เปิดหนังสือยกเลิกสัญญาของ “จา พนม” อ้างยังไม่ได้รับหนังสือต่อสัญญากับสหมงคลฯ และขอไม่ต่อสัญญา ด้าน สหมงคลฯ สุดแสบส่งสัญญาไปให้ที่บ้านที่สุรินทร์ แทนที่จะส่งให้ที่พักปัจจุบันของจา "พี่สาว จาพนม" เผยเป็นคนเซ็นต์รับและหนังสือฉบับดังกล่าวมีเนื้อหาเป็นการแจ้งต่อสัญญาอัตโนมัติ
สงครามยังไม่จบอย่าพึ่งนับศพทหาร ศึกครั้งนี้คงจะดูกันยาวๆ ซะแล้ว เมื่อวานนี้ “เสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ” พึ่งจะควง “ปรัชญา ปิ่นแก้ว” และ “พันนา ฤทธิไกร” เปิดแถลงข่าวซัด “จา พนม ยีรัมย์” ว่า ไม่เห็นหัวผิดสัญญาไปเล่นหนังฮอลีวูดส์ พร้อมทั้งยืนยันว่า จาได้เซ็นต์ต่อสัญญาเรียบร้อยแล้ว โดยได้มีการส่งสัญญาไปที่บ้านของจา พนมที่สุรินทร์และมีการเซ็นต์รับเรียบร้อยแล้ว แต่กลับไม่มีการโชว์หลักฐานสัญญาและลายเซ็นต์ของจา พนม ให้ผู้สื่อข่าวดู
สอบถามไปยัง “หัทยา ยีรัมพ์” พี่สาวของจา พนม ยืนยันว่า ได้รับหนังสือต่อสัญญาจากสหมคลจริง และมีการเซ็นต์รับเอกสาร ในหนังสือไม่ได้มีการเซ็นสัญญาอะไรตอบกลับไป โดยหนังสือดังกล่าวมีเนื้อหาเหมือนเป็นการแจ้งให้ทราบเรื่องสัญญา และต่อสัญญาโดยอัตโนมัติ
“เสี่ยเขาส่งมาอยู่ค่ะแต่ว่าเราติดต่อจายังไม่ได้ค่ะว่าจะแจ้งเขาแต่ติดต่อไม่ได้ เขาก็ไม่ติดต่อ ช่วงนั้นก็เป็นช่วงพ่อไม่สบายด้วยก็เลยมัวแต่คลุกคลีกับพ่อจนทำให้มันล่วงเลยไป แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจก็ฝากบอกทางญาติไปด้วยให้ช่วยติดต่อจาให้อีกแรงด้วย ถ้าติดต่อได้เมื่อไหร่ก็ให้ติดต่อเรื่องสัญญา”
“เราเป็นคนเซ็นต์รับไปรษณีย์ว่าเราได้รับเอกสารแล้ว และก็เปิดอ่านพบว่าเป็นสัญญา เรื่องการต่อสัญญา ก็พยายมติดต่อน้องทุกวิถีทางก็ติดต่อไม่ได้ คิดว่าเดี๋ยวเขาก็คงรู้แหละมั๊งเพราะเขาเข้าหาเสี่ยอยู่บ่อยๆ เขาอยู่กับอาจารย์พันนาทำงานด้วยกัน เขามีสัญญาควบด้วยกันอยู่ด้วยก็คงจะคุยกันนั่นแหละ คิดว่าเขาคงรู้เรื่องเพราะเขาใกล้ชิดมากกว่าเราด้วยซ้ำไป เพราะเราติดต่อเขาไม่ได้มานานแล้ว”
“ในจดหมายไม่มีอะไรให้เซ็นต์ตอบกลับไปซักอย่าง คุณพ่อก็ไม่ได้เซ็นต์อะไรกลับไป ในหนังสือก็จะมีบอกเรื่องวันหมดสัญญา เอกสารจะเขียนว่า(อ่านสัญญาทั้งหมดให้ฟัง) สัญญานักแสดงในสังกัดคือ นายจาพนม ยีรัมย์ นายกฤติยา ลาดพันนา ครูฝึก และนายปรัชญา ปิ่นแก้ว อ้างถึงสัญญาจ้างในการเป็นนักแสดงในสังกัดระหว่างสหมงคลฟิล์ม นักแสดง ครูฝึก และผู้ควบคุม ลงฉบับวันที่ 25 กรกฎาคม 2546 ในวงเล็บติดสัญญา ตามที่บริษัท นักแสดง ครูฝึก และผู้ควบคุม ได้ตกลงทำสัญญากันตามเงื่อนไขและข้อตกลงตามสัญญานั้น บัดนี้สัญญาดังกล่าวกำลังจะสิ้นสุดลงในวันที่ 24 กรกฎาคม 2556 และบริษัทมีความประสงค์ที่จะต่อสัญญาออกไป
ดังนั้นอาศัยความตามข้อ 3 ในสัญญาบริษัท จึงขอใช้หนังสือฉบับนี้แจ้งความประสงค์การต่อสัญญาดังกล่าวออกไปอีก เป็นระยะเวลา 10 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2556 ถึง 24 กรกฎาคม 2566 โดยให้เงื่อนไขข้อตกลงและรายละเอียดอื่นๆ เป็นไปตามสัญญาจ้างเป็นนักแสดงในสังกัด ฉบับลงวันที่ 25 กรกฏาคม 2546 ทุกประการ จึงเรียนมาเพื่อทราบ”
“เป็นการเรียนมาให้รู้ว่าต่อสัญญาแล้วนะครบกำหนด ถ้าจะแย้งก็ไปแย้งแต่เราติดต่อจาเขาไม่ได้อย่างที่รู้กันเขาไม่เคยติดต่อกลับมาที่บ้าน เฮ้อ...ไม่อยากให้เกิดขึ้นแบบนี้เลย ถ้าเขาติดต่อมาก็คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้เลย ในเมื่อเป็นแบบนี้เป็นห่วงมากกว่าถ้ามันเกิดเรื่องขึ้นแบบนี้ ยังไงอยากให้น้องกลับบ้านมามากกว่ามาคุยกัน ไม่อยากให้ปัญหาแบบนี้เกิดขึ้น ส่วนเรื่องที่เขาโกอินเตอร์ก็ดีใจกับเขาแต่การไปของเขาก็ไม่อยากให้มีเรื่องสัญญาหรือเรื่องราวเกิดขึ้นแบบนี้ค่ะ ถ้าจะไปอะไรยังไงก็ขออย่าให้มีเรื่องแบบนี้มันไม่สบายใจค่ะ”
สรุปสัญญาที่ทำขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว วันที่ 25 กรกฎาคม 2546 และหมดสัญญาวันที่ 24 กรกฎาคม 2556 นั้น เป็นการทำสัญญาขึ้นระหว่าง สหมงคลฯ กับ จาพนม ในฐานะนักแสดง พันนา ในฐานะครูฝึก และปรัชญา ปิ่นแก้ว ในฐานะผู้ควบคุม และทางสหมคงคลฟิล์ม ก็ได้ส่งหนังสือต่อสัญญามาให้ที่บ้านจังหวัดสุรินทร์ของจา พนม โดยมีพี่สาวของจา พนมเป็นคนเซ็นต์รับ
ทางด้านจา พนม เอง แม้จะไม่ได้รับหนังสือสัญญาดังกล่าว แต่ก็ได้มีการยื่นหนังสือยกเลิกสัญญาลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2556 ไปยังบริษัทสหมงคลฯ , พันนา และ ปรัชญา โดยจดหมายที่บันเทิงผู้จัดการออนไลน์ได้นำมาเปิดเผยนี้ เป็นจดหมายที่ส่งยกเลิกสัญญาไปยังพันนา ซึ่งก็ได้มีการส่งหมายดังกล่าวไปยังสหมงคลฯ และปรัชญาเช่นกัน โดยหนังสือทั้ง 3 ฉบับ มีเนื้อหาข้อความเหมือนกัน ดังต่อไปนี้
“เนื่องจากข้าพเจ้ามิได้รับการแจ้งความประสงค์จะขอให้รับการต่อสัญญาจ้างจากทางบริษัท ภายใต้เงื่อนเขข้อ 3 ของสัญญาจ้าง ข้าพเจ้าจึงขอแจ้งมายังท่านทั้งหลายในฐานะเป็นคู่สัญญาเพื่อให้ทราบเป็นหลักฐานโดยทั่วกันว่า สัญญาจ้างได้สิ้นผลผูกพันไปแล้วตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2556”
“โดยที่ขณะนี้ข้าพเจ้ายังมิได้ทำการตรวจสอบข้อมูลว่าบริษัทได้ดำเนินการใดๆ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าตามที่กำหนดไว้ในสัญญาจ้างโดยถูกต้องครบถ้วนตลอดอายุสัญญาจ้างหรือไม่ ข้าพเจ้าจึงขอสงวนสิทธิ์ในการที่จะดำเนินการทางกฎหมายไว้หากปรากฏข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการไม่ปฏิบัติตามสัญญาของทางบริษัท” พร้อมกับลงชื่อและลายเซ็นของจา พนม
อย่างไรก็ตามในจดหมายต่อสัญญาที่สหมงคลฯ ส่งไปให้ที่สุรินทร์นั้น ได้มีการกล่าวอ้างถึงสัญญาตามข้อ 3 และจดหมายที่จาส่งไปยกเลิกสัญญาก็มีการกล่าวอ้างถึง สัญญาตามข้อ 3 เช่นกัน ซึ่งคาดว่าสัญญาข้อ 3 ที่สหมงคลฯ และจากล่าวอ้างนั้น น่าจะเป็นการแจ้งต่อสัญญาโดยอัตโนมัติ
จึงได้มีการส่งแจ้งการต่อสัญญาไปยังบ้านที่จังหวัดสุรินทร์ของจา พนม แทนที่จะส่งมาที่บ้านภรรยาของจา พนม ซึ่งเป็นบ้านที่พักอาศัยปัจจุบัน เพราะถ้าส่งมายังที่พักปัจจจุบันของจา พนม ก็คงจะมีการแย้งกลับไป แต่เป็นที่น่างสังเกตว่า พอสหมงคลฯ ให้ทนายส่งโนติสให้จา พนม กลับส่งมายังบ้านภรรยาของจาพนม ไม่ส่งไปที่บ้านสุรินทร์
http://manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9560000111194
งานนี้มีหักมุม....55
โอละเพ่? เสี่ยจะเสียสุนัขก็งานนี้ละครับ “จา พนม” แฉ “สหฯ” สุดแสบ ส่งจม.ต่อสัญญาอัตโนมัติ ไปให้“พ่อ จา พนม”
สงครามยังไม่จบอย่าพึ่งนับศพทหาร ศึกครั้งนี้คงจะดูกันยาวๆ ซะแล้ว เมื่อวานนี้ “เสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ” พึ่งจะควง “ปรัชญา ปิ่นแก้ว” และ “พันนา ฤทธิไกร” เปิดแถลงข่าวซัด “จา พนม ยีรัมย์” ว่า ไม่เห็นหัวผิดสัญญาไปเล่นหนังฮอลีวูดส์ พร้อมทั้งยืนยันว่า จาได้เซ็นต์ต่อสัญญาเรียบร้อยแล้ว โดยได้มีการส่งสัญญาไปที่บ้านของจา พนมที่สุรินทร์และมีการเซ็นต์รับเรียบร้อยแล้ว แต่กลับไม่มีการโชว์หลักฐานสัญญาและลายเซ็นต์ของจา พนม ให้ผู้สื่อข่าวดู
สอบถามไปยัง “หัทยา ยีรัมพ์” พี่สาวของจา พนม ยืนยันว่า ได้รับหนังสือต่อสัญญาจากสหมคลจริง และมีการเซ็นต์รับเอกสาร ในหนังสือไม่ได้มีการเซ็นสัญญาอะไรตอบกลับไป โดยหนังสือดังกล่าวมีเนื้อหาเหมือนเป็นการแจ้งให้ทราบเรื่องสัญญา และต่อสัญญาโดยอัตโนมัติ
“เสี่ยเขาส่งมาอยู่ค่ะแต่ว่าเราติดต่อจายังไม่ได้ค่ะว่าจะแจ้งเขาแต่ติดต่อไม่ได้ เขาก็ไม่ติดต่อ ช่วงนั้นก็เป็นช่วงพ่อไม่สบายด้วยก็เลยมัวแต่คลุกคลีกับพ่อจนทำให้มันล่วงเลยไป แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจก็ฝากบอกทางญาติไปด้วยให้ช่วยติดต่อจาให้อีกแรงด้วย ถ้าติดต่อได้เมื่อไหร่ก็ให้ติดต่อเรื่องสัญญา”
“เราเป็นคนเซ็นต์รับไปรษณีย์ว่าเราได้รับเอกสารแล้ว และก็เปิดอ่านพบว่าเป็นสัญญา เรื่องการต่อสัญญา ก็พยายมติดต่อน้องทุกวิถีทางก็ติดต่อไม่ได้ คิดว่าเดี๋ยวเขาก็คงรู้แหละมั๊งเพราะเขาเข้าหาเสี่ยอยู่บ่อยๆ เขาอยู่กับอาจารย์พันนาทำงานด้วยกัน เขามีสัญญาควบด้วยกันอยู่ด้วยก็คงจะคุยกันนั่นแหละ คิดว่าเขาคงรู้เรื่องเพราะเขาใกล้ชิดมากกว่าเราด้วยซ้ำไป เพราะเราติดต่อเขาไม่ได้มานานแล้ว”
“ในจดหมายไม่มีอะไรให้เซ็นต์ตอบกลับไปซักอย่าง คุณพ่อก็ไม่ได้เซ็นต์อะไรกลับไป ในหนังสือก็จะมีบอกเรื่องวันหมดสัญญา เอกสารจะเขียนว่า(อ่านสัญญาทั้งหมดให้ฟัง) สัญญานักแสดงในสังกัดคือ นายจาพนม ยีรัมย์ นายกฤติยา ลาดพันนา ครูฝึก และนายปรัชญา ปิ่นแก้ว อ้างถึงสัญญาจ้างในการเป็นนักแสดงในสังกัดระหว่างสหมงคลฟิล์ม นักแสดง ครูฝึก และผู้ควบคุม ลงฉบับวันที่ 25 กรกฎาคม 2546 ในวงเล็บติดสัญญา ตามที่บริษัท นักแสดง ครูฝึก และผู้ควบคุม ได้ตกลงทำสัญญากันตามเงื่อนไขและข้อตกลงตามสัญญานั้น บัดนี้สัญญาดังกล่าวกำลังจะสิ้นสุดลงในวันที่ 24 กรกฎาคม 2556 และบริษัทมีความประสงค์ที่จะต่อสัญญาออกไป
ดังนั้นอาศัยความตามข้อ 3 ในสัญญาบริษัท จึงขอใช้หนังสือฉบับนี้แจ้งความประสงค์การต่อสัญญาดังกล่าวออกไปอีก เป็นระยะเวลา 10 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2556 ถึง 24 กรกฎาคม 2566 โดยให้เงื่อนไขข้อตกลงและรายละเอียดอื่นๆ เป็นไปตามสัญญาจ้างเป็นนักแสดงในสังกัด ฉบับลงวันที่ 25 กรกฏาคม 2546 ทุกประการ จึงเรียนมาเพื่อทราบ”
“เป็นการเรียนมาให้รู้ว่าต่อสัญญาแล้วนะครบกำหนด ถ้าจะแย้งก็ไปแย้งแต่เราติดต่อจาเขาไม่ได้อย่างที่รู้กันเขาไม่เคยติดต่อกลับมาที่บ้าน เฮ้อ...ไม่อยากให้เกิดขึ้นแบบนี้เลย ถ้าเขาติดต่อมาก็คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้เลย ในเมื่อเป็นแบบนี้เป็นห่วงมากกว่าถ้ามันเกิดเรื่องขึ้นแบบนี้ ยังไงอยากให้น้องกลับบ้านมามากกว่ามาคุยกัน ไม่อยากให้ปัญหาแบบนี้เกิดขึ้น ส่วนเรื่องที่เขาโกอินเตอร์ก็ดีใจกับเขาแต่การไปของเขาก็ไม่อยากให้มีเรื่องสัญญาหรือเรื่องราวเกิดขึ้นแบบนี้ค่ะ ถ้าจะไปอะไรยังไงก็ขออย่าให้มีเรื่องแบบนี้มันไม่สบายใจค่ะ”
สรุปสัญญาที่ทำขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว วันที่ 25 กรกฎาคม 2546 และหมดสัญญาวันที่ 24 กรกฎาคม 2556 นั้น เป็นการทำสัญญาขึ้นระหว่าง สหมงคลฯ กับ จาพนม ในฐานะนักแสดง พันนา ในฐานะครูฝึก และปรัชญา ปิ่นแก้ว ในฐานะผู้ควบคุม และทางสหมคงคลฟิล์ม ก็ได้ส่งหนังสือต่อสัญญามาให้ที่บ้านจังหวัดสุรินทร์ของจา พนม โดยมีพี่สาวของจา พนมเป็นคนเซ็นต์รับ
ทางด้านจา พนม เอง แม้จะไม่ได้รับหนังสือสัญญาดังกล่าว แต่ก็ได้มีการยื่นหนังสือยกเลิกสัญญาลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2556 ไปยังบริษัทสหมงคลฯ , พันนา และ ปรัชญา โดยจดหมายที่บันเทิงผู้จัดการออนไลน์ได้นำมาเปิดเผยนี้ เป็นจดหมายที่ส่งยกเลิกสัญญาไปยังพันนา ซึ่งก็ได้มีการส่งหมายดังกล่าวไปยังสหมงคลฯ และปรัชญาเช่นกัน โดยหนังสือทั้ง 3 ฉบับ มีเนื้อหาข้อความเหมือนกัน ดังต่อไปนี้
“เนื่องจากข้าพเจ้ามิได้รับการแจ้งความประสงค์จะขอให้รับการต่อสัญญาจ้างจากทางบริษัท ภายใต้เงื่อนเขข้อ 3 ของสัญญาจ้าง ข้าพเจ้าจึงขอแจ้งมายังท่านทั้งหลายในฐานะเป็นคู่สัญญาเพื่อให้ทราบเป็นหลักฐานโดยทั่วกันว่า สัญญาจ้างได้สิ้นผลผูกพันไปแล้วตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2556”
“โดยที่ขณะนี้ข้าพเจ้ายังมิได้ทำการตรวจสอบข้อมูลว่าบริษัทได้ดำเนินการใดๆ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าตามที่กำหนดไว้ในสัญญาจ้างโดยถูกต้องครบถ้วนตลอดอายุสัญญาจ้างหรือไม่ ข้าพเจ้าจึงขอสงวนสิทธิ์ในการที่จะดำเนินการทางกฎหมายไว้หากปรากฏข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการไม่ปฏิบัติตามสัญญาของทางบริษัท” พร้อมกับลงชื่อและลายเซ็นของจา พนม
อย่างไรก็ตามในจดหมายต่อสัญญาที่สหมงคลฯ ส่งไปให้ที่สุรินทร์นั้น ได้มีการกล่าวอ้างถึงสัญญาตามข้อ 3 และจดหมายที่จาส่งไปยกเลิกสัญญาก็มีการกล่าวอ้างถึง สัญญาตามข้อ 3 เช่นกัน ซึ่งคาดว่าสัญญาข้อ 3 ที่สหมงคลฯ และจากล่าวอ้างนั้น น่าจะเป็นการแจ้งต่อสัญญาโดยอัตโนมัติ
จึงได้มีการส่งแจ้งการต่อสัญญาไปยังบ้านที่จังหวัดสุรินทร์ของจา พนม แทนที่จะส่งมาที่บ้านภรรยาของจา พนม ซึ่งเป็นบ้านที่พักอาศัยปัจจุบัน เพราะถ้าส่งมายังที่พักปัจจจุบันของจา พนม ก็คงจะมีการแย้งกลับไป แต่เป็นที่น่างสังเกตว่า พอสหมงคลฯ ให้ทนายส่งโนติสให้จา พนม กลับส่งมายังบ้านภรรยาของจาพนม ไม่ส่งไปที่บ้านสุรินทร์
http://manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9560000111194
งานนี้มีหักมุม....55