ผมขอใช้เรื่องหรือบทเรียนนี้ในการแจ้งให้ประชาชนทั่วไปทราบ เผื่อท่านที่ยังไม่โดน จะได้หาทางป้องกัน ไม่เสียเงินฟรี เสียเวลา และเสียความรู้สึก และส่วนหนึ่งก็เป็นการสอบถามและหาข้อมูลเพิ่มเติมไปในตัว ว่าในเขตพื้นอื่น ๆ มีเหตุ หรือ กรณีแบบนี้เคยเกิดขึ้นหรือไม่
เรื่องมีอยู่ว่า
เกี่ยวข้องกับค่าประกันสังคมสำหรับผู้ที่อดีตเคยเป็นพนักงานในโรงงานมาก่อน แต่ปัจจุบันได้ออกจากงานมาแล้ว และมีความประสงค์จะค่าประกันสังคมต่อ เรียกว่ามาตรา 39
ก็คือเป็นค่าประกันสังคมสำหรับผู้ที่เคยทำงานในโรงงานมาก่อน แต่ปัจจุบันอกจากงานมาแล้ว และต้องการจ่ายค่าประกันสังคมต่อเอง ก็จะเกี่ยวข้องกับ
มาตรา 39 นี้ คือชำระเอง จะไม่มีส่วนของนายจ้างแล้ว คาดว่าหลาย ๆ ท่านที่เคยทำงานคงทราบดี
ซึ่งแต่ละเดือนก็จะไปชำระที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสตามปกติประจำ เพราะง่าย อยู่ไกล้และสดวกดี ชำระได้ตลอด ไม่เว้นวันหยุดราชการ ซึ่งบางเดือนอาจจะช้าบ้าง ติดค้างบ้าง แต่ก็ชำระมาโดยตลอด ไม่เคยปล่อยให้ค้างนานเกิน 3 - 4 เดือน เพราะมิฉะนั้นจะโดนตัดสิทธิ
โดยหารู้ไม่ว่ากำลังจะเสียเงินไปฟรี ๆ โดยอยู่มาวันหนึ่ง วันดีคืนดีก็มีหนังสือส่งมาจากประกันสังคม ว่าเราค้างชำระค่าประกันสังคมเป็นเวลา 4 เดือน บางเดือนเป็นของปี 2555 ก็มี แล้วมันก็เป็นในเดือนที่เราไม่ได้เก็บใบสลิปที่เราชำระไว้ด้วยนะ 2 เดือนล่าสุดที่เราเก็บใบสลิปที่ชำระไว้ก่อนนี้ไม่เป็น ดันไปเป็นอีก 3 -4 ถัดไปโน้น รวมไปถึงของปีที่แล้วด้วย
คือสลิปจากการชำระ ถ้ามันนานเกินบางทีก็ไม่ได้เก็บไว้ครับ
พอตรวจสอบผ่านเคาเตอร์เซอวิสถึงเดือนที่ค้างชำระ ก็บอกไม่มี พอจะให้ตรวจตรวจเช็คมีว่าเดือนใหนที่ชำระไปแล้วมั่ง ก็บอกไม่มีนโยบาย
ซึ่ง เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะคนเดียว และไม่ได้มีเดือนเดียวที่ค้างชำระ แต่มีหลายคนและคนละหลายเดือน และถ้าเรื่องเกิดขึ้นกับคน 10 คน 100 คน หรือ 1,000 คน
คิดดูว่าเงินจะเป็นเท่าไหร่
ด้วยเหตุนี้จึงเกิดคำถามขึ้นในใจว่า ????????????????
ในส่วนของเคาน์เตอร์เซอร์วิส
1.ในด้านของข้อมูลต่าง ๆ เช่น ยอดเงินที่รับชำระของลูกค้าแต่ละคน หรือจำนวนเงินที่ถ่ายโอนเข้าออก ของเคาน์เตอร์เซอร์วิสมีความเชื่อถือเที่ยงตรงมากน้อยเพียงใด
2.การให้บริการ เอาใจใส่ต่อลูกค้าหรือเปล่า หรือชำระเสร็จเสียค่าบริการแล้วก็จบทันที
3.มีการจัดเก็บข้อมูลไว้เพื่อเป็นหลักฐานหรือไม่
4.กรณีที่มีระบบการจัดเก็บข้อมูล ระบบนั้นมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด
5.กรณีที่มีการจัดเก็บข้อมูล เหตุใดจึงไม่สามารถตรวจเช็คข้อมูลการรับชำระย้อนหลังได้
6.ข้อมูลต่าง ๆ สามารถตรวจสอบ ตรวจเช็ค ยืนยัน ในภายหลังได้หรือไม่
7.ระบบการเชื่อมโยงข้อมูลการรับชำระหว่างเคาเตอร์เซอร์ กับ องค์พานิชต่าง ๆ เช่น อิออน ไฟฟ้า หรือ ประกันสังคมเอง มีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด
8.หลังจากชำระค่าสินค้าต่าง ๆ แล้ว เงินเหล่านั้นจะถูกเก็บไว้ที่ระบบของเคาน์เตอร์เซอร์วิสก่อน หรือว่าเงินจะถูกโอนไปยังปลายทางทันที
ในส่วนของประกันสังคม
1.การลิ้งค์ข้อมูลระหว่างประกันสังคมกับเคาน์เตอร์เซอร์วิส มีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด
2.นอกเหนือจากตัวเลขจำนวนเงินของผู้ประกันตนที่โชว์อยู่หน้าเครื่อง มีข้อมูลอื่น ๆ อีกหรือไม่ที่จะสามารถตรวจเช็คหรือให้การยืนยันได้ว่า ข้อมูลนั้นถูกต้องจริง ๆ
3.ข้อมูลการรับชำระต่าง ๆ สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้หรือไม่
4.ความถูกต้องข้อมูลมีมากน้อยเพียงใด
5.ระบบการรับชำระของประกันสังคม ยกเว้นกรณีที่ไปชำระเอง มีประสิทธิภาพ ถูกต้อง ครบถ้วน เที่ยงตรง หรือเปล่า
6.หลักเกณท์หรือข้อกำหนดในการชำระค่าประกันสังคมของผู้ประกันตนจะต้องชำระไม่เกิน หรือระหว่างวันที่เท่าไหร่ของแต่ละเดือน กรณีที่ชำระเกินวันที่กำหนดไว้ เงินที่ผู้ประกันตน จะไปถึงประกันสังคมหรือไม่ หรือยังค้างอยู่ที่ระบบของเคาน์เตอร์เซอร์วิส
7. ตามข้อกำหนด ของประกันสังคมจริง ๆ ผู้ประกันตน มีสิทธค้างชำระได้ไม่เกินกี่เดือน
7.กรณีที่เกิดเหตุการณ์ หรือกรณีในลักษณะนี้ขึ้น ประกันสังคมให้การช่วยเหลือ หรือหาทางออก หรือให้คำแนะนำ อะไรบ้างที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน หรือช่วยเหลืออะไรไม่ได้เลย ประชาชนต้องเสียเงิน พร้อมดอกเบี้ย ให้กับประกันสังคมใหม่และเป็นผู้ที่ได้รับความเสียหายเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น
ผมไม่รู้ว่าท่านที่ชำระค่าสินค้าอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ค่าประกันสังคม จะเคยเจอเหตุการหรือกรณีเดียวกันนี้หรือเปล่า จึงอยากจะให้ผู้ที่ได้รับความเสียหาย หรือผู้ที่สามารถให้คำแนะนำ และให้ความกระจ่าง
ในเรื่องนี้ออกมาช่วยกันให้ข้อมูลกันเยอะ ๆ ครับ
สุดท้ายจึงอยากจะขอใช้บทเรียนนี้เตือนไปยังประชาชนทั่วไปว่า กรณีที่ท่านหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะใช้เคาเตอร์เซอวิส ในการชำระค่าสินค้า ไม่ว่าจะเป็นอิออน , ค่าน้ำ , ค่าไฟ หรือสารพัดค่าอื่น ๆ อะไรก็แล้วแต่ โปรดเก็บสลิปไว้อย่าทิ้งไม่ต่ำกว่า 3 ปีเป็นอย่างน้อย เพราะเมื่อชำระเสร็จก็จบทันที เคาน์เตอร์เซอร์วิส ไม่ได้รับผิดชอบอะไรต่าง ๆ ให้ทั้งสิ้น ท่านได้เพียงกระใบหนึ่งมาเท่านั้น หลักฐานที่จะใช้ยืนยัน
การชำระเงินของท่านได้ มีเพียงกระดาษใบเดียวที่อยู่ในมือของท่านเท่านั้น
หรือถ้าไม่อยากเสี่ยง ให้ใช้ทางเลือกอื่นที่ดีกว่ามีประสิทธิภาพมากว่า มีความน่าเชื่อถือ สามารถตรวจเช็คข้อมูลย้อนกลับได้เช่น ชำระโดยหักจากบัญชีธนาคาร หรือ ชำระในอินเตอร์เน็ตผ่านเว็บของธนาคารที่เราเปิดบัญชีอยู่ หรือไม่ก็ไปชำระด้วยตัวท่านเองจะดีที่สุดครับ
ท่านที่ชำระค่าสินค้าผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส โปรดระวัง !
เรื่องมีอยู่ว่า
เกี่ยวข้องกับค่าประกันสังคมสำหรับผู้ที่อดีตเคยเป็นพนักงานในโรงงานมาก่อน แต่ปัจจุบันได้ออกจากงานมาแล้ว และมีความประสงค์จะค่าประกันสังคมต่อ เรียกว่ามาตรา 39
ก็คือเป็นค่าประกันสังคมสำหรับผู้ที่เคยทำงานในโรงงานมาก่อน แต่ปัจจุบันอกจากงานมาแล้ว และต้องการจ่ายค่าประกันสังคมต่อเอง ก็จะเกี่ยวข้องกับ
มาตรา 39 นี้ คือชำระเอง จะไม่มีส่วนของนายจ้างแล้ว คาดว่าหลาย ๆ ท่านที่เคยทำงานคงทราบดี
ซึ่งแต่ละเดือนก็จะไปชำระที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสตามปกติประจำ เพราะง่าย อยู่ไกล้และสดวกดี ชำระได้ตลอด ไม่เว้นวันหยุดราชการ ซึ่งบางเดือนอาจจะช้าบ้าง ติดค้างบ้าง แต่ก็ชำระมาโดยตลอด ไม่เคยปล่อยให้ค้างนานเกิน 3 - 4 เดือน เพราะมิฉะนั้นจะโดนตัดสิทธิ
โดยหารู้ไม่ว่ากำลังจะเสียเงินไปฟรี ๆ โดยอยู่มาวันหนึ่ง วันดีคืนดีก็มีหนังสือส่งมาจากประกันสังคม ว่าเราค้างชำระค่าประกันสังคมเป็นเวลา 4 เดือน บางเดือนเป็นของปี 2555 ก็มี แล้วมันก็เป็นในเดือนที่เราไม่ได้เก็บใบสลิปที่เราชำระไว้ด้วยนะ 2 เดือนล่าสุดที่เราเก็บใบสลิปที่ชำระไว้ก่อนนี้ไม่เป็น ดันไปเป็นอีก 3 -4 ถัดไปโน้น รวมไปถึงของปีที่แล้วด้วย
คือสลิปจากการชำระ ถ้ามันนานเกินบางทีก็ไม่ได้เก็บไว้ครับ
พอตรวจสอบผ่านเคาเตอร์เซอวิสถึงเดือนที่ค้างชำระ ก็บอกไม่มี พอจะให้ตรวจตรวจเช็คมีว่าเดือนใหนที่ชำระไปแล้วมั่ง ก็บอกไม่มีนโยบาย
ซึ่ง เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะคนเดียว และไม่ได้มีเดือนเดียวที่ค้างชำระ แต่มีหลายคนและคนละหลายเดือน และถ้าเรื่องเกิดขึ้นกับคน 10 คน 100 คน หรือ 1,000 คน
คิดดูว่าเงินจะเป็นเท่าไหร่
ด้วยเหตุนี้จึงเกิดคำถามขึ้นในใจว่า ????????????????
ในส่วนของเคาน์เตอร์เซอร์วิส
1.ในด้านของข้อมูลต่าง ๆ เช่น ยอดเงินที่รับชำระของลูกค้าแต่ละคน หรือจำนวนเงินที่ถ่ายโอนเข้าออก ของเคาน์เตอร์เซอร์วิสมีความเชื่อถือเที่ยงตรงมากน้อยเพียงใด
2.การให้บริการ เอาใจใส่ต่อลูกค้าหรือเปล่า หรือชำระเสร็จเสียค่าบริการแล้วก็จบทันที
3.มีการจัดเก็บข้อมูลไว้เพื่อเป็นหลักฐานหรือไม่
4.กรณีที่มีระบบการจัดเก็บข้อมูล ระบบนั้นมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด
5.กรณีที่มีการจัดเก็บข้อมูล เหตุใดจึงไม่สามารถตรวจเช็คข้อมูลการรับชำระย้อนหลังได้
6.ข้อมูลต่าง ๆ สามารถตรวจสอบ ตรวจเช็ค ยืนยัน ในภายหลังได้หรือไม่
7.ระบบการเชื่อมโยงข้อมูลการรับชำระหว่างเคาเตอร์เซอร์ กับ องค์พานิชต่าง ๆ เช่น อิออน ไฟฟ้า หรือ ประกันสังคมเอง มีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด
8.หลังจากชำระค่าสินค้าต่าง ๆ แล้ว เงินเหล่านั้นจะถูกเก็บไว้ที่ระบบของเคาน์เตอร์เซอร์วิสก่อน หรือว่าเงินจะถูกโอนไปยังปลายทางทันที
ในส่วนของประกันสังคม
1.การลิ้งค์ข้อมูลระหว่างประกันสังคมกับเคาน์เตอร์เซอร์วิส มีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด
2.นอกเหนือจากตัวเลขจำนวนเงินของผู้ประกันตนที่โชว์อยู่หน้าเครื่อง มีข้อมูลอื่น ๆ อีกหรือไม่ที่จะสามารถตรวจเช็คหรือให้การยืนยันได้ว่า ข้อมูลนั้นถูกต้องจริง ๆ
3.ข้อมูลการรับชำระต่าง ๆ สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้หรือไม่
4.ความถูกต้องข้อมูลมีมากน้อยเพียงใด
5.ระบบการรับชำระของประกันสังคม ยกเว้นกรณีที่ไปชำระเอง มีประสิทธิภาพ ถูกต้อง ครบถ้วน เที่ยงตรง หรือเปล่า
6.หลักเกณท์หรือข้อกำหนดในการชำระค่าประกันสังคมของผู้ประกันตนจะต้องชำระไม่เกิน หรือระหว่างวันที่เท่าไหร่ของแต่ละเดือน กรณีที่ชำระเกินวันที่กำหนดไว้ เงินที่ผู้ประกันตน จะไปถึงประกันสังคมหรือไม่ หรือยังค้างอยู่ที่ระบบของเคาน์เตอร์เซอร์วิส
7. ตามข้อกำหนด ของประกันสังคมจริง ๆ ผู้ประกันตน มีสิทธค้างชำระได้ไม่เกินกี่เดือน
7.กรณีที่เกิดเหตุการณ์ หรือกรณีในลักษณะนี้ขึ้น ประกันสังคมให้การช่วยเหลือ หรือหาทางออก หรือให้คำแนะนำ อะไรบ้างที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน หรือช่วยเหลืออะไรไม่ได้เลย ประชาชนต้องเสียเงิน พร้อมดอกเบี้ย ให้กับประกันสังคมใหม่และเป็นผู้ที่ได้รับความเสียหายเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น
ผมไม่รู้ว่าท่านที่ชำระค่าสินค้าอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ค่าประกันสังคม จะเคยเจอเหตุการหรือกรณีเดียวกันนี้หรือเปล่า จึงอยากจะให้ผู้ที่ได้รับความเสียหาย หรือผู้ที่สามารถให้คำแนะนำ และให้ความกระจ่าง
ในเรื่องนี้ออกมาช่วยกันให้ข้อมูลกันเยอะ ๆ ครับ
สุดท้ายจึงอยากจะขอใช้บทเรียนนี้เตือนไปยังประชาชนทั่วไปว่า กรณีที่ท่านหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะใช้เคาเตอร์เซอวิส ในการชำระค่าสินค้า ไม่ว่าจะเป็นอิออน , ค่าน้ำ , ค่าไฟ หรือสารพัดค่าอื่น ๆ อะไรก็แล้วแต่ โปรดเก็บสลิปไว้อย่าทิ้งไม่ต่ำกว่า 3 ปีเป็นอย่างน้อย เพราะเมื่อชำระเสร็จก็จบทันที เคาน์เตอร์เซอร์วิส ไม่ได้รับผิดชอบอะไรต่าง ๆ ให้ทั้งสิ้น ท่านได้เพียงกระใบหนึ่งมาเท่านั้น หลักฐานที่จะใช้ยืนยัน
การชำระเงินของท่านได้ มีเพียงกระดาษใบเดียวที่อยู่ในมือของท่านเท่านั้น
หรือถ้าไม่อยากเสี่ยง ให้ใช้ทางเลือกอื่นที่ดีกว่ามีประสิทธิภาพมากว่า มีความน่าเชื่อถือ สามารถตรวจเช็คข้อมูลย้อนกลับได้เช่น ชำระโดยหักจากบัญชีธนาคาร หรือ ชำระในอินเตอร์เน็ตผ่านเว็บของธนาคารที่เราเปิดบัญชีอยู่ หรือไม่ก็ไปชำระด้วยตัวท่านเองจะดีที่สุดครับ