อย่างนี้เค้าเรียกว่าความยุติธรรมหรือเปล่าคะ??

สวัสดีค่ะสมาชิกพันทิปทุกท่าน นี่เป็นครั้งแรกในการตั้งกระทู้ของเราค่ะ หลังจากที่คอยติดตามเว็ปพันทิปมานาน
อาจจะยาวซักหน่อยนะคะ เราเป็นเด็กมหาสารคามค่ะเรียนจบ ป.ตรี ก็เข้ามาทำงานที่ กทม.
แต่เรื่องเกิดขึ้นเป็นเรื่องของน้องสาวค่ะ เรื่องเกิดเมื่อปลายปี 2554
น้องสาวของเราเป็นนิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคามค่ะ ตอนนั้นเรียนอยู่ปี 2
น้องขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้านเพื่อไปเรียนในช่วงเช้าแล้วชนกับรถกระบะที่ทางเลี้ยวจะเข้ามหาวิทยาลัย
น้องเราสลบถูกนำตัวส่ง รพ.หมอตรวจพบว่ากระดูกหักทั้งขาและแขนข้างซ้าย แต่สมองไม่ได้รับการกระทบกระเทือน
ต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อดามเหล็กขาและแขนถึงอยู่ 2 ครั้ง รักษาตัวที่ รพ.เกือบเดือนค่ะเราต้องลางานเป็นอาทิตย์เลย
ส่วนรถกระบะที่ชนได้รับความเสียหายเล็กน้อย คือกระโปงหน้าและประตูฝั่งคนขับบุบนิดหน่อย
        ระหว่างที่น้องรักษาตัวที่ รพ.คนที่ขับรถกระบะไม่เคยจะมาเยี่ยมน้องเราเลยค่ะ
จนเราต้องโทรไปหาสองรอบแต่เค้าก็บอกว่าเค้าขายของอยู่ ถ้าว่างแล้วจะมาค่ะ
เค้ามาจริงค่ะ มาครั้งแรกเราไม่เจอเค้าเพราะไปทำเรื่องดร็อปเรียนกับค่าประกันอุบัติเหตุที่มหาวิยาลัย
แต่แม่บอกว่าเค้าซื้อข้าวกล่องมาให้ 1 กล่องและให้เงินน้องประมาณสองหรือสามร้อยนี่แหล่ะ แล้วก็กลับไป
มาครั้งที่สองเราก็ไม่เจอเค้าค่ะ เพราะไปทำเรื่องผ่าตัด แม่บอกว่าเค้าซื้อส้มจี๊ดมาถุงนึง มาแป็บๆ ก็กลับค่ะ
       ตำรวจนัดไกล่เกลี่ย 2 รอบค่ะ ครั้งแรกเค้าบอกว่าจะจ่ายค่าเสียหายให้ 3,000 บาทค่ะ
พี่ตำรวจก็พยายามช่วยพูดเรื่องค่ารักษาพยาบาลกับค่ามนุษยธรรม สัก 20,000-30,000 แต่เค้าก็ไม่ยอมค่ะ
เราก็ไม่ต้องการเงินค่าเสียหายจากเค้าหรอกนะคะ แค่อยากให้เค้าช่วยค่ารักษาพยาบาล
นัดครั้งที่สองก็ตกลงกันไม่ได้ แล้วเค้าก็ไม่ยอมรับว่าขับรถประมาทด้วย เค้าบอกจะให้ประกันจัดการให้
เพราะเค้ามีประกันฯชั้น 1 ของวิริยะฯ ตำรวจทำอะไรเค้าไม่ได้ก็บอกให้น้องเซ็นชื่อยอมรับว่าประมาท
และเสียค่าปรับเพื่อจะส่งฟ้องคดีอาญาเรื่องจะได้จบ เราอยากฟ้องทางแพ่งนะคะแต่ครอบครัวอยากให้เรื่องจบ
น้องเลยเซ็นยอมรับไป (สรุปแล้วคนขับรถกระบะไม่ต้องเสียสักบาทค่ะ)

       ผ่านไปเกือบปี มีหมายศาลส่งมาที่บ้านค่ะ ให้น้องไปเป็นพยานในศาลเพราะอัยการรับเรื่องและส่งฟ้องคนขับรถกระบะ
คนขับรถกระบะพร้อมทนายประกันวิ่งแจ้นมาที่บ้านเราค่ะบอกว่าจะจ่ายให้ 10,000 บาทแล้วยอมความ
แต่เราบอกแม่ว่าให้ศาลท่านตัดสินเถอะ  แต่ตอนนัดสืบพยานเค้าวางเงินไว้ 20,000  ค่ะ ศาลก็เรียกให้น้องไปรับมาเป็นค่าเสียหายค่ะ
ศาลท่านตัดสินให้ลงโทษคนขับรถกระบะ 2 ปี แต่ให้ลงอาญาในข้อหาขับรถประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียทรัพย์

      นึกว่าเรื่องจะจบค่ะ แต่เมื่อประมาณเดือนตุลาคม 2555 มีหมายศาลไปที่บ้าน
โดยบริษัทวิริยะฯ รับมอบอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหาย (ค่าซ่อมรถกระบะ) ประมาณ 25,000 บาท ค่ะ
เราเลยรบกวนพี่ที่ทำงานที่เป็นทนายว่าความให้ค่ะ
นัดไกล่เกลี่ยรอบแรก เมื่อ ก.พ.2556 เราไม่ยอมจ่ายให้ค่ะ เลยนัดสืบพยาน ครั้งแรกทนายประกันฯ บอกว่า ไม่ได้เอาเอกสารมา
เพราะโทรคุยกับแม่แล้วว่าแม่จะจ่ายให้ 5,000 แล้ววันนี้จะมาถอนฟ้องให้แต่แม่บอกว่าไม่เคยคุยกับประกันฯเลย ไม่เคยให้เบอร์โทรด้วย
สรุปศาลเลื่อนนัดค่ะ เราผิดหวังมากเลยค่ะเพราะลางานมากับพี่ทนาย จาก กทม. มาศาลจังหวัดมหาสารคาม นึกว่าครั้งนี้จะจบ
นัดครั้งที่สองเมื่อ มิ.ย.56 สืบพยานเสร็จ ศาลนัดฟังคำพิพากษา 3 ก.ย.56 และสั่งให้ฝ่ายเราจ่ายค่าเสียหาย 6,000 บาท
พร้อมดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่วิริยะฯฟ้อง
        
     เราพร้อมจะจ่ายให้ค่ะ แต่แค่ผิดหวังและไม่เข้าใจว่าทำไมศาลตัดสินให้ฝ่ายเราต้องจ่ายค่าซ่อมรถกระบะคันนั้น
ทั้งๆรถเสียหายเล็กน้อย (กระโปงหน้าและประตูคนขับบุบนึดนึง) แล้วในส่วนคดีอาญาก็ตัดสินว่าประมาทร่วม ลงโทษจำคุกคนขับรถกระบะ
(แต่รอลงอาญา) แต่น้องเราแขน ขาหัก (ปัจจุบันใส่เหล็กดาม) ค่ารักษาพยาบาลเกือบ 2 แสน (ดีนะที่มีบัตร 30 บาทรักษาทุกโรค)
รถจักรยานยนต์พังใช้งานไม่ได้ โน๊ตบุ๊คก็พัง ดร็อปเรียนปีนึง

   ทั้งๆที่เป็นประมาทร่วม น่าจะอิงกับคำพิพากษาในส่วนคดีอาญา คำพิพากษาจึงน่าจะตัดสินให้ต่างฝ่ายต่างรับผิดชอบค่าเสียหายนะคะ

    อย่างนี้เค้าเรียกว่ายุติธรรมเหรอคะ!
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่