วันนี้ผมขอรีวิวเมือง Saint-Guilhem-le-Désert เป็นเมืองเล็กๆในฝรั่งเศสอยู่ทางตอนใต้ของประเทศครับ ดินแดนตรงนี้เป็นหุบเขา ซอกเขาของ Hérault และธรรมชาติที่เป็นหินขรุขระ และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เขายังเรียกที่นี่ว่า ‘The cave of Clamouse’ เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบความน่ารักและคงสถาปัตยกรรมอีกทั้งยังคงความเป็นวิถีชนบท ในฝรั่งเศสไว้ครบถ้วน ขอบอกว่าสถานที่จริงไปแล้วผมตกใจเลยครับมีหลายๆมุมที่ผมคิดว่าต้องมาสัมผัสเองแล้วจะขนลุกซู่แบบผม พอมาถึงที่หมู่บ้านนี้ภาพความเป็นธรรมชาติตลอดสองข้างทางกับหมู่บ้านและวิถีชุมชนลงตัวมากๆครับ
และแถมสะพานข้ามแม่น้ำมายังเมืองนี้วิวสวยจริงๆๆถ้ารถจอดนิ่งๆได้ผมอยากวิ่งลงมายืนถ่ายรูปให้ชมมากๆครับเพราะสวยจริงๆ ผมเชื่อได้ว่าคนที่ชอบความเรียบง่ายและความสงบเมืองนี้เหมาะกับคุณมากๆครับ
เราออกเดินทางจากMontpellierไปทางเมืองSaint-Guilhem-le-Désert ใช้เวลาประมาณ1ชั่วโมงครับ หลายๆคนสงสัยตั้งแต่รีวิวคราวที่แล้วที่ผมพาไปMonacoว่าทำไมผมต้องเข้าๆออกๆเมืองMontpellierเป็นหลัก เพราะผมเรียนปริญญาโท อยู่ที่ UM2 ครับ ระหว่างทางเราก็พบกับธรรมชาติที่สวยงามและตรงหน้าเราอุโมงค์ในภูเขาใช้เวลาในอุโมงค์นี้ประมาณ15นาทีครับก็โผล่ไปอีกฝั่ง
ภาพปากทางหมู่บ้านครับ
นี่ไงครับสะพานข้ามเข้าหมู่บ้าน ของจริงสวยกว่าในรูปอีกครับวิว360องศาของจริง เห็นแล้วชื่นชอบเลยครับ
พอจะมองเห็นด้านหลังผมไหมครับสะพานที่ได้ให้ชมภาพด้านบน เมื่อได้ลงรถก็พยายามหามุมถ่ายทันที เพราะต้นไม้บังอะครับ
และนี่คือหมู่บ้าน Saint Guilhem le Désert
บ่องตงครับเมืองนี้เงียบสงบจริงๆเหมาะกับการมานั่งเล่นนอนเล่นอ่านนังสือหรือนั่งทำงานเงียบๆผู้คนไม่วุ่นวาย มีความลงตัวทางสถาปัตยกรรมและธรรมชาติ ซึ่งทางฝรั่งเศสได้อนุรักษ์หมู่บ้านนี้ไว้เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวถ้ำแบบกุ้ยหลินที่ เมืองจีนเลยครับ ซึ่งผมเคยไปกุ้ยหลินมาแล้วพอมาที่นี่ผมคิดว่าไม่ต่างจากกันเลยครับ เดี๋ยวจะมีภาพให้ชมด้านล่างต่อนะครับถ้ำกุ้ยหลินฝรั่งเศส
สวยงามไหมครับบรรยากาศภายในหมุ่บ้าน
บ้านใครผมก็ไม่ทราบครับพอดีเดินผ่านเห็นต้องเดินขึ้นเนินไปอีก
มีนักวาดภาพของหมู่บ้านวาดภาพมุมมุมหนึ่งในหมู่บ้านวางขายครับแอบถ่ายมา จริงๆเขาติดป้ายเป็นภาษาฝรั่งเศสห้ามถ่าย อิอิ
ผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของหมู่บ้านนี้ครับ
และนี่คือป้ายหน้าทางเข้าถ้ำกุ้ยหลินฝรั่งเศสครับ ซึ่งจริงๆแล้วอยู่ก่อนถึงหมู่บ้านครับ
ความเป็นธรรมชาติของหินงอกหินย้อยในยุโรป ขอบอกสภาพอากาศภายนอกถ้ำ ช่วงนั้น20องศาครับ พอเข้าไปในถ้ำผมต้องหยินเสื้อกันหนาวมาใส่เพราะอุณหภูมิภายใน15องศาครับพอๆกับตอนกลางคืนที่ผมนอนสั่นทุกคืน แต่ขอบอกว่าทางเดินภายในถ้ำดีกว่าที่กุ้ยหลินเมืองจีนเยอะเลยครับ
มีการแสดงแสง สี เสียงภายในถ้ำแบบกุ้ยหลิน เมืองจีนเลยครับ
ภาพที่ถ่ายมาถ่ายได้ในมุมที่กล้องโทรศัพท์ผมสามารถถ่ายได้ครับ เพราะแสง สี เยอะเหลือเกินถ่ายได้ไม่เท่ากล้องถ่ายภาพปกติหรอกครับ
เดินกันจนเหนื่ยแบบที่กุ้ยหลินของจีนเลยครับอยู่ในถ้ำกันประมาณ1ชั่วโมงนิดๆๆ จากอากาศหนาวๆๆเดินกันจนเหงื่อออกหายหนาวเลยทีเดียวเชียว
แม่น้ำที่ไหลผ่านกลางหมู่บ้าน
ตอนแรกผมนึกว่าเมืองล้าง ที่ไหนได้มีคนอยู่ครับอากาศหนาวเขาเลยปิดบ้านนอน ส่วนวัยรุ่นก็ไปเรียนหนังสือในตัวเมือง
เป็นบ้านหลังเดียวที่มีสะพานข้ามแม่น้ำที่ไหลผ่านกลางหมู่บ้านเพื่อต้องเดินเข้าบ้านตนเอง
คุณลุงคนนี้ผมเจอกันตอนเดินเที่ยวในถ้ำครับ เขาเป็นคนฝรั่งเศสพูดอังกฤษไม่ได้เขาอาสาจะไปส่งผมกะเพื่อนอีกคน เพราะรถโดยสารเข้า-ออกเมืองนี้รอนานมากครับกว่าจะมาประมาณชั่วโมงละคัน รถของคุณลงเป็นรถที่เหมือนบ้านในตัวครับมีครัว มีเตียงนอน ห้องน้ำ ทุกอย่างครบ ระหว่างทางผมก็พูดคุยกับคุณลุง ลุงแกบอกว่าแกชอบเที่ยวแกขับรถคู่ใจคันนี้ไปทุกที่ที่แกคิดอยากไปแกเที่ยวมาประมาณ6ปีแล้วหลังจากแกลาออกจากงาน เพราะมีเงินเก็บบั้นปลายชีวิตพอแล้ว แกบอกว่า ณ ตอนนี้ตัวคนเดียวครับโสด เลิกกะภรรยาได้6ปีหลังจากที่แกตัดสินใจออกจากงาน เพราะแกคิดว่าอยากพักแล้ว มีลูกชาย1คน
นี่ครับห้องนอนบนรถคันนี้ของแก มีฮีทเตอร์ มีเครื่องปรับอากาศในตัว ผมถามคุณลุงเหงาไหมครับเที่ยวคนเดียวลุงแกบอกสบายใจดีไม่ต้องกังวนถ้าเที่ยวหลายคนต้องรอกัน บางคนก็ช้า ผมคิดแบบเดียวกับคุณลุงครับเพราะผมเป็นคนโลกส่วนตัวสูงด้วยและก็ไม่ชอบอะไรที่ต้องเชื่องช้าอะครับเลยแบกเป้แบกแพคเกอร์คนเดียวหรือถ้าเพื่อนสนิทอยากไปด้วยผมก็พาไปคนเดียวก็พอแล้วครับ
และแล้วเรื่องระทุกก็เกิดขึ้น เวลาประมาณ5โมงเย็น พวกผมก็รีบมารอรถเมล์เพื่อจะกลับมายังเมืองMontpellierที่ผมอยู่ เรื่องลุ้นระทึกคือ รถเมล์มันไม่มา ปกติที่ฝรั่งเศสเรื่องเวลาเขาตรงเวลามากครับ ทั้งระบบรถไฟ รถราง รถเมล์ เป๊ะครับ แต่คราวนี้ผมสงสัยแต่พอถามคนฝรั่งเศสด้วยกันเขาบอกว่าสงสัยรถติดเพราะเขามารอตั้งแต่4โฒงครึ่ง ผมก็โล่งใจไปเพราะถ้าไม่งั้นไม่รู้จะไปนอนที่ไหน? รถหายากมากครับเพราะเมืองนี้โดยส่วนใหญ่เขาจะขับรถมาเที่ยวกันเอง แหละนี่ก็เป็นอีกเมืองเมืองหนึ่งที่ผมคิดว่าคงมีคนไทยเพียงไม่กี่คนที่ได้ไปครับ เลยนำมารีวิวให้ได้ชมถึงการอนุรักษ์ไว้ซึ่งวิถีชิวิตชุมชนที่หาได้ยากในฝรั่งเศสและในแคว้นHérault
ทิ้งท้ายนิดนึงครับ ขอฝากผลงานประเทศเล็กๆบนเชิงเขาด้วยครับ
http://ppantip.com/topic/30936360
[CR] เที่ยวถ้ำกุ้ยหลินในฝรั่งเศส Saint Guilhem le Désert
และแถมสะพานข้ามแม่น้ำมายังเมืองนี้วิวสวยจริงๆๆถ้ารถจอดนิ่งๆได้ผมอยากวิ่งลงมายืนถ่ายรูปให้ชมมากๆครับเพราะสวยจริงๆ ผมเชื่อได้ว่าคนที่ชอบความเรียบง่ายและความสงบเมืองนี้เหมาะกับคุณมากๆครับ
เราออกเดินทางจากMontpellierไปทางเมืองSaint-Guilhem-le-Désert ใช้เวลาประมาณ1ชั่วโมงครับ หลายๆคนสงสัยตั้งแต่รีวิวคราวที่แล้วที่ผมพาไปMonacoว่าทำไมผมต้องเข้าๆออกๆเมืองMontpellierเป็นหลัก เพราะผมเรียนปริญญาโท อยู่ที่ UM2 ครับ ระหว่างทางเราก็พบกับธรรมชาติที่สวยงามและตรงหน้าเราอุโมงค์ในภูเขาใช้เวลาในอุโมงค์นี้ประมาณ15นาทีครับก็โผล่ไปอีกฝั่ง
ภาพปากทางหมู่บ้านครับ
นี่ไงครับสะพานข้ามเข้าหมู่บ้าน ของจริงสวยกว่าในรูปอีกครับวิว360องศาของจริง เห็นแล้วชื่นชอบเลยครับ
พอจะมองเห็นด้านหลังผมไหมครับสะพานที่ได้ให้ชมภาพด้านบน เมื่อได้ลงรถก็พยายามหามุมถ่ายทันที เพราะต้นไม้บังอะครับ
และนี่คือหมู่บ้าน Saint Guilhem le Désert
บ่องตงครับเมืองนี้เงียบสงบจริงๆเหมาะกับการมานั่งเล่นนอนเล่นอ่านนังสือหรือนั่งทำงานเงียบๆผู้คนไม่วุ่นวาย มีความลงตัวทางสถาปัตยกรรมและธรรมชาติ ซึ่งทางฝรั่งเศสได้อนุรักษ์หมู่บ้านนี้ไว้เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวถ้ำแบบกุ้ยหลินที่ เมืองจีนเลยครับ ซึ่งผมเคยไปกุ้ยหลินมาแล้วพอมาที่นี่ผมคิดว่าไม่ต่างจากกันเลยครับ เดี๋ยวจะมีภาพให้ชมด้านล่างต่อนะครับถ้ำกุ้ยหลินฝรั่งเศส
สวยงามไหมครับบรรยากาศภายในหมุ่บ้าน
บ้านใครผมก็ไม่ทราบครับพอดีเดินผ่านเห็นต้องเดินขึ้นเนินไปอีก
มีนักวาดภาพของหมู่บ้านวาดภาพมุมมุมหนึ่งในหมู่บ้านวางขายครับแอบถ่ายมา จริงๆเขาติดป้ายเป็นภาษาฝรั่งเศสห้ามถ่าย อิอิ
ผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของหมู่บ้านนี้ครับ
และนี่คือป้ายหน้าทางเข้าถ้ำกุ้ยหลินฝรั่งเศสครับ ซึ่งจริงๆแล้วอยู่ก่อนถึงหมู่บ้านครับ
ความเป็นธรรมชาติของหินงอกหินย้อยในยุโรป ขอบอกสภาพอากาศภายนอกถ้ำ ช่วงนั้น20องศาครับ พอเข้าไปในถ้ำผมต้องหยินเสื้อกันหนาวมาใส่เพราะอุณหภูมิภายใน15องศาครับพอๆกับตอนกลางคืนที่ผมนอนสั่นทุกคืน แต่ขอบอกว่าทางเดินภายในถ้ำดีกว่าที่กุ้ยหลินเมืองจีนเยอะเลยครับ
มีการแสดงแสง สี เสียงภายในถ้ำแบบกุ้ยหลิน เมืองจีนเลยครับ
ภาพที่ถ่ายมาถ่ายได้ในมุมที่กล้องโทรศัพท์ผมสามารถถ่ายได้ครับ เพราะแสง สี เยอะเหลือเกินถ่ายได้ไม่เท่ากล้องถ่ายภาพปกติหรอกครับ
เดินกันจนเหนื่ยแบบที่กุ้ยหลินของจีนเลยครับอยู่ในถ้ำกันประมาณ1ชั่วโมงนิดๆๆ จากอากาศหนาวๆๆเดินกันจนเหงื่อออกหายหนาวเลยทีเดียวเชียว
แม่น้ำที่ไหลผ่านกลางหมู่บ้าน
ตอนแรกผมนึกว่าเมืองล้าง ที่ไหนได้มีคนอยู่ครับอากาศหนาวเขาเลยปิดบ้านนอน ส่วนวัยรุ่นก็ไปเรียนหนังสือในตัวเมือง
เป็นบ้านหลังเดียวที่มีสะพานข้ามแม่น้ำที่ไหลผ่านกลางหมู่บ้านเพื่อต้องเดินเข้าบ้านตนเอง
คุณลุงคนนี้ผมเจอกันตอนเดินเที่ยวในถ้ำครับ เขาเป็นคนฝรั่งเศสพูดอังกฤษไม่ได้เขาอาสาจะไปส่งผมกะเพื่อนอีกคน เพราะรถโดยสารเข้า-ออกเมืองนี้รอนานมากครับกว่าจะมาประมาณชั่วโมงละคัน รถของคุณลงเป็นรถที่เหมือนบ้านในตัวครับมีครัว มีเตียงนอน ห้องน้ำ ทุกอย่างครบ ระหว่างทางผมก็พูดคุยกับคุณลุง ลุงแกบอกว่าแกชอบเที่ยวแกขับรถคู่ใจคันนี้ไปทุกที่ที่แกคิดอยากไปแกเที่ยวมาประมาณ6ปีแล้วหลังจากแกลาออกจากงาน เพราะมีเงินเก็บบั้นปลายชีวิตพอแล้ว แกบอกว่า ณ ตอนนี้ตัวคนเดียวครับโสด เลิกกะภรรยาได้6ปีหลังจากที่แกตัดสินใจออกจากงาน เพราะแกคิดว่าอยากพักแล้ว มีลูกชาย1คน
นี่ครับห้องนอนบนรถคันนี้ของแก มีฮีทเตอร์ มีเครื่องปรับอากาศในตัว ผมถามคุณลุงเหงาไหมครับเที่ยวคนเดียวลุงแกบอกสบายใจดีไม่ต้องกังวนถ้าเที่ยวหลายคนต้องรอกัน บางคนก็ช้า ผมคิดแบบเดียวกับคุณลุงครับเพราะผมเป็นคนโลกส่วนตัวสูงด้วยและก็ไม่ชอบอะไรที่ต้องเชื่องช้าอะครับเลยแบกเป้แบกแพคเกอร์คนเดียวหรือถ้าเพื่อนสนิทอยากไปด้วยผมก็พาไปคนเดียวก็พอแล้วครับ
และแล้วเรื่องระทุกก็เกิดขึ้น เวลาประมาณ5โมงเย็น พวกผมก็รีบมารอรถเมล์เพื่อจะกลับมายังเมืองMontpellierที่ผมอยู่ เรื่องลุ้นระทึกคือ รถเมล์มันไม่มา ปกติที่ฝรั่งเศสเรื่องเวลาเขาตรงเวลามากครับ ทั้งระบบรถไฟ รถราง รถเมล์ เป๊ะครับ แต่คราวนี้ผมสงสัยแต่พอถามคนฝรั่งเศสด้วยกันเขาบอกว่าสงสัยรถติดเพราะเขามารอตั้งแต่4โฒงครึ่ง ผมก็โล่งใจไปเพราะถ้าไม่งั้นไม่รู้จะไปนอนที่ไหน? รถหายากมากครับเพราะเมืองนี้โดยส่วนใหญ่เขาจะขับรถมาเที่ยวกันเอง แหละนี่ก็เป็นอีกเมืองเมืองหนึ่งที่ผมคิดว่าคงมีคนไทยเพียงไม่กี่คนที่ได้ไปครับ เลยนำมารีวิวให้ได้ชมถึงการอนุรักษ์ไว้ซึ่งวิถีชิวิตชุมชนที่หาได้ยากในฝรั่งเศสและในแคว้นHérault
ทิ้งท้ายนิดนึงครับ ขอฝากผลงานประเทศเล็กๆบนเชิงเขาด้วยครับ http://ppantip.com/topic/30936360