึง 40 คุณจะโดนเปลี่ยนมาเป็นกราวด์ แล้วไม่มีเบี้ยเดินทางเงินได้หายไปมาก
หลายคนเปลี่ยนงานแต่ติดที่ไม่มีใครรับเพราะยิ่งเป็นแอร์ยิ่งโง่ลงนั้นเป็นเรื่องจริงและค่อยเตือนสติแอร์ทั้งหลายให้ใช้ชีวิตอย่างระวัง เพราะอาชีพนี้ไม่มั่นคง
ในรุ่นเดียวกัน คนที่อายุ 30-40 ปีที่ไม่ได้เป็นแอร์ส่วนใหญ่ตำแหน่งงานเริ่มใหญ่ หลายคนจบโท เอก หลายคนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในอาชีพที่ทำ การย้ายงานของคนเหล่านี้เป็นการย้ายเพื่อการเติบโตที่มากขึ้นหรือบริษัทดึงตัวไป แต่แอร์ไม่ได้เป็นแบบนั้นสำหรับแอร์ที่หางานใหม่ในช่วงนี้ไม่ต่างจาก เด็กจบใหม่ที่มีอายุ 30 กว่าปีแล้วที่ไหนจะรับเข้าไป
จบบัญชี จุฬา เป็นแอร์ แต่ต้องมาขายอาหารตามสั่งตอนแก่มันมีให้เห็นมาแล้ว ใช้ชีวิตอย่างประมาท
ปล. ผมว่าเงินที่ได้น้อยไปด้วยซ้ำกับสิ่งที่เสียไป
เคยมีคนบอกยิ่งเป็นแอร์ยิ่งโง่ลง หลังจากอายุ 30 ปลายถึง 40 คุณจะโดนเปลี่ยนมาเป็นกราวด์ แล้วไม่มีเบี้ยเดินทางเงินได้หายไปมาก
หลายคนเปลี่ยนงานแต่ติดที่ไม่มีใครรับเพราะยิ่งเป็นแอร์ยิ่งโง่ลงนั้นเป็นเรื่องจริงและค่อยเตือนสติแอร์ทั้งหลายให้ใช้ชีวิตอย่างระวัง เพราะอาชีพนี้ไม่มั่นคง
ในรุ่นเดียวกัน คนที่อายุ 30-40 ปีที่ไม่ได้เป็นแอร์ส่วนใหญ่ตำแหน่งงานเริ่มใหญ่ หลายคนจบโท เอก หลายคนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในอาชีพที่ทำ การย้ายงานของคนเหล่านี้เป็นการย้ายเพื่อการเติบโตที่มากขึ้นหรือบริษัทดึงตัวไป แต่แอร์ไม่ได้เป็นแบบนั้นสำหรับแอร์ที่หางานใหม่ในช่วงนี้ไม่ต่างจาก เด็กจบใหม่ที่มีอายุ 30 กว่าปีแล้วที่ไหนจะรับเข้าไป
จบบัญชี จุฬา เป็นแอร์ แต่ต้องมาขายอาหารตามสั่งตอนแก่มันมีให้เห็นมาแล้ว ใช้ชีวิตอย่างประมาท
ปล. ผมว่าเงินที่ได้น้อยไปด้วยซ้ำกับสิ่งที่เสียไป
ความคิดเห็นที่ 19
หนักแบบไหนล่ะครับ
1. แบบน้ำหนัก
-ถาดอาหารแต่ละถาดหนักกว่า 2.5 กก ต้องยกด้วยมือข้างเดียว ส่งสุดแขนให้ ผดส. ที่นั่งที่ในสุด คนละเกือบร้อยที่ต่อเนื่องกัน จนกว่าจะเสร็จ 2ชม.กว่า ถ้ายุโรปก็ไฟล์ละ 2รอบ อยากรู้ลองไปยกลูกเหล็กดูซัก ชม. นะครับ
-กาใส่ ชา กาแฟ นี่ก็เกือบ 2กก. ถือ 2มือ เดืนตลอดทั้งลำ หลายรอบกว่าจะเสร็จ
-รถเข็นหนักๆล้อเล็กๆเข็นขึ้นด้านหน้าขณะที่เครื่องกำลังไต่ระดับ บางทีล้อไม่ตรง เบรคไม่ดี ลำบากกว่ารถเข็นแย่ๆในซุปเปอร์มาเก๊ตเยอะ
-บางทีก็ต้องช่วย ผดส. ยกกระเป๋าขึ้นชั้นวางเหนือที่นั่ง ไม่งั้นเกะกะทางเดินคนอื่น ปกติ นน. ไม่เกิน 7กก. แต่บางคนเหมือนใส่หินมาทั้งกระเป๋าก็มี มาจากบ้านตั้งไกลหิ้วมาได้ พอมาถึงเครื่องบิน ยกไม่ได้ซะแล้ว
2. แบบนอนไม่เป็นเวลา
-บินยุโรปนี่ไฟล์บินประมาณ 12ชม. ลูกเรือแบ่งผลัดนอนคนละครึ่งทาง หักเวลาเสริฟ ไปอีกเกือบ 4 ชม. ได้นอนคนละ 4ชม. แอร์จะเป็นพวกนอนผลัดหลัง คือถ้าเครื่องออกตี1 จะได้นอน 6-7 โมงเช้า ถ้าเครื่องออกตี 5 ขากลับจากยุโรปไฟล์ดึก จะได้เริ่มนอน 10-11โมงเช้า
-กลับบ้านมาพัก 2 วัน ตื่นตีสี่ ไปบินไฟล์เช้า พรุ่งนี้บินไฟล์แขกทั้งคืนไม่ต้องได้นอนกัน
3. แบบเป็นแจ๋วรองรับอารมณ์ ผดส.
4. แบบเครียดตัวไม่อยู่ สามีโซ่หลุด ลูกๆหนีเที่ยว
5. แบบป่วย หาหมอกันไม่ได้หยุดหย่อน
นี่จากที่ผมสังเกตุเอานะ ความจริงน่าจะเยอะกว่านี้อีก
1. แบบน้ำหนัก
-ถาดอาหารแต่ละถาดหนักกว่า 2.5 กก ต้องยกด้วยมือข้างเดียว ส่งสุดแขนให้ ผดส. ที่นั่งที่ในสุด คนละเกือบร้อยที่ต่อเนื่องกัน จนกว่าจะเสร็จ 2ชม.กว่า ถ้ายุโรปก็ไฟล์ละ 2รอบ อยากรู้ลองไปยกลูกเหล็กดูซัก ชม. นะครับ
-กาใส่ ชา กาแฟ นี่ก็เกือบ 2กก. ถือ 2มือ เดืนตลอดทั้งลำ หลายรอบกว่าจะเสร็จ
-รถเข็นหนักๆล้อเล็กๆเข็นขึ้นด้านหน้าขณะที่เครื่องกำลังไต่ระดับ บางทีล้อไม่ตรง เบรคไม่ดี ลำบากกว่ารถเข็นแย่ๆในซุปเปอร์มาเก๊ตเยอะ
-บางทีก็ต้องช่วย ผดส. ยกกระเป๋าขึ้นชั้นวางเหนือที่นั่ง ไม่งั้นเกะกะทางเดินคนอื่น ปกติ นน. ไม่เกิน 7กก. แต่บางคนเหมือนใส่หินมาทั้งกระเป๋าก็มี มาจากบ้านตั้งไกลหิ้วมาได้ พอมาถึงเครื่องบิน ยกไม่ได้ซะแล้ว
2. แบบนอนไม่เป็นเวลา
-บินยุโรปนี่ไฟล์บินประมาณ 12ชม. ลูกเรือแบ่งผลัดนอนคนละครึ่งทาง หักเวลาเสริฟ ไปอีกเกือบ 4 ชม. ได้นอนคนละ 4ชม. แอร์จะเป็นพวกนอนผลัดหลัง คือถ้าเครื่องออกตี1 จะได้นอน 6-7 โมงเช้า ถ้าเครื่องออกตี 5 ขากลับจากยุโรปไฟล์ดึก จะได้เริ่มนอน 10-11โมงเช้า
-กลับบ้านมาพัก 2 วัน ตื่นตีสี่ ไปบินไฟล์เช้า พรุ่งนี้บินไฟล์แขกทั้งคืนไม่ต้องได้นอนกัน
3. แบบเป็นแจ๋วรองรับอารมณ์ ผดส.
4. แบบเครียดตัวไม่อยู่ สามีโซ่หลุด ลูกๆหนีเที่ยว
5. แบบป่วย หาหมอกันไม่ได้หยุดหย่อน
นี่จากที่ผมสังเกตุเอานะ ความจริงน่าจะเยอะกว่านี้อีก
ความคิดเห็นที่ 9
ไปดูแอร์ที่ทำมาเกินห้าปี มีปัญหา ไม่เข่า ก็หมอนรองกระดูก กันทั้งนั้นครับ
อาชีพขายสุขภาพ ถามว่างานหนักมั๊ย เทียบกรรมกร ก็คงไม่หนัก แต่ถ้าเทียบพวกนั่งออฟฟิส หนักกว่าแน่ครับ เดินเสิร์ฟอาหารนี่เป็นชั่วโมง ยังไม่นับว่าระหว่างเสิร์ฟต้องลงน้ำหนักขาเดี๋ยวซ้ายเดี๋ยวขวาเพราะเครื่องมันไม่นิ่ง เสร็จแล้วต้องเข็นรถอาหารหนักๆต่อไปทีละนิดๆ
อากาศบนนั้น เทียบเท่าความสูง 9000 ฟุต ก็เบาบางกว่าข้างล่างมากนัก ออกซิเจนเจือจาง อากาศแสนแห้ง และกินนอนไม่เป็นเวลา
ที่เห็นเฉิดฉายเดินไปมา ก็แค่อยู่ข้างล่าง อยู่ข้างบน เหนื่อยแน่นอนครับ
อาชีพขายสุขภาพ ถามว่างานหนักมั๊ย เทียบกรรมกร ก็คงไม่หนัก แต่ถ้าเทียบพวกนั่งออฟฟิส หนักกว่าแน่ครับ เดินเสิร์ฟอาหารนี่เป็นชั่วโมง ยังไม่นับว่าระหว่างเสิร์ฟต้องลงน้ำหนักขาเดี๋ยวซ้ายเดี๋ยวขวาเพราะเครื่องมันไม่นิ่ง เสร็จแล้วต้องเข็นรถอาหารหนักๆต่อไปทีละนิดๆ
อากาศบนนั้น เทียบเท่าความสูง 9000 ฟุต ก็เบาบางกว่าข้างล่างมากนัก ออกซิเจนเจือจาง อากาศแสนแห้ง และกินนอนไม่เป็นเวลา
ที่เห็นเฉิดฉายเดินไปมา ก็แค่อยู่ข้างล่าง อยู่ข้างบน เหนื่อยแน่นอนครับ
แสดงความคิดเห็น
เป็นแอร์โฮสเตสงานหนักจริงหรือ