1. มีทางไหนไหม ที่ผมจะได้ของ โดยที่ไม่ต้องเสียเงินค่าดำเนินการจำนวน 2,500 บาท (ส่วนตัวผมมองว่ามันแพงมาก)
=> ต้องไปดำเนินการเองทันที แต่ไม่รับประกันว่าจะถูกกว่า 2,500 บาท เพราะทันทีที่ของ"ลงคลัง" ถ้าไม่ใช้บริการเคลีย์ของจาก FedEx ทาง FedEx จะคิดค่าเช่าคลัง(ค่าวางของทิ้งไว้ที่ FexEx)  คิดเป็นวันนับตั้งแต่วันที่ของอยู่ในคลัง จนคุณไปเอาของออกมาได้ ถ้าจำตัวเลขไม่ผิด ราคาต่อวันหลายร้อยบาทอยู่

2. เวย์ของ MuscleTech ทั้งสองตัว มีใบ อย.ไหม ถ้ามีแล้ว นั่นหมายความว่า ยังไงๆ ผมก็ได้ของใช่ไหม
=> ใบอย. ก็ต้องไปหามาว่ามีใครเคยเอาตัวนี้ไปขอใบ อย.ไว้ไหม แล้วก็ไปขอถ่ายสำเนามาแสดง(ปกติเค้าก็คิดเงิน) ถ้าไม่มีใครเคยขอไว้ คุณก็ต้องดำเนินการขอ อย. เอง โดยทำเรื่องเป็นขอผ่อนผันนำเข้าจำนวนเล็กน้อยเพื่อใช้ส่วนตัว ตรงนี้ก็ต้องไปวิ่งเรื่องเอง

3. ถึงแม้ว่าเวย์จะไม่มีใบ อย. แต่ผมสั่งมากินเอง แบบนี้ถือว่าไม่ผิดหรือเปล่าครับ แบบว่า ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน เด๋วกรมศุลก็ปล่อยออกมาเอง อะไรทำนองนี้
=> สั่งกินเองไม่ผิด แต่ถ้าของติดศุลกากรแล้วไม่เอาออกภายในเวลาที่กำหนด ของจะโดนตีกลับไปต้นทาง กรณีนี้ตราบใดที่ไม่มีใบ อย. ใดๆ มาแสดง คุณก็ไม่มีทางได้ของออกมาแน่นอน


ปล. คิดผิดตั้งแต่ส่ง FedEx แล้วครับ จากประสบการณ์ที่สั่งของจากต่างประเทศเป็นร้อยๆชิ้น บอกได้เลยว่าถ้าพร้อมจะเสียภาษี(ในราคาแพง)ส่ง FedEx ได้เลยครับ ส่งกี่ทีกี่ทีก็ติดภาษีตลอด(ความน่าจะเป็นเกิน 80% แถมด้วยความน่าจะเป็นในการ"ลงคลัง" อีก 15%) แถมติดภาษีแต่ละทีโดนแบบเคสแพงๆ ทั้งนั้น ส่งของผ่านยี่ห้อนี้มีดีอย่างเดียวครับคือเร็ว แต่ข้อเสียตลอดกาลคือ แพง และโง่ครับ ย้ำเลยว่าโง่ เพราะบางทีมันมีวิธีฉลาดกว่านั้นในการเอาของออกจากศุลกากร มันก็ไม่ทำ (คือ ของแบบเดียวกันส่งแบบเดียวกันต้องเสียภาษีเหมือนกัน ไอ้ยี่ห้อนี้มันยื่นภาษีให้ทีไรโดนแพงกว่าส่งด้วยเจ้าอื่นทุกที)

คราวหน้าถ้าส่งจากอเมริกา แนะนำ USPS (เวลาเข้าไปมันจะส่งทาง ไปรษณีย์ไทย) อันนี้ปลอดภัยสุด ไม่ค่อยงี่เง่า มีปัญหาก็เอาของออกเองได้ ระบบไม่ค่อยยุ่งยากและไม่แพง