คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 29
เนติ ไม่ใช่ ปริญญาโท
และ ปริญญาโท ก็ไม่ใช่ เนติ
การเรียน เนติบัณฑิต ต้องลงทะเบียนกับ "เนติบัณฑิตยสภา" (จบ ป.ตรี จากมหาลัยที่เนติบัณฑิตยสภารับรองก็สมัครได้เลย ไม่มีการสอบเข้า)
สถานที่เรียนอยู่ตลิ่งชัน ถ.กาญจนาภิเษก ไม่จำเป็นต้องเข้าเรียน มีบริการส่งหนังสือคำบรรยายให้ทุกๆสัปดาห์ถึงบ้าน
หลักสูตร 1 ปี (ถ้าขยัน + เก่งก็จบปีเดียว)
ไม่มีสาขาให้เลือก ทุกคนต้องเรียนเหมือนกันหมดเรียกว่า 4 ขา
ต้องสอบผ่านทั้ง 4 ขา จึงจะถือว่าเรียนจบ คือ เทอม 1 ขาแพ่ง ขาอาญา เทอม 2 ขาวิ.แพ่ง ขาวิ.อาญา
การเรียนเนติ เน้นเรียนคำพิพากษาฎีกา เป็นการนำ 4 ปีที่เรียนจาก ป.ตรี มาสรุปอีกรอบในเวลา 1 ปี
หากพื้นฐาน ป.ตรี ดีก็จะได้เปรียบในการเรียนเนติ ข้อสอบ ขาละ 10 ข้อ รวม 100 คะแนน ได้เกิน 50 ถือว่าผ่าน
จบแล้วจะได้รับ วุฒิเนติบัณฑิตไทย (น.บ.ท.) มีพิธีพระราชทานประกาศนียบัตรวันที่ 7 ส.ค. ที่สวนอัมพร
การเรียน ปริญญาโท ต้องสมัคร + สอบเข้า ตาม "มหาวิทยาลัยต่างๆ" เช่น จุฬา ธรรมศาสตร์ รามคำแหง หรือ ม.เอกชนต่างๆ เป็นต้น
สถานที่เรียนก็ตามที่ตั้งของมหาวิทยาลัยนั้นๆ และจำเป็นต้องเข้าเรียน
ส่วนมาก Check เวลาเรียน และส่วนมากตารางเรียนจะเป็นช่วงเย็นๆ หรือไม่ก็ ส-อา
หลักสูตรส่วนมากก็ 2 ปี (มีทั้งแบบทำ และ ไม่ทำวิทยานิพนธ์ แล้วแต่เราจะเลือก)
ปริญญาโทมีสาขาให้เลือกมากมายแล้วแต่มหาวิทยาลัย เช่น สาขากฎหมายมหาชน , สาขากฎหมายเอกชน , สาขากฎหมายระหว่างประเทศ
หรืออยากเรียนหลักสูตรสองภาษา อินเตอร์ ก็มีให้เลือกในหลายๆมหาวิทยาลัย เช่นกัน
การเรียนปริญญาโท เน้นเรียนทฤษฎี แก่น ที่มาของกฎหมาย กฎหมายเปรียบเทียบ ไม่ได้เน้นคำพิพากษาฎีกามากนัก
เน้นการถกเถียงปัญหาใน Class เน้นการทำรายงาน ทำวิจัย และที่ยากคือทำวิทยานิพนธ์ (หากเลือกเรียนแบบทำวิทยานิพนธ์)
มีคะแนนเก็บ คะแนนสอบ คะแนนรายงาน แล้วแต่วิชา
จบแล้วจะได้รับ วุฒินิติศาสตร์มหาบัณฑิต (น.ม.) Master of Laws (LL.M.) รับปริญญาก็ตามมหาวิทยาลัยนั้นๆกำหนด
- เราสามารถเรียนเนติบัณฑิต กับ ปริญญาโท ควบกันได้ ถ้าเราไหว
- เส้นทางสู่การเป็น อัยการ ผู้พิพากษา ไม่จำเป็นต้องจบปริญญาโท แต่ต้องจบเนติบัณฑิต
- แต่การเรียนปริญญาโท ทำให้โอกาสในการสอบเป็นผู้พิพากษา กับ อัยการของเรามากขึ้น
- ยิ่งเรียนปริญญาโทจากต่างประเทศ 2 ใบ โอกาสยิ่งมากขึ้นไปอีก
- การสอบผู้พิพากษาผมแทบไม่เคยได้ยินเรื่องเส้นสาย ข้อสอบรั่ว มั่นใจได้แทบ 100 % ว่าคนสอบได้มาจากความสามารถจริงๆ
- การสอบผู้พิพากษา มี 3 สนาม
1. สนามใหญ่
ป.ตรีนิติศาสตร์ + เนติ + ทำงานด้านกฎหมายในภาครัฐ 2 ปี หรือ เป็นทนายความว่าความตามจำนวนคดีที่เขากำหนด
สอบล่าสุด 4 สิงหาคม 2556 สมัคร 8000 คน ผ่าน 15 คน
2. สนามเล็ก
ป.ตรีนิติศาสตร์ + เนติ + ป.โท(ในไทย) + ทำงานด้านกฎหมายในภาครัฐ 1 ปี หรือ เป็นทนายความว่าความตามจำนวนที่เขากำหนด
สอบล่าสุด 8 มิถุนายน 2555 สมัคร 2,100 คน ผ่าน 35 คน
3. สนามจิ๋ว
ป.ตรีนิติศาสตร์ + เนติ + ป.โท 2 ใบ (เมืองนอก) + ทำงานด้านกฎหมายในภาครัฐ 1 ปี หรือ เป็นทนายความว่าความตามจำนวนที่เขากำหนด (ตรงนี้ไม่ชัวร์) สอบล่าสุด 18 กันยายน 2555 สมัคร 198 คน ผ่าน 46 คน
สู้ๆครับน้อง ตอนนี้พี่ก็เพิ่งจบ กำลังหางานนิติกร ราชการ + กำลังเรียนเนติ กะว่า ปีหน้าจะ เรียนปริญญาโท
ยินดีต้อนรับสู่วงการนิติศาสตร์ล่วงหน้าครับ
และ ปริญญาโท ก็ไม่ใช่ เนติ
การเรียน เนติบัณฑิต ต้องลงทะเบียนกับ "เนติบัณฑิตยสภา" (จบ ป.ตรี จากมหาลัยที่เนติบัณฑิตยสภารับรองก็สมัครได้เลย ไม่มีการสอบเข้า)
สถานที่เรียนอยู่ตลิ่งชัน ถ.กาญจนาภิเษก ไม่จำเป็นต้องเข้าเรียน มีบริการส่งหนังสือคำบรรยายให้ทุกๆสัปดาห์ถึงบ้าน
หลักสูตร 1 ปี (ถ้าขยัน + เก่งก็จบปีเดียว)
ไม่มีสาขาให้เลือก ทุกคนต้องเรียนเหมือนกันหมดเรียกว่า 4 ขา
ต้องสอบผ่านทั้ง 4 ขา จึงจะถือว่าเรียนจบ คือ เทอม 1 ขาแพ่ง ขาอาญา เทอม 2 ขาวิ.แพ่ง ขาวิ.อาญา
การเรียนเนติ เน้นเรียนคำพิพากษาฎีกา เป็นการนำ 4 ปีที่เรียนจาก ป.ตรี มาสรุปอีกรอบในเวลา 1 ปี
หากพื้นฐาน ป.ตรี ดีก็จะได้เปรียบในการเรียนเนติ ข้อสอบ ขาละ 10 ข้อ รวม 100 คะแนน ได้เกิน 50 ถือว่าผ่าน
จบแล้วจะได้รับ วุฒิเนติบัณฑิตไทย (น.บ.ท.) มีพิธีพระราชทานประกาศนียบัตรวันที่ 7 ส.ค. ที่สวนอัมพร
การเรียน ปริญญาโท ต้องสมัคร + สอบเข้า ตาม "มหาวิทยาลัยต่างๆ" เช่น จุฬา ธรรมศาสตร์ รามคำแหง หรือ ม.เอกชนต่างๆ เป็นต้น
สถานที่เรียนก็ตามที่ตั้งของมหาวิทยาลัยนั้นๆ และจำเป็นต้องเข้าเรียน
ส่วนมาก Check เวลาเรียน และส่วนมากตารางเรียนจะเป็นช่วงเย็นๆ หรือไม่ก็ ส-อา
หลักสูตรส่วนมากก็ 2 ปี (มีทั้งแบบทำ และ ไม่ทำวิทยานิพนธ์ แล้วแต่เราจะเลือก)
ปริญญาโทมีสาขาให้เลือกมากมายแล้วแต่มหาวิทยาลัย เช่น สาขากฎหมายมหาชน , สาขากฎหมายเอกชน , สาขากฎหมายระหว่างประเทศ
หรืออยากเรียนหลักสูตรสองภาษา อินเตอร์ ก็มีให้เลือกในหลายๆมหาวิทยาลัย เช่นกัน
การเรียนปริญญาโท เน้นเรียนทฤษฎี แก่น ที่มาของกฎหมาย กฎหมายเปรียบเทียบ ไม่ได้เน้นคำพิพากษาฎีกามากนัก
เน้นการถกเถียงปัญหาใน Class เน้นการทำรายงาน ทำวิจัย และที่ยากคือทำวิทยานิพนธ์ (หากเลือกเรียนแบบทำวิทยานิพนธ์)
มีคะแนนเก็บ คะแนนสอบ คะแนนรายงาน แล้วแต่วิชา
จบแล้วจะได้รับ วุฒินิติศาสตร์มหาบัณฑิต (น.ม.) Master of Laws (LL.M.) รับปริญญาก็ตามมหาวิทยาลัยนั้นๆกำหนด
- เราสามารถเรียนเนติบัณฑิต กับ ปริญญาโท ควบกันได้ ถ้าเราไหว
- เส้นทางสู่การเป็น อัยการ ผู้พิพากษา ไม่จำเป็นต้องจบปริญญาโท แต่ต้องจบเนติบัณฑิต
- แต่การเรียนปริญญาโท ทำให้โอกาสในการสอบเป็นผู้พิพากษา กับ อัยการของเรามากขึ้น
- ยิ่งเรียนปริญญาโทจากต่างประเทศ 2 ใบ โอกาสยิ่งมากขึ้นไปอีก
- การสอบผู้พิพากษาผมแทบไม่เคยได้ยินเรื่องเส้นสาย ข้อสอบรั่ว มั่นใจได้แทบ 100 % ว่าคนสอบได้มาจากความสามารถจริงๆ
- การสอบผู้พิพากษา มี 3 สนาม
1. สนามใหญ่
ป.ตรีนิติศาสตร์ + เนติ + ทำงานด้านกฎหมายในภาครัฐ 2 ปี หรือ เป็นทนายความว่าความตามจำนวนคดีที่เขากำหนด
สอบล่าสุด 4 สิงหาคม 2556 สมัคร 8000 คน ผ่าน 15 คน
2. สนามเล็ก
ป.ตรีนิติศาสตร์ + เนติ + ป.โท(ในไทย) + ทำงานด้านกฎหมายในภาครัฐ 1 ปี หรือ เป็นทนายความว่าความตามจำนวนที่เขากำหนด
สอบล่าสุด 8 มิถุนายน 2555 สมัคร 2,100 คน ผ่าน 35 คน
3. สนามจิ๋ว
ป.ตรีนิติศาสตร์ + เนติ + ป.โท 2 ใบ (เมืองนอก) + ทำงานด้านกฎหมายในภาครัฐ 1 ปี หรือ เป็นทนายความว่าความตามจำนวนที่เขากำหนด (ตรงนี้ไม่ชัวร์) สอบล่าสุด 18 กันยายน 2555 สมัคร 198 คน ผ่าน 46 คน
สู้ๆครับน้อง ตอนนี้พี่ก็เพิ่งจบ กำลังหางานนิติกร ราชการ + กำลังเรียนเนติ กะว่า ปีหน้าจะ เรียนปริญญาโท
ยินดีต้อนรับสู่วงการนิติศาสตร์ล่วงหน้าครับ
แสดงความคิดเห็น
อยากเป็นผู้พิพากษาต้องเริ่มต้นจากอะไรคะ