รถมอเตอไซด์ 4 จังหวะ เปลี่ยนไปใส่ คาร์บู 2 จังหวะส่วนมากจะวอด

กระทู้คำถาม
รถมอเตอไซด์ 4 จังหวะ เปลี่ยนไปใส่ คาร์บู 2 จังหวะ( คาร์บูลูกชัก) ส่วนมากจะวอด ถ้าเราใส่กรองอากาศไม่ว่าจะเดิมหรือเเต่ง
ถ้ากระเเทกคันเร่ง หรือ เร่งเเบบพรวดพราด ส่วนใหญ่ทำไมมันวอดครับ....(รถเดิมนะครับ)
  ต้องเห็นเปลือยกันมากเลยส่วนใหญ่ อยู่ที่การปรับจูนรึเปล่า....



สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
n-pro จะใส่กรองไม่ใส่กรอง มันก็ทำให้ใช้ได้ ขอให้ไล่นมหนูถูกต้อง  ทำเป็นๆ มันก็ ปรกติคาร์บู มันโดนแวคคัมดูดจากเครื่องยนต์ตลอด  ปัญหาที่เจอมาคือพวกคิดไปเอง ไล่ไม่ลงก็บอกว่าเพราะใส่กรองอากาศ บ้าสิ้นความดี ท่านเล่นใช้นมหนูเบอร์ ใหญ่ กับ รถ สี่จังหวะ มันก็ เกินสิครับ พอถอดกรอง มันก็มีอากาศเข้ามากขึ้น มันก็เริ่มเหมาะสม  เวฟ รุ่นเก่าคาร์บูลูกชักก็ไม่เห็น สำลัก หรือวอด  คนส่วนมาก ฟังแต่ไม่เคยลงมือทำจริง ถ้าทุกอย่างดีพอ ไม่โดนของห่วย
ไล่คาร์บู ลูกชัก มันไม่มีสูตรอะไรมากครับ  
แยกให้ออกก่อนว่า ในคาร์บูมีวงจรการไหล 2 วงจร  คือ วงจรเดินเบา ทำงานช่วง 0-3500 รอบต่อนาที กับ วงจรหลัก ทำงาน 3000- ยันรอบสูงสุด

1. คาร์บูเดิม เบอร์อะไร ก็หาเบอร์ นั้นมาลง  ยกตัวอย่าง ผม ซีบี นมหนูอากาศ 38 นมหนูน้ำมัน 115  ซื้อเอ็นโปรมา มันได้ เบอร์ 42 มา มันจะไม่ท่วมได้ไง  จัดการซะ ด้วย นมหนู อากาศ 38  น้ำมัน 115 ก่อน  
2. วอร์มเครื่องให้ ได้ที่ซัก 5 นาที แล้วเริ่ม  จูน พีค  หมุนลูกบิด ปรับตั้งรอบเครื่องยนต์ให้ เบาสุดแต่ไม่ดับ  หมุนสกรูอากาศ เข้าไปก่อน  สกรูอากาศ จะไปปิดวงจรอากาศในรอบเดินเบา ถึง 3000 รอบต่อนาที   ถ้าคาร์บูปรกติไม่มีรูรั่วตรงไหน หมุนเข้าไปใกล้ๆ จะสุด วงจรจะเกือบถูกปิด เครื่องยนต์จะดับ  ให้หมุนไปแค่จุดที่ไม่ดับ   จากนั้น ให้คลายออกมา เรื่อยๆช้าๆ  รอบเครื่องยนต์จะเริ่มสูงขึ้น  แต่จะมีจุดสูงสุด หากเลยจุดนั้น รอบเครื่องจะต่ำลง  ให้หมุนกลับไปจุดที่สูงสุด  จากนั้นให้บิดลูกบิดสีเหลือง สำหรับตั้งรอบเครื่องยนต์ให้ ต่ำสุดรอบเครื่องต่ำสุดแต่ไม่ดับ  อันนี้เป็นอัน จบ ในการปรับส่วนผสมของไอดีในวงจรเดินเบา   เหตุที่ทำไมเราหมุนแล้ว รอบถึงขึ้นมาก็เพราะ น้ำมันมันไหลมาผสมได้มากขึ้น เมื่อส่วนผสมบาง แรงบิดก็น้อย เครื่องไม่มีแรง พอส่วนผามหนาขึ้น เครื่องยนต์ก็มีแรงบิดดีขึ้น ก็สามารถเอาชนะโหลดตัวเองได้ แต่ พอหนาเกินไปก็ท่วม พาลจะดับ

    ขอสังเกต ถ้านมหนูที่เลือกมา ถูกต้อง สกรูอากาศจะถูกคลายออกมาจากจุดที่ไขเข้าไปสุดในช่วง 1-2 รอบ  ถ้าใช้นมหนูอากาศเล็กไป สกรูอากาศ จะต้องคลายออกมา เกิน 2 รอบ   แต่ถ้าหมุนออกมาแล้วก็ไม่เจอ จุดสูงสุด เป็นไปได้ว่า เลือกมาใหญ่เกิน   ดังนั้น เวลาอ่านสูตร จูนคาร์บู ที่บอกว่าเปิดสกรูอากาศ 1.5 รอบ นั้น ถามว่าถูกไหม ก็บอกว่าถูกครับ ถ้า เป็น เบอร์ที่ถูกเซ็ตมาเหมาะสม  แต่เครื่องยนต์ มันไม่เหมือนกัน ฉะนั้นจูนพีค เอาดีกว่า   อย่าไปยึดติดหลักการที่ได้ยินมา มันมีสกรูให้ปรับก็ปรับไป เกิน 2 รอบก็ไม่เป็นไร ขอให้ ได้ส่วนผสมที่เกิดแรงบิดสูงสุด

3. นมหนูน้ำมัน ทำงานที่รอบกลางยันสูง เอาออกไปขี่ดู แล้ว ไล่รอบเครื่องยนต์ไปเรื่อยๆ ถ้ามันไม่ค่อยเดิน ดูแห้งๆ ไม่ไปต่อ ก็กลับมาเพิ่มนมหนูน้ำมันขึ้น อีกเบอร์ ทำไปเรื่อยๆ จนถึง จุดที่น้ำมันท่วม คือมีอาการสำลักเวลาเปิดคันเร่งกว้างๆ มันจะออกๆ ไปๆ แต่จะ อึกๆ ไม่ไป แต่พอ ปิดคันเร่งลงมานิด ก็ไปต่อได้ เปิดเพิ่มก็สะอึกอีก จุดนี้ น้ำมันท่วมแล้ว ให้ ลดนมหนูลง มา  

สีหัวเทียน ดูได้แค่พยากรณ์เท่านั้น จะให้แม่นก็ต้องใช้ โอทูไวด์แบนด์ จับดู   ถ้าละเอียดอ่อนในการไล่ และช่องทางต่างๆในคาร์บูทำมาดี ไม่โดนปลอม ก็ไล่ได้สบายๆ แต่ให้ พึ่งระวัง นมหนูที่ซื้อมา บ้างที เบอร์เดียวกัน แต่นมหนูกระจอก มันจะเล็กกว่า ดูให้ดีครับ  ใจเย็นๆ  อย่าไปเชื่อว่าต้องถอดกรอง อากาศ ถึงจะไล่ได้  แต่ต้องยอมรับ ว่าถอดกรอง ไล่ได้เยอะมากกว่า ตามอากาศที่เข้าได้มากกว่า

วิธีการนี้ทำได้ อี10 ยัน อี85  ขอให้พิจารณา อัตราส่วนผสม ด้วย  ยิ่งมี แอลกอฮอล์ ผสมเยอะการให้พลังงานมันจะด่ำ ทำให้ เวลาเรา เติมพวกนี้เข้าไป รถท่านจะ มีส่วนผสม บาง ไปโดยปริยาย  ต้องจูนพีคใหม่ พร้อมกับไล่นมหนูน้ำมันใหม่  
ในเคสผม ใช้อี20
ใช้ นมหนูอากาศ 38  จากเดิม ที่เปิดสกรูอากาศ รอบ นิดๆ  ตอนนี้ต้องเปิดไป 2 รอบ  ซึ่งก็ไม่น่าเกลียดอะไรแต่ถ้าจะดี ใส่เบอร์ 40 น่าจะดี แต่เสียดายเงินเลยยังไม่ทำอะไร  นมหนูน้ำมัน ก็ มาที่ 120   ใส่เบอร์เดิม ตือๆ ไม่เดิน  

อี85 ต้องรองแหวนเข็มเร่ง หรือ อาจจะต้องฝนเข็มเร่งช่วย ไม่งั้นไม่มีแรงออกตัว  นมหนูต้องใหญ่กว่า อี 20 พอสมควร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่