เมื่ออาทิตย์ที่แล้วผมได้บังเอิญเข้ามาอ่านกระทู้ในห้องศิลปะ
ได้เห็นภาพวาดสีไม้สวยๆ ของเพื่อสมาชิกหลายๆคน แล้วเกิดแรงบรรดาลใจอยากวาดภาพสีไม้บ้าง
ทั้งๆ ที่ตัวเองวาดภาพไม่เป็นมาตั้งแต่เด็ก ยิ่งระบายสีนี่ไม่ต้องพูดถึง
พอเริ่มโตขึ้นเรียนสายวิทย์ เรื่องวาดรูปนี่ไม่เคยได้แตะเลยมาเป็นสิบๆปี
แค่ได้เห็นภาพสีไม้สวยๆ ของเพื่อนๆ สมาชิก ก็เกิดอารมณ์อยากวาดรูปขึ้นมาอีกครั้ง
ผมจึงเริ่มค้นหาบทความ และวีดีโอการสอนวาดภาพด้วยสีไม้ในอินเตอร์เน็ต
ผมใช้เวลาศึกษาอยู่สองวัน จึงได้โอกาสไปซื้อสีไม้ กับสมุดวาดภาพ ที่ร้าน B2S
ได้สีไม้สเต็ดเลอร์ แบบ 24 สี ยางลบอย่างดี 1 ก้อน และสมุดวาดภาพเล่มเล็กๆ มาเล่มนึง
(ในใจก็เริ่มรู้สึกว่านี่เราจะเสียตังค์ฟรีหรือเปล่า กลัวจะวาดไม่ทันเสร็จก็ท้อไปซะก่อน)
กลับมาถึงบ้านเกือบ สามทุ่ม ด้วยความที่เครื่องกำลังร้อน อยากลองของเต็มแก่
เลยรีบเอาอุปกรณ์ที่เตรียมมา มาวางบนโต๊ะทำงานเพื่อเตรียมจะเริ่มวาด
รูปต้นแบบนั้น ผมเอารูปน้องแมวที่บ้านตอนที่ยังเล็กๆ น่ารัก มาเป็นแบบเพราะรู้สึกชอบรูปนี้ที่สุด
เป็นรูปตอนที่พาน้องมาบ้านครั้งแรก แล้วน้องยืดคอทำท่าอยากรู้อยากเห็นไปทุกอย่าง
ตอนนั้นน้องยังเล็กมาก เก็บน้องมาเพราะมีคนเอาน้องมาทิ้งที่ตลาดแห่งหนึ่ง
ตัวน้องเล็กกว่าฝ่ามิอ ต้องคอยป้อนนมด้วยไซลิ้งตลอดทุกๆ หกชั่วโมง
ทำแบบนี้ทุกวันนานหลายสัปดาห์กว่าน้องจะกินข้าวได้เอง
ทุกวันนี้น้องโตเป็นหนุ่มแล้ว แต่ผมเองยังจำความรู้สึกในช่วงนั้นได้ดี
ทั้งเหนื่อย ทั้งง่วง ทั้งเป็นห่วง และมีความสุขในเวลาเดียวกัน
พล่ามเรื่องน้องแมวซะเยอะ ขอกลับกลับมาที่การวาดรูปต่อครับ
พอได้รูปต้นแบบมาจึงเริ่มวาดตามวิธีที่ได้ศึกษามาในอินเตอร์เน็ต
เริ่มที่การร่างภาพ เนื่องจากไม่ใช่คนที่วาดรูปเก่ง จึงนั่งวาดๆลบๆอยู่นาน (มากกกกกก) กว่าจะร่างเสร็จ
ต่อมาคือเริ่มลงสี ก็ค่อยลงสี เริ่มต้นที่ตาของน้อง ลงสีดำ เว้นสีขาวไว้เป็นประกายเล็กน้อย มีลงสีน้ำตาลเพื่อเพิ่มมิตินิดหน่อย
ไล่ต่อไปที่ขน โดยการลงสีอ่อนก่อน แล้วลงสีเข้มที่หลังตามลำดับ ค่อยๆลงช้าๆ ค่อยๆปรับเทียบสีกับต้นฉบับอยู่เรื่อยๆ
ขั้นตอนนี้ใช้เวลานานมาก ถึงมากที่สุด ต้องนั่งขีดขนทีละเส้นๆไปเรื่อยๆ
หลังจากวาดขนชั้นแรกสีอ่อนเสร็จก็ต้องวาดขนสีเข็มชั้นถัดมาต่อ (เริ่มท้อ) ทำไปเรื่อยๆ สามสี่ชั้น ตามลำดับ
เสร็จแล้วยังไม่พอ ที่ศึกษามาเขาให้เก็บรายละเอียดแสงเงาอีก
ก็หยิบเอาสีน้ำตาลเข้ม สีเทา และสีดำ มานั่งเก็บลายละเอียด (รู้สึกว่าอันนี้ยากสุด ตรงที่สีเข้มมากๆ พอลงสีหลายชั้นก็เริ่มเป็นไขเงาๆ)
ตรงหนวดน้องนี่ก็วาดลำบากมาก (โคตรๆ) เพราะต้องเว้นสีไว้ห้ามระบายเกินมาตรงหนวดที่เป็นสีขาวของกระดาษ
เพราะดินสอสีที่ซื้อมาสีขาวก็ไม่มีไว้ให้ ถ้าระบายเกินมาก็นั่งลบกันมือหงิก
แถมติดปัญหาพื้นหลังเป็นสีขาวมองไม่เห็นหนวดน้อง ผมเลยเอาสีเทามาขีดเป็นเงาหนวดบางๆ ให้พอเห็นแยกออกมาจากพื้นหลัง
พอวาดเสร็จเป็นที่พอใจ เงยหน้ามองนาฬิกาอีกทีปาเข้าไปตีสองกว่าแล้ว
รวมแล้วรูปเล็กๆ ใช้เวลาไปตั้งห้าชั่วโมง ด้วยความที่วาดครั้งแรก ใช้เวลานั่งลบนั่งแก้นานมากกกกกกก
ผลงานที่ออกมาแม้ดูกากๆ ไม่เหมือนที่เคยศึกษาในเน็ต แต่โดยส่วนตัวแล้วพอใจมากครับ สำหรับรูปภาพสีไม้ภาพแรกในชีวิต
เหมือนความฝันในวัยเด็กเป็นจริงๆ อย่างไงอย่างงั้นเลยครับ (55+)
ไม่เคยคิดเลยจริงๆ ว่าชีวิตนี้จะมาเริ่มวาดภาพกะเขาได้ตอนอายุเกือบ 30 (T_T)
ประทับใจสีไม้มากครับ เลยั้งใจว่าจะเริ่มฝึกวาดต่อในเร็ววัน
ส่วนนี่คือผลงานครับ ภาพเอียงๆ เพราะใช้ไอแพดถ่ายครับ
ตอนนี้ผมเชื่อจริงๆ ครับ "ไม่มีคำว่าแก่เกินไป สำหรับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ"
ตอนเด็กๆ ใครเคยฝันว่าอยากทำอะไร แต่ไม่ได้ทำ หรือทำไม่ได้
แม้อายุเยอะขึ้นแต่ถ้ามีโอกาสได้ทำอีกครั้ง ก็ลองทำดูสักตั้ง อาจจะสำเร็จก็ได้นะครับ
ภาพวาดสีไม้ภาพแรกในชีวิต
ได้เห็นภาพวาดสีไม้สวยๆ ของเพื่อสมาชิกหลายๆคน แล้วเกิดแรงบรรดาลใจอยากวาดภาพสีไม้บ้าง
ทั้งๆ ที่ตัวเองวาดภาพไม่เป็นมาตั้งแต่เด็ก ยิ่งระบายสีนี่ไม่ต้องพูดถึง
พอเริ่มโตขึ้นเรียนสายวิทย์ เรื่องวาดรูปนี่ไม่เคยได้แตะเลยมาเป็นสิบๆปี
แค่ได้เห็นภาพสีไม้สวยๆ ของเพื่อนๆ สมาชิก ก็เกิดอารมณ์อยากวาดรูปขึ้นมาอีกครั้ง
ผมจึงเริ่มค้นหาบทความ และวีดีโอการสอนวาดภาพด้วยสีไม้ในอินเตอร์เน็ต
ผมใช้เวลาศึกษาอยู่สองวัน จึงได้โอกาสไปซื้อสีไม้ กับสมุดวาดภาพ ที่ร้าน B2S
ได้สีไม้สเต็ดเลอร์ แบบ 24 สี ยางลบอย่างดี 1 ก้อน และสมุดวาดภาพเล่มเล็กๆ มาเล่มนึง
(ในใจก็เริ่มรู้สึกว่านี่เราจะเสียตังค์ฟรีหรือเปล่า กลัวจะวาดไม่ทันเสร็จก็ท้อไปซะก่อน)
กลับมาถึงบ้านเกือบ สามทุ่ม ด้วยความที่เครื่องกำลังร้อน อยากลองของเต็มแก่
เลยรีบเอาอุปกรณ์ที่เตรียมมา มาวางบนโต๊ะทำงานเพื่อเตรียมจะเริ่มวาด
รูปต้นแบบนั้น ผมเอารูปน้องแมวที่บ้านตอนที่ยังเล็กๆ น่ารัก มาเป็นแบบเพราะรู้สึกชอบรูปนี้ที่สุด
เป็นรูปตอนที่พาน้องมาบ้านครั้งแรก แล้วน้องยืดคอทำท่าอยากรู้อยากเห็นไปทุกอย่าง
ตอนนั้นน้องยังเล็กมาก เก็บน้องมาเพราะมีคนเอาน้องมาทิ้งที่ตลาดแห่งหนึ่ง
ตัวน้องเล็กกว่าฝ่ามิอ ต้องคอยป้อนนมด้วยไซลิ้งตลอดทุกๆ หกชั่วโมง
ทำแบบนี้ทุกวันนานหลายสัปดาห์กว่าน้องจะกินข้าวได้เอง
ทุกวันนี้น้องโตเป็นหนุ่มแล้ว แต่ผมเองยังจำความรู้สึกในช่วงนั้นได้ดี
ทั้งเหนื่อย ทั้งง่วง ทั้งเป็นห่วง และมีความสุขในเวลาเดียวกัน
พล่ามเรื่องน้องแมวซะเยอะ ขอกลับกลับมาที่การวาดรูปต่อครับ
พอได้รูปต้นแบบมาจึงเริ่มวาดตามวิธีที่ได้ศึกษามาในอินเตอร์เน็ต
เริ่มที่การร่างภาพ เนื่องจากไม่ใช่คนที่วาดรูปเก่ง จึงนั่งวาดๆลบๆอยู่นาน (มากกกกกก) กว่าจะร่างเสร็จ
ต่อมาคือเริ่มลงสี ก็ค่อยลงสี เริ่มต้นที่ตาของน้อง ลงสีดำ เว้นสีขาวไว้เป็นประกายเล็กน้อย มีลงสีน้ำตาลเพื่อเพิ่มมิตินิดหน่อย
ไล่ต่อไปที่ขน โดยการลงสีอ่อนก่อน แล้วลงสีเข้มที่หลังตามลำดับ ค่อยๆลงช้าๆ ค่อยๆปรับเทียบสีกับต้นฉบับอยู่เรื่อยๆ
ขั้นตอนนี้ใช้เวลานานมาก ถึงมากที่สุด ต้องนั่งขีดขนทีละเส้นๆไปเรื่อยๆ
หลังจากวาดขนชั้นแรกสีอ่อนเสร็จก็ต้องวาดขนสีเข็มชั้นถัดมาต่อ (เริ่มท้อ) ทำไปเรื่อยๆ สามสี่ชั้น ตามลำดับ
เสร็จแล้วยังไม่พอ ที่ศึกษามาเขาให้เก็บรายละเอียดแสงเงาอีก
ก็หยิบเอาสีน้ำตาลเข้ม สีเทา และสีดำ มานั่งเก็บลายละเอียด (รู้สึกว่าอันนี้ยากสุด ตรงที่สีเข้มมากๆ พอลงสีหลายชั้นก็เริ่มเป็นไขเงาๆ)
ตรงหนวดน้องนี่ก็วาดลำบากมาก (โคตรๆ) เพราะต้องเว้นสีไว้ห้ามระบายเกินมาตรงหนวดที่เป็นสีขาวของกระดาษ
เพราะดินสอสีที่ซื้อมาสีขาวก็ไม่มีไว้ให้ ถ้าระบายเกินมาก็นั่งลบกันมือหงิก
แถมติดปัญหาพื้นหลังเป็นสีขาวมองไม่เห็นหนวดน้อง ผมเลยเอาสีเทามาขีดเป็นเงาหนวดบางๆ ให้พอเห็นแยกออกมาจากพื้นหลัง
พอวาดเสร็จเป็นที่พอใจ เงยหน้ามองนาฬิกาอีกทีปาเข้าไปตีสองกว่าแล้ว
รวมแล้วรูปเล็กๆ ใช้เวลาไปตั้งห้าชั่วโมง ด้วยความที่วาดครั้งแรก ใช้เวลานั่งลบนั่งแก้นานมากกกกกกก
ผลงานที่ออกมาแม้ดูกากๆ ไม่เหมือนที่เคยศึกษาในเน็ต แต่โดยส่วนตัวแล้วพอใจมากครับ สำหรับรูปภาพสีไม้ภาพแรกในชีวิต
เหมือนความฝันในวัยเด็กเป็นจริงๆ อย่างไงอย่างงั้นเลยครับ (55+)
ไม่เคยคิดเลยจริงๆ ว่าชีวิตนี้จะมาเริ่มวาดภาพกะเขาได้ตอนอายุเกือบ 30 (T_T)
ประทับใจสีไม้มากครับ เลยั้งใจว่าจะเริ่มฝึกวาดต่อในเร็ววัน
ส่วนนี่คือผลงานครับ ภาพเอียงๆ เพราะใช้ไอแพดถ่ายครับ
ตอนนี้ผมเชื่อจริงๆ ครับ "ไม่มีคำว่าแก่เกินไป สำหรับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ"
ตอนเด็กๆ ใครเคยฝันว่าอยากทำอะไร แต่ไม่ได้ทำ หรือทำไม่ได้
แม้อายุเยอะขึ้นแต่ถ้ามีโอกาสได้ทำอีกครั้ง ก็ลองทำดูสักตั้ง อาจจะสำเร็จก็ได้นะครับ